ภูมิแพ้ ถือว่าเป็นโรคประจําตัวไหม

30 การดู

ภูมิแพ้ ถือเป็นโรคประจำตัวชนิดหนึ่ง ควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งเพื่อประกอบการวินิจฉัยและรักษา เพราะอาจส่งผลต่อการเลือกใช้ยา หรือการรักษาโรคอื่นๆ เช่น หากมีอาการผื่นคันร่วมกับประวัติภูมิแพ้ แพทย์อาจพิจารณาว่าผื่นนั้นเกิดจากภูมิแพ้ได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภูมิแพ้: ใช่…แต่ก็ไม่ใช่ “โรคประจำตัว” แบบที่เราคิด

หลายคนอาจสงสัยว่า “ภูมิแพ้” ที่เราเป็นๆ หายๆ นั้นถือเป็น “โรคประจำตัว” จริงหรือ? คำตอบคือ ใช่ ในแง่ที่ว่า มันเป็นภาวะที่อยู่กับเราไปตลอดชีวิต แต่ก็ ไม่ใช่ ในแง่ที่ว่า มันไม่ได้แสดงอาการอยู่ตลอดเวลา และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเท่ากับโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง

ทำไมภูมิแพ้ถึงถูกมองว่าเป็นโรคประจำตัว?

เหตุผลหลักที่ทำให้ภูมิแพ้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโรคประจำตัวก็คือ “พันธุกรรม” คนที่มีประวัติครอบครัวเป็นภูมิแพ้ มีแนวโน้มที่จะเป็นภูมิแพ้มากกว่าคนทั่วไป นั่นหมายความว่าเรามีความเสี่ยงที่จะ “ถูกกระตุ้น” ให้เกิดอาการแพ้ได้ตลอดเวลา เพียงแต่เราอาจยังไม่เคยเจอกับสารก่อภูมิแพ้นั้นๆ เท่านั้นเอง

นอกจากนี้ ภูมิแพ้ยังเป็น “ภาวะเรื้อรัง” ที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ สิ่งที่เราทำได้คือ ควบคุมอาการ และ หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เท่านั้น ซึ่งการควบคุมอาการก็ต้องอาศัยการดูแลอย่างต่อเนื่อง และอาจต้องใช้ยาเป็นครั้งคราว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ภูมิแพ้ถูกมองว่าเป็นโรคประจำตัวชนิดหนึ่ง

แล้วภูมิแพ้แตกต่างจากโรคประจำตัวอื่นๆ อย่างไร?

ความแตกต่างที่สำคัญคือ “ความรุนแรงของอาการ” โรคประจำตัวอื่นๆ เช่น เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง หากไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ ในขณะที่ภูมิแพ้ส่วนใหญ่ (ยกเว้นการแพ้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หรือ anaphylaxis) มักจะแสดงอาการเพียงเล็กน้อย เช่น คัน จาม น้ำมูกไหล หรือผื่นขึ้น ซึ่งอาจสร้างความรำคาญ แต่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต

อีกประเด็นที่แตกต่างคือ “การควบคุมอาการ” โรคประจำตัวอื่นๆ มักต้องอาศัยการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัด ในขณะที่ภูมิแพ้ เราสามารถควบคุมอาการได้โดยการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และใช้ยาเฉพาะเมื่อมีอาการเท่านั้น

ทำไมต้องแจ้งแพทย์เมื่อเป็นภูมิแพ้?

ถึงแม้ว่าภูมิแพ้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่การแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการแพ้ของเราก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะอาจมีผลต่อการวินิจฉัยและการรักษาโรคอื่นๆ เช่น:

  • การเลือกใช้ยา: ยาบางชนิดอาจมีส่วนประกอบที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นการแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการแพ้ของเรา จะช่วยให้แพทย์สามารถเลือกใช้ยาที่ปลอดภัยกว่าได้
  • การวินิจฉัยโรค: อาการบางอย่าง เช่น ผื่นคัน อาจมีสาเหตุมาจากภูมิแพ้ หรืออาจเป็นอาการของโรคอื่นๆ การแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการแพ้ จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
  • การวางแผนการรักษา: ในบางกรณี การแพ้อาจส่งผลต่อการวางแผนการรักษา เช่น การแพ้ยาชา อาจทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการผ่าตัด หรือการทำฟัน

สรุป

ภูมิแพ้ถือเป็น “ภาวะประจำตัว” ที่ต้องใส่ใจและดูแลอย่างต่อเนื่อง การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และการแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการแพ้ของเรา เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่กับภูมิแพ้ได้อย่างมีความสุข

ดังนั้น ถึงแม้ว่าภูมิแพ้จะไม่ได้เป็น “โรคประจำตัว” ในความหมายที่เคร่งครัดเหมือนโรคอื่นๆ แต่การตระหนักถึงความสำคัญของมัน และการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง

#ภูมิแพ้ #สุขภาพ #โรคประจำตัว