ไข้เลือดออกในเด็กต้องนอน รพ ไหม

ไข้เลือดออกในเด็ก: ทำไมต้องใส่ใจ และเมื่อไหร่ที่ต้องนอนโรงพยาบาล?

ไข้เลือดออกเป็นโรคที่น่ากังวลสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีผื่นขึ้นตามร่างกาย อาการเหล่านี้ไม่ใช่แค่สัญญาณเตือนเบื้องต้น แต่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเราควรใส่ใจและรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็วที่สุด

ทำไมไข้เลือดออกในเด็กถึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ?

ไข้เลือดออกเป็นโรคที่สามารถพัฒนาไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ภาวะที่น่ากังวลที่สุดคือ ภาวะช็อกจากการรั่วของพลาสมา ซึ่งเกิดจากการที่น้ำในหลอดเลือดซึมออกไปสู่ภายนอก ทำให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง ส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำ อวัยวะต่างๆ ขาดเลือดไปเลี้ยง และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เมื่อไหร่ที่ไข้เลือดออกในเด็กต้องนอนโรงพยาบาล?

การตัดสินใจว่าเด็กที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกจะต้องนอนโรงพยาบาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่แพทย์จะต้องพิจารณาอย่างละเอียด ดังนี้:

• อาการและความรุนแรงของโรค: หากเด็กมีอาการรุนแรง เช่น อาเจียนอย่างต่อเนื่อง ซึมลง ปวดท้องรุนแรง เลือดออกผิดปกติ หรือมีสัญญาณของภาวะช็อก แพทย์มักจะแนะนำให้นอนโรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและให้การรักษาอย่างทันท่วงที
• อายุและสุขภาพของเด็ก: เด็กเล็ก (โดยเฉพาะทารก) และเด็กที่มีโรคประจำตัว (เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน) มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากไข้เลือดออก แพทย์จึงมักจะแนะนำให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด
• ความสามารถในการรับประทานอาหารและดื่มน้ำ: หากเด็กไม่สามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้เพียงพอเนื่องจากอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเบื่ออาหาร อาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ แพทย์อาจพิจารณาให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป ซึ่งจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล
• ความสามารถในการดูแลที่บ้าน: หากผู้ปกครองไม่สามารถดูแลเด็กได้อย่างใกล้ชิดที่บ้าน หรือไม่สามารถสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงของเด็กได้อย่างถูกต้อง แพทย์อาจแนะนำให้นอนโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัย
• ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ: ผลการตรวจเลือด เช่น จำนวนเกล็ดเลือด ค่าความเข้มข้นของเลือด (Hematocrit) หรือค่าการทำงานของไต อาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงความรุนแรงของโรค และช่วยให้แพทย์ตัดสินใจได้ว่าจะต้องนอนโรงพยาบาลหรือไม่

ทำไมการนอนโรงพยาบาลจึงสำคัญ?

การนอนโรงพยาบาลช่วยให้แพทย์และพยาบาลสามารถ:

• ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด: สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น อาการของภาวะช็อก ภาวะเลือดออก หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
• ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ: ชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปจากอาการอาเจียนและไข้สูง ป้องกันภาวะขาดน้ำและภาวะช็อก
• ให้ยาบรรเทาอาการ: ลดไข้ ลดอาการปวดเมื่อย และบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน
• ให้เลือดหรือส่วนประกอบของเลือด: ในกรณีที่เด็กมีภาวะเลือดออกรุนแรง หรือเกล็ดเลือดต่ำมาก
• ให้การรักษาภาวะแทรกซ้อน: หากเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะช็อก หรืออวัยวะล้มเหลว

สรุป

ไข้เลือดออกเป็นโรคที่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็ก การพาเด็กไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การนอนโรงพยาบาลอาจจำเป็นในบางกรณี เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น การตัดสินใจว่าเด็กจะต้องนอนโรงพยาบาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์เป็นรายบุคคล โดยคำนึงถึงอาการ ความรุนแรงของโรค อายุ สุขภาพ และความสามารถในการดูแลที่บ้าน หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับไข้เลือดออก ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสม