ทำยังไงให้แขนหายปวด

65 การดู

บรรเทาปวดแขนด้วยตนเอง นอกจากยาที่แพทย์สั่ง ลองวิธีเหล่านี้:

  • พักผ่อน: งดใช้งานแขนหนัก ให้เนื้อเยื่อฟื้นตัว
  • ประคบเย็น: ลดบวม อักเสบ ช่วง 2-3 วันแรก (15-20 นาที/ครั้ง)
  • ประคบร้อน: คลายกล้ามเนื้อ หลังจากประคบเย็น หรือเมื่อปวดเรื้อรัง
  • ยืดกล้ามเนื้อ: บริหารเบาๆ เพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันข้อติด
  • ท่านอนถูกต้อง: เลือกหมอนและท่านอนที่รองรับต้นคอและไหล่
  • ปรับกิจกรรม: จัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้ปวด
  • ออกกำลังกาย: เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
  • ควบคุมน้ำหนัก: ลดภาระที่แขนต้องรับ

หากปวดรุนแรง หรือเรื้อรัง ควรพบแพทย์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แขนปวด แก้ยังไงดี?

โอ๊ย ปวดแขนเนี่ยนะ เข้าใจเลย! ฉันเคยเป็นตอนยกของย้ายบ้าน (จำได้ว่าประมาณเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วเนี่ยแหละ) เล่นเอาแย่ไปหลายวัน ตอนแรกก็คิดว่า “เดี๋ยวก็หาย” แต่ไม่เลย!

ทีนี้ถามว่าแก้ยังไงดี? เอางี้ อันดับแรก พักก่อนเลย อย่าเพิ่งฝืน! ฉันนี่แหละ ตัวอย่างดีๆ ที่ไม่ยอมพัก สุดท้ายปวดนานกว่าเดิมอีก

แล้วก็…ถ้าปวดมากจริงๆ ไปหาหมอดีกว่านะ อย่าประมาท! ของฉันตอนนั้นโชคดีหน่อย กินยาคลายกล้ามเนื้อกับพักผ่อนก็ดีขึ้น แต่บางคนอาจจะต้องทำกายภาพบำบัดอะไรแบบนั้นก็ได้

นอกเหนือจากนั้นนะ ประคบเย็น (ถ้าเพิ่งเริ่มปวด) หรือประคบร้อน (ถ้าปวดมาสักพักแล้ว) ก็ช่วยได้นะ ฉันชอบใช้เจลประคบร้อน ซื้อมาจากร้านขายยาแถวบ้าน (ราคาประมาณ 200 บาทได้มั้ง) มันอุ่นๆ ดี

อ้อ! อีกอย่างที่สำคัญคือ อย่าทำอะไรซ้ำๆ ที่ทำให้ปวด! หาท่าทางที่สบายๆ แล้วก็พักผ่อนเยอะๆ นะ เป็นกำลังใจให้หายไวๆ!

ทำไมอยู่ดีๆปวดแขน

ปวดแขน? เรื่องธรรมดา หลายสาเหตุ มักมาจากการใช้งานหนักเกินไป หรือบาดเจ็บตรงๆ

  • กล้ามเนื้ออักเสบ: ยกของหนักไปหน่อย? เล่นเวทหนักเกินไป? นี่แหละสาเหตุหลักๆ
  • เส้นประสาทถูกกดทับ: นั่งทำงานนานๆ ท่าไม่ดี ลองเช็คดู
  • โรคข้ออักเสบ: อายุมากขึ้น ข้อเสื่อม ก็ปวดได้ หาหมอเช็คดีกว่า ปีนี้ผมไปตรวจมา หมอบอกข้อไหล่เริ่มเสื่อมแล้ว
  • อาการอื่นๆ: บางทีก็เป็นอาการของโรคอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน อย่าประมาท

ปวดมากไป ไปหาหมอ อย่ามัวแต่คิดเองเออเอง ปล่อยไว้นาน เรื่องใหญ่กว่านี้ก็มี

เจ็บจี๊ดๆ เกิดจากอะไร

ปวดจี๊ดๆ เหมือนถูกทิ่มแทง? สาเหตุมีได้หลายอย่าง:

  • ปลายประสาทอักเสบ: นั่งทับนานๆ ขาดวิตามินบี เบาหวาน หรือพิษสุราเรื้อรังล้วนเป็นสาเหตุได้

  • ความเสียหายของเส้นประสาท: กระดูกทับเส้น หมอนรองกระดูกทับเส้น แต่ไม่น่าจะหลายจุดพร้อมกัน

