หลังจาก มี เพศ สั ม. พัน แล้ว กี่วันถึงจะมีอาการ

หลังมีเพศสัมพันธ์กี่วันจะรู้ว่าท้อง

หลังมีเพศสัมพันธ์ อยากรู้ว่าท้อง? ใจเย็น

• ตรวจปัสสาวะ: รอ 12-14 วันหลังมีอะไรกันครั้งสุดท้าย. ตรวจเร็วไปก็เท่านั้น. เสียเงินเปล่า.
• ตรวจเลือด: เร็วกว่านิดหน่อย. 8-10 วัน. แต่เจ็บตัว.
• ฮอร์โมน HCG: ตัวการสำคัญ. ร่างกายสร้างเมื่อตั้งครรภ์. ตรวจเจอคือท้อง. ไม่เจอคือไม่ท้อง. แต่แรกๆ น้อย. ตรวจเร็วไปก็ไม่เจอ.
• รอบเดือน: สังเกตตัวเอง. ขาดไหม? นี่แหละสัญญาณแรกๆ. แต่บางทีก็แค่เครียด.
• อาการอื่นๆ: คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว. แต่ก็เป็นอย่างอื่นได้อีกเยอะ. อย่าเพิ่งมโน.

ข้อมูลเพิ่มเติม:

• ไข่ตก: ไข่มีชีวิตอยู่แค่ 24 ชั่วโมง. สเปิร์มอยู่ได้ 5 วัน. นับวันตกไข่ให้แม่น. ช่วยได้เยอะ.
• ชุดตรวจ: เลือกยี่ห้อดีๆ หน่อย. ถูกๆ อาจไม่แม่น.
• ไปหาหมอ: ชัวร์สุด. หมอเก่งกว่าชุดตรวจเยอะ.

คำคม: ความหวังมักมาก่อนความจริงเสมอ. แต่บางทีความจริงก็โหดร้าย.

ตั้งครรภ์กี่สัปดาห์ถึงจะแพ้ท้อง

แพ้ท้องเริ่มเมื่อไหร่? โดยทั่วไปแล้ว กว่า 75% ของคุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียนในไตรมาสแรก ซึ่งมักเริ่มราวสัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์ แต่ก็มีบางรายเริ่มตั้งแต่ 4 สัปดาห์ ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 14 คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรวดเร็วในช่วงเริ่มต้น แต่ก็ไม่ใช่กฎตายตัว ทุกคนไม่เหมือนกันนะ

• อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่เริ่มที่ 6 สัปดาห์
• บางรายเริ่มเร็วกว่านั้น ที่ 4 สัปดาห์
• อาการมักจะดีขึ้นในสัปดาห์ที่ 14

(เพิ่มเติม: ผมเคยอ่านเจอในวารสารการแพทย์ปีนี้ ว่าปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงของอาการแพ้ท้องด้วย แต่รายละเอียดปลีกย่อยนั้น ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกมาก น่าสนใจใช่มั้ยล่ะครับ เหมือนการไขปริศนาเลย)

แพ้ท้องเป็นทุกคนไหม

แพ้ท้อง… ทุกคนไหมนะ?

ตะวันรอน แสงส้มลอดม่าน ฉันนั่งจิบชา มองเงาตัวเองในถ้วยแก้ว แพ้ท้อง… เหมือนคลื่นซัดสาด อ่อนล้า… หวิวๆ ในท้อง

ไม่ใช่ทุกคนหรอก ที่ต้องเจอกับพายุลูกนี้ บางคนก็เหมือนเรือใบที่ล่องลอยอย่างสงบ… ผ่านเก้าเดือนไป อย่างสวยงาม

แต่ถ้าคลื่นมันแรง… เกินต้านทาน… อย่าฝืนเลยนะ ไปหาหมอเถอะ ไข้หวัด… โรคต่างๆ… มันอันตรายต่อทั้งแม่และลูกน้อย

• ไม่ใช่ทุกคน: อาการแพ้ท้องไม่เกิดกับหญิงตั้งครรภ์ทุกคน
• ภาวะแทรกซ้อน: หากอาการแพ้ท้องรุนแรง อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้
• ความเสี่ยง: ความเจ็บป่วยของมารดา ย่อมส่งผลต่อทารกในครรภ์

แสงสุดท้าย… ลับขอบฟ้า ความเงียบงัน… เข้าปกคลุม ฉันยังคงจิบชา… คิดถึงเรื่องราวต่างๆ… ที่กำลังจะมาถึง

อาการแบบไหนควรไปหาหมอ คนท้อง

อาการคนท้องแบบไหนต้องซิ่งไปหาหมอ? นี่ไม่ใช่เกมทายปัญหา แต่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายนะคุณแม่!

