คนท้องกินปลาทาโร่ได้ไหม

71 การดู
การกินปลาทาโร่ในระหว่างตั้งครรภ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณปรอทในปลา ซึ่งแตกต่างกันไปตามแหล่งที่จับและขนาดตัวปลา ควรเลือกปลาทาโร่ที่มีขนาดเล็กและมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อประเมินความเสี่ยงและรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ การรับประทานปลาทะเลอื่นๆ ที่มีปริมาณปรอทต่ำเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คนท้องกินปลาทาโร่ได้ไหม? คำตอบขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องโภชนาการ อาหารที่คุณรับประทานไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพของคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ด้วย ปลาเป็นแหล่งโปรตีนและสารอาหารที่สำคัญ เช่น กรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างไรก็ตาม ปลาบางชนิดอาจมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ปลาทาโร่เป็นหนึ่งในปลาที่ผู้คนสงสัยว่าปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือไม่

ปรอทในปลาทาโร่

ความกังวลหลักเกี่ยวกับปลาทาโร่คือปริมาณปรอท ปรอทเป็นโลหะหนักที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบประสาทของทารกในครรภ์ได้ ปริมาณปรอทในปลาทาโร่จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น แหล่งที่จับและขนาดของปลา ปลาทาโร่ขนาดใหญ่ที่มีอายุมากกว่าจะมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณปรอทสูงกว่าปลาขนาดเล็กที่อายุน้อยกว่า

คำแนะนำในการรับประทานปลาทาโร่สำหรับหญิงตั้งครรภ์

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) และสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์รับประทานปลาทาโร่ไม่เกิน 6 ออนซ์ (170 กรัม) ต่อสัปดาห์ คำแนะนำนี้ใช้ได้กับปลาทาโร่ที่ปรุงสุกแล้ว ปริมาณนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับปรอทในปริมาณมาก แต่ก็ยังช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากสารอาหารในปลาทาโร่

ทางเลือกอื่นสำหรับปลาทาโร่

หากคุณกังวลเกี่ยวกับปริมาณปรอทในปลาทาโร่ คุณสามารถเลือกปลาทะเลอื่นๆ ที่มีปริมาณปรอทต่ำกว่าได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาคอด ปลาแฮลิบัต และปลาเก๋า ปลาเหล่านี้ยังเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า-3

ปรึกษาแพทย์

ปรอทเป็นสารปนเปื้อนที่ร้ายแรง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปรึกษาแพทย์หรือโภชนาการเกี่ยวกับการบริโภคปลาทาโร่ในระหว่างตั้งครรภ์ พวกเขาสามารถประเมินความเสี่ยงเฉพาะของคุณและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณได้ การรับประทานปลาทะเลอื่นๆ ที่มีปริมาณปรอทต่ำเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์