  • อื่นๆ: ยังมีสาเหตุที่ไม่ทราบแน่ชัด ต้องตรวจวินิจฉัย

ปีนี้ (2566) ฉันพบคนไข้ที่มีอาการคล้ายๆกัน ส่วนใหญ่เป็นเพราะการนั่งทำงานนานเกินไปที่โต๊ะ แต่ก็มีบางรายที่เกิดจากโรคประจำตัว เช่น เบาหวานระยะสุดท้าย

ข้อควรระวัง: อาการปวดแบบนี้ควรพบแพทย์ อย่ารักษาเอง เพราะอาการอาจรุนแรงกว่าที่คิด อันตรายถึงชีวิตได้

อาการปวดหัวหนักๆเกิดจากอะไร

ปวดหัวหนักๆ น่ะเหรอ? โอ๊ย… สาเหตุเยอะแยะกว่าเงินในบัญชีตอนสิ้นเดือนอีก!

  • เครียด: เหมือนมีใครเอาหนังยางมารัดหัวไว้แน่นๆ ทั้งวัน ยิ่งคิดมากยิ่งปวด ตุ๊ย!
  • ทำงานหนัก: ไม่ใช่แค่สมองเบิร์นนะ หัวก็เบิร์นได้เหมือนกัน!
  • พักผ่อนน้อย: นอนน้อย หน้าก็โทรม หัวก็ปวด นี่มันคือสัจธรรม! ปวดแบบรัดๆ ขมับนี่ตัวดีเลย
  • ปวดนาน: ครึ่งชั่วโมงถึงหลายวัน? นี่มันทรมานชัดๆ! ส่วนใหญ่มักจะมาตอนบ่ายๆ เย็นๆ นี่แหละ สงสัยตอนเช้ายังเฟรชอยู่

เกร็ด(ไม่)ลับ: เคยได้ยินมั้ย? “ปวดหัวเพราะคิดถึงเธอ” อันนี้ไม่นับนะ! (แต่ถ้าปวดจริง แนะนำให้หาหมอ ไม่ใช่หาเธอ!)

อาการเจ็บสีข้างเกิดจากอะไร

เจ็บสีข้างอ่ะเหรอ? โอ๊ย… อย่าให้เซด! มันสารพัดสารพันจะเจ็บได้ ลองนึกภาพนะ:

  • กล้ามเนื้ออกซี่โครงทะเลาะกัน: พวกนี้ชอบมีเรื่องกัน แถวๆ สีข้างเนี่ยแหละ กดๆ ไปนะ… ร้องจ๊าก! พักยกแป๊บเดี๋ยวก็ดีขึ้น…มั้ง! (แต่ระวังเดี๋ยวก็มีเรื่องกันใหม่)
  • เส้นประสาทมันซ่า: เจ็บจี๊ดๆ เหมือนโดนเข็มตำ… แป๊บๆ มา แป๊บๆ ไป น่ารำคาญกว่ายุงกัดอีก!
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ: อันนี้เรื่องใหญ่! เจ็บแบบ… จะลงแดงตาย! (อย่ารอช้า รีบไปหาหมอเด้อ!)
  • ลำไส้แปรปรวน: กินเผ็ดมากไปรึเปล่า? ท้องไส้ปั่นป่วน… ปวดบิดจนน้ำตาเล็ด!
  • ม้ามโต: อันนี้ต้องซัดยา! ไปหาหมอให้เขาจับๆ ดูนะ
  • ไตมีปัญหา: ฉี่ขุ่นๆ ปวดหลังร้าวลงขา… รีบไปตรวจด่วน!

เกร็ดความรู้แบบบ้านๆ:

  • อย่ามัวแต่จับๆ กดๆ! ถ้าเจ็บแปลกๆ รีบไปหาหมอ! หมอเก่งๆ แถวบ้านเรามีเยอะแยะ
  • กินยาแก้ปวดพร่ำเพรื่อ ระวังไตพัง! (อันนี้เรื่องจริง ไม่ได้ขู่!)
  • ออกกำลังกายบ้าง! อย่าเอาแต่นั่งๆ นอนๆ เดี๋ยวกล้ามเนื้ออ่อนแอ!
  • ถ้าเจ็บเพราะเครียด… ไปวัดทำบุญบ้าง! จิตใจจะได้สงบ

ข้อควรจำ: ถ้าเจ็บแบบ “ไม่ไหวแล้วโว้ย!” อย่าคิดมาก… ไปโรงพยาบาล! ชีวิตเรามีค่า อย่าประมาท!