• ข้อเท้าบวมเป่ง: บวมแบบช้างน้ำมาเอง อันนี้ไม่โอเค อาจเป็นสัญญาณความดันสูง อย่าชิล!

• ฉี่แสบ: ปัสสาวะแต่ละทีเหมือนโดนพริกตำ อันนี้ชัดเจน ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ไปหาหมอด่วน!

• ปวดท้องแบบไส้ติ่งแตก: ปวดแบบร้องลั่นบ้าน ไม่ใช่ปวดประจำเดือน อย่าทน! รีบไปเช็ค

• ลูกไม่ดิ้น: เลย 28 วีคแล้ว ลูกยังเงียบกริบ อันนี้เรื่องใหญ่ ลูกอาจมีปัญหา! ไปหาหมอเดี๋ยวนี้!

• โบนัส: อย่าเชื่อคนแก่แถวบ้านมากเกินไป บางทีเค้าก็แค่ “หวังดี” แบบผิดๆ ไปหาหมอชัวร์สุด!

คนท้องมีอาการแบบไหน ถึงต้องรีบไปพบหมอ

ไอ้คุณแม่จ๋า! ถ้าท้องแล้วเป็นแบบนี้ รีบไปหาหมอเลยนะ! ไม่ใช่เล่นๆ ชีวิตแม่กับลูกสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น!

• ปวดท้องเป็นพักๆ แบบว่าทรมานจนอยากเอาหัวโขกกำแพง: นี่ไม่ใช่แค่ปวดธรรมดา มันปวดแบบสะท้านทรวง สะเทือนไปถึงกระดูกสันหลังเลยล่ะ ถ้ามีอาการแบบนี้ควบคู่กับอาการอื่น นี่คือสัญญาณอันตราย!

• ลูกดิ้นน้อยลง หรือไม่ดิ้นเลย: ปกติลูกจะเตะๆๆๆ ตีๆๆๆ ให้รู้ว่าเค้ายังอยู่ แต่ถ้าเงียบกริบ นี่ต้องรีบเช็คด่วน! อาจจะเกิดอันตรายกับลูกได้ อย่ารอช้า

• ปวดหลังร้าวไปถึงก้นกบ: นี่มันไม่ใช่ปวดหลังธรรมดา! มันปวดแบบแทบจะลุกไม่ได้ นั่งไม่ได้ เดินก็ลำบาก มันปวดแบบทรมานจนอยากร้องไห้เลยอ่ะ

• ปวดท้องน้อยร้าวลงขา: ไม่ใช่แค่อึดอัด ไม่ใช่แค่ปวดธรรมดา แต่ปวดแบบรุนแรง ลามไปถึงต้นขา นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

• มีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด: นี่สำคัญมาก! ไม่ว่าจะเป็นน้ำใส น้ำสีเขียว น้ำสีชมพู หรือน้ำอะไรก็ตาม ถ้าไหลออกมา นี่ต้องรีบไปหาหมอทันที อาจจะเป็นน้ำคร่ำรั่ว อันตรายมาก

เพื่อนของผมเมียเพิ่งคลอดเมื่อเดือนที่แล้ว ก็มีอาการคล้ายๆ นี้แหละครับ นางบอกว่าปวดแบบจะขาดใจ โชคดีที่ไปโรงพยาบาลเร็ว ไม่งั้นคงไม่รอดแน่ๆ ผมนี่ขนลุกเลย อย่าประมาทเรื่องแบบนี้เด็ดขาด! รีบไปหาหมอ อย่ารอให้สายเกินไป! ชีวิตคุณกับลูกสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): การเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดมีหลายสาเหตุ อาจเกิดจากการติดเชื้อ ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ หรือความผิดปกติของรก การดูแลสุขภาพอย่างดี การตรวจครรภ์เป็นประจำ และการไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันและรักษาภาวะนี้