เตารีดโดนขาทายาอะไร

17 การดู

เมื่อโดนเตารีด ให้ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ ซับให้แห้ง แล้วทาด้วยครีมลดการอักเสบ หรือเจลว่านหางจระเข้บางๆ ทาซ้ำได้บ่อยตามต้องการ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อเตารีดร้อนผลาญผิว… การดูแลแผลเบื้องต้นที่คุณควรทราบ

อุบัติเหตุจากเตารีดร้อนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะในครัวเรือนที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ความร้อนจากเตารีดสามารถทำให้เกิดแผลไหม้ได้ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงรุนแรง การรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเร่งการสมานแผล

หากคุณหรือคนใกล้ชิดประสบอุบัติเหตุจากเตารีด สิ่งแรกที่ควรทำคือ อย่าตกใจ และปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. ระบายความร้อน: สิ่งสำคัญที่สุดคือการระบายความร้อนจากบริเวณที่ถูกเตารีด ห้ามใช้ประคบน้ำแข็งโดยตรง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการบวมและเสียหายเพิ่มขึ้น ให้ใช้น้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้องล้างบริเวณที่ถูกเตารีดเบาๆ ประมาณ 10-15 นาที การล้างด้วยน้ำสะอาดจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและลดความร้อน อย่าถูหรือขัดบริเวณที่ไหม้

  2. ทำความสะอาดแผล: หลังจากระบายความร้อนแล้ว ควรล้างแผลด้วยน้ำเกลือ (น้ำสะอาดผสมเกลือเล็กน้อย) วิธีนี้ช่วยลดการติดเชื้อ ควรล้างเบาๆ อย่าขัดถู หลังจากนั้นซับแผลให้แห้งด้วยผ้าสะอาดที่นุ่ม

  3. ทาครีมหรือเจลบำรุง: ขั้นตอนนี้สำคัญมากในการบรรเทาอาการอักเสบและเร่งการสมานแผล สามารถทาครีมลดการอักเสบที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือเจลว่านหางจระเข้ที่มีความเข้มข้นต่ำ เจลว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ควรทาเป็นชั้นบางๆ และทาซ้ำได้บ่อยตามต้องการ

  4. สังเกตอาการ: ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการบวมแดงมากขึ้น มีหนอง มีไข้ หรือปวดมากผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันที นี่อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ

ข้อควรระวัง:

  • อย่าใช้ยาหรือครีมใดๆ บนแผลโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร บางชนิดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือทำลายผิวหนังเพิ่มขึ้น
  • อย่าใช้ยาสีฟันหรือน้ำมันต่างๆ บนแผลไหม้ วิธีเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นและอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  • สำหรับแผลไหม้ระดับรุนแรง (มีตุ่มน้ำขนาดใหญ่ มีผิวหนังไหม้ลึก หรือมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง) ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด แพทย์จะประเมินความรุนแรงของแผลและให้การรักษาที่เหมาะสม

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเร่งการสมานแผล แต่ควรระลึกไว้เสมอว่านี่เป็นเพียงการดูแลเบื้องต้น หากมีอาการรุนแรงหรือไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ความปลอดภัยของคุณและคนในครอบครัวสำคัญที่สุดเสมอ