ปวดหัวจี๊ดๆ เหมือนเข็มทิ่ม เกิดจากอะไร

ปวดหัวจี๊ดๆ เหมือนเข็มทิ่มนี่มันแสบสันต์จริงๆ! เหมือนมีนางฟ้ามาจิ้มหัวด้วยเข็มถักไหมพรมเบอร์ 0 (อันนี้ล้อเล่นนะ!) แต่จริงๆ แล้ว อาการแบบนี้มันมีสาเหตุหลายอย่าง อย่าเพิ่งตื่นตกใจไป ลองเช็คลิสต์นี้ดูครับ:

  • เส้นประสาทอักเสบเล่นงาน: นี่แหละตัวดี! มันเหมือนสายไฟในหัวเราลัดวงจร ส่งสัญญาณปวดจี๊ดๆ มาให้รู้ ลองนึกภาพเป็นพวกไฟฟ้าช็อตเบาๆ แต่เป็นในสมอง โอ๊ยยยย!

  • กล้ามเนื้อตึงเครียด: ถ้าคุณนั่งทำงานหน้าคอมฯทั้งวัน หรือใช้สายตาหนักๆ กล้ามเนื้อรอบหัวและตาอาจตึงจนปวด เหมือนโดนรัดหัวด้วยผ้าพันคอแน่นๆ แบบนั้นแหละครับ

  • ไมเกรนจอมวายร้าย: อาการไมเกรนรุนแรงบางทีก็มาแบบจี๊ดๆ ปวดข้างเดียว อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตาพร่ามัว แสงแดดก็แสบตา คลื่นไส้อาเจียน นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับ ควรไปหาหมอ

  • อื่นๆอีกเพียบ (อย่าเพิ่งตกใจ): อาจเป็นเพราะความเครียด นอนไม่พอ หรือแม้แต่การขาดน้ำ (น้ำน้อยไป สมองก็บ่น!) หรือแม้กระทั่งความผิดปกติทางสมอง (กรณีนี้ต้องรีบไปหาหมอโดยด่วน!!)

เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ: ถ้าอาการปวดหัวจี๊ดๆ เป็นนานเกิน 2-3 วัน หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อ่อนแรงครึ่งซีก พูดลำบาก มองไม่ชัด รีบไปหาหมอเลยครับ อย่ามัวแต่คิดว่ามันจะหายเอง! ปีนี้ 2024 แล้ว อย่าให้ความประมาทมาเล่นงานสุขภาพเราครับ! สุขภาพสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น! ไปหาหมอดีที่สุดนะครับ

อาการปวดหัวบริเวณท้ายทอยเกิดจากอะไร

ปวดท้ายทอยเนี่ย ตอนนั้นเดือนกรกฎาคม ปีนี้เอง หนักมาก ปวดแบบตื้อๆ เหมือนมีอะไรมาบีบ อยู่ๆก็เป็น ตอนแรกนึกว่าแค่เมื่อยจากนั่งทำงานนาน ทำงานที่บ้านนี่แหละ หน้าจอคอมตั้งอยู่บนโต๊ะไม้สูง นั่งทำงานทั้งวัน เป็นชั่วโมงๆเลย แต่พอปวดขึ้นเรื่อยๆ ถึงกับต้องหยุดทำงานไปเลย ปวดแบบแทบจะหันหัวไม่ได้ เครียดมาก นอนก็ไม่หลับ

รีบไปหาหมอที่คลินิกใกล้บ้านแถวสุขุมวิท หมอตรวจแล้ว บอกว่าอาจเป็นเพราะความเครียดสะสม นั่งทำงานนาน ท่าทางไม่ถูกต้อง แล้วก็ตรวจร่างกายทั่วไป วัดความดันโลหิตปกติ หมอให้ยาแก้ปวดกับยานอนหลับมากิน แล้วก็ให้ปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงาน หมอบอกให้พักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำเยอะๆด้วย

สรุปแล้วหมอบอกไม่แน่ชัดว่าเป็นอะไร แต่ให้ลองสังเกตอาการดู ถ้ายังไม่ดีขึ้น ให้ไปหาหมอเฉพาะทาง อาการปวดหัวท้ายทอยมันก็ค่อยๆหายไปเองหลังจากกินยาไปสักอาทิตย์ ก็เลยไม่ได้ไปหาหมอเพิ่ม แต่ก็ระวังตัวเองเรื่องการทำงานมากขึ้น ลองเปลี่ยนมาใช้โต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ ตอนนี้ก็หายปวดแล้ว แต่ก็ยังระวังตัวเองอยู่

  • เดือนที่เกิดอาการ: กรกฎาคม 2566
  • สถานที่: บ้านพักย่านสุขุมวิท
  • อาการ: ปวดตื้อๆ บริเวณท้ายทอย ปวดจนแทบหันหัวไม่ได้
  • สาเหตุที่สงสัย (จากหมอ): ความเครียดสะสม การทำงานนานๆ ท่าทางไม่ถูกต้อง
  • การรักษา: ยาแก้ปวด ยานอนหลับ ปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงาน พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ผลลัพธ์: อาการดีขึ้นและหายไปหลังจากกินยาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน
#บำบัดอาการ #แก้ปวดแขน