เมนส์หมดมีลูกได้ไหม

หมดประจำเดือนแล้ว ผู้ชายยังมีลูกได้ไหม? ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับภาวะหมดประจำเดือนชาย และความเป็นไปได้ในการมีบุตร

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าภาวะหมดประจำเดือนเกิดขึ้นได้เฉพาะในผู้หญิง ความจริงแล้วผู้ชายก็มีภาวะคล้ายคลึงกันที่เรียกว่า “ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย” หรือ “Andropause” ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผู้ชายจะ “หมดประจำเดือน” ในแบบเดียวกับผู้หญิง แต่หมายถึงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ลดลงตามอายุ ซึ่งส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ความต้องการทางเพศ มวลกล้ามเนื้อ และพลังงาน

คำถามสำคัญคือ ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย หรือ Andropause ส่งผลต่อความสามารถในการมีบุตรของผู้ชายหรือไม่?

คำตอบคือ ส่งผลกระทบ แต่ไม่ได้หมายความว่ามีบุตรไม่ได้ แม้ระดับเทสโทสเตอโรนที่ลดลงจะส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของอสุจิ ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติลดลง แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ที่อยู่ในภาวะนี้ยังคงผลิตอสุจิได้อยู่ ดังนั้น การมีบุตรยังคงเป็นไปได้ โดยอาจต้องอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น

• การเก็บอสุจิ: แพทย์จะเก็บตัวอย่างอสุจิ นำไปคัดแยก และเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิสนธิ
• การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF): เป็นเทคโนโลยีที่นำไข่และอสุจิมารวมกันในห้องปฏิบัติการ แล้วนำตัวอ่อนที่ได้ไปฝังในมดลูกของฝ่ายหญิง
• การฉีดอสุจิเข้าไปในไซโทพลาสซึมของไข่ (ICSI): เป็นเทคนิคที่ฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาคุณภาพอสุจิอย่างรุนแรง

สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา:

• อายุของฝ่ายหญิง: อายุของฝ่ายหญิงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการมีบุตร ยิ่งอายุมากขึ้น คุณภาพของไข่ก็จะยิ่งลดลง
• สุขภาพโดยรวม: สุขภาพโดยรวมของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเป็นสิ่งสำคัญ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและประเมินความพร้อมก่อนตัดสินใจ
• ค่าใช้จ่าย: เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ควรเตรียมความพร้อมด้านการเงิน

สรุป: ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายในผู้ชาย ไม่ได้หมายความว่าหมดโอกาสในการมีบุตร แม้ความสามารถในการมีบุตรตามธรรมชาติจะลดลง แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่สามารถช่วยให้คู่สมรสที่มีปัญหาเหล่านี้มีบุตรได้ สิ่งสำคัญคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำ ตรวจประเมิน และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม