เงินค่าสินไหมทดแทนกี่วันได้
สินไหมสุขภาพ: เบิกเคลมง่าย สรุปไว
เคลมสินไหมสุขภาพทั่วไป ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 7 วันทำการหลังเอกสารครบถ้วน หรือสูงสุด 90 วัน หากต้องขอเอกสารเพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์และบริษัทประกันภัย
ข้อมูลจาก: เมืองไทยประกันชีวิต (muangthai.co.th)
เงินค่าสินไหมทดแทนได้รับกี่วัน?
อืมม.. เรื่องเงินค่าสินไหมเนี่ยนะ จำได้คร่าวๆ ว่าตอนแม่ป่วยหนัก ไปรักษาที่รพ.กรุงเทพ ช่วงปลายปี 64 เอกสารส่งไปวันที่ 15 ธันวาคม ทางประกันสุขภาพ (ไทยสมุทร) โอนเข้าบัญชีวันที่ 22 ธันวาคม ใช้เวลาประมาณอาทิตย์นึง แต่! นี่คือเคสที่เอกสารครบถ้วนนะ ถ้าขาดอะไรไป อย่างเช่นใบเสร็จบางอย่าง หรือรายละเอียดไม่ชัดเจน อาจจะนานกว่านั้นอีก เคยได้ยินมาว่าบางที่ นานเป็นเดือนเลยก็มี! เห็นเพื่อนเคยเล่า เครียดมากเลยล่ะ
จริงๆแล้วมันขึ้นกับหลายปัจจัยนะ ประเภทกรมธรรม์ บริษัทประกัน ความซับซ้อนของเคส และความรวดเร็วในการตรวจสอบเอกสารด้วย ไม่ใช่แค่ 7 วันทำการเสมอไปหรอก แต่ 7 วันนี่ก็เป็นตัวเลขที่เค้าบอกกันมาเยอะ เอาเป็นว่า ถ้าเอกสารครบ เร็วก็เร็ว ไม่ครบก็ช้า ง่ายๆแค่นี้แหละ แต่ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม ต้องติดตามกับทางบริษัทประกันเองดีที่สุด อย่าลืมเก็บเอกสารสำคัญให้ดีนะ สำคัญมาก!
ค่าสินไหมจ่ายภายในกี่วัน
7 วัน… เหรอ? เร็วจังนะ สำหรับเรื่องใหญ่ขนาดนี้
เหมือน… เหมือนตอนนั้นที่บ้านไฟไหม้เลย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนตั้งตัวไม่ทัน
- ค่าสินไหมทดแทน (ค่าเสียหายเบื้องต้น): ภายใน 7 วันนับจากวันที่บริษัทประกันได้รับเอกสารครบ
- กฎหมาย: กำหนดให้จ่ายภายใน 7 วัน ไม่ต้องรอพิสูจน์ถูกผิดก่อน
- เหตุผล: เพื่อช่วยผู้ประสบภัยและครอบครัวให้มีเงินใช้จ่ายเบื้องต้น
บางที… การมีอะไรที่แน่นอนบ้าง มันก็ดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยก็รู้ว่า 7 วัน…
ตอนนั้น… ที่บ้านไฟไหม้ ฉันไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงต่อดี ถ้ามีใครบอกว่า “7 วัน” มันคงดีกว่านี้… อาจจะดีกว่านี้ก็ได้
แต่ชีวิตจริงมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสินะ…
เรียกร้องอะไรจากคู่กรณีได้บ้าง
หากคู่กรณีเป็นฝ่ายผิดโดยตรง คุณสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ดังนี้:
-
ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน: ครอบคลุมค่าซ่อมแซมรถยนต์, อาคารบ้านเรือน หรือทรัพย์สินอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ควรมีหลักฐาน เช่น ใบเสร็จรับเงิน, ใบแจ้งซ่อม เป็นต้น การประเมินมูลค่าควรอ้างอิงราคาตลาดปัจจุบัน (พ.ศ. 2566) บางครั้งอาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญประเมินเพิ่มเติม ชีวิตนี่มันก็อย่างนี้นะครับ ซับซ้อนเสมอ
-
ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล: รวมถึงค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล, ค่ายา, ค่าแพทย์, ค่ากายภาพบำบัด และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ขอแนะนำให้เก็บหลักฐานการรักษาไว้ให้ครบถ้วน เช่นใบเสร็จ, ใบรับรองแพทย์ เพื่อใช้ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ผมเคยเจอเคสที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการรวบรวมเอกสารเลยล่ะ เหนื่อยแต่ก็จำเป็น
-
ค่าขาดประโยชน์: กรณีที่ทรัพย์สินเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ เช่น รถยนต์ต้องซ่อมนาน คุณอาจเรียกร้องค่าเสียหายจากการขาดประโยชน์ เช่น ค่าเช่ารถชั่วคราว หรือค่าเสียโอกาสในการทำมาหากิน (ต้องมีหลักฐานประกอบ) ตรงนี้ต้องดูรายละเอียดแต่ละเคสเป็นหลัก จริงๆแล้วมันละเอียดอ่อนกว่าที่คิดนะครับ
เพิ่มเติม: การเรียกร้องค่าเสียหายควรดำเนินการผ่านกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้อง อาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าลืมเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้อย่างเป็นระบบ เพราะมันสำคัญมากจริงๆ และที่สำคัญคือ ต้องใจเย็นๆ นะครับ ทุกอย่างใช้เวลา
โดนรถชนเรียกค่าเสียหายอะไรได้บ้าง
แสงแดดอ่อนๆยามเย็น ลอดผ่านใบไม้สีเขียวขจี… วันนั้น… รถสีแดงคันนั้น… จู่ๆ…
- ค่ารักษาพยาบาล: แผลที่หัวเข่า ยังคงเจ็บอยู่เลย… แพทย์ที่ รพ.สมิติเวช บอกว่าต้องกายภาพบำบัดอีกนาน… ค่าใช้จ่าย… สูงมาก…
- ค่าชดเชย: กระดูกนิ้วโป้งหัก… ทำงานไม่ได้เป็นเดือน… รายได้หายไปเยอะ… ต้องเรียกร้องค่าชดเชยแน่นอน
- ค่าซ่อมรถ: รถสีฟ้าคันโปรด… ตอนนี้… อยู่ในอู่… ช่างบอกว่า… ต้องเปลี่ยนอะไหล่หลายชิ้น… ค่าใช้จ่ายคงสูงลิ่ว… ราคาอะไหล่แพงขึ้นทุกปีเลยนะ… ปีนี้ปี 2566 แล้วด้วย
เสียงแตรรถดังอยู่ไกลๆ… เหมือนเสียงหัวใจฉันตอนนั้น… เต้นแรงๆ… กลัว… แต่ฉันต้องเข้มแข็ง… เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม… เพื่อให้ได้ค่าเสียหายที่สมควร… เพื่อ…
- ค่าเสียหายอื่นๆ: ความเครียด… ความเจ็บปวด… จิตใจฉันบอบช้ำ… ค่าเสียหายเหล่านี้… ไม่มีใครชดเชยได้… แต่ฉันก็ต้องพยายามต่อสู้เพื่อสิทธิของฉันต่อไป…
ฝนเริ่มตก… ฉันมองท้องฟ้า… สีเทาๆ… เหมือนความรู้สึกของฉันตอนนี้… แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้… ฉันจะสู้เพื่อความยุติธรรม…
ฉันจะเรียกค่าสินไหมทดแทนจากคู่กรณีได้อย่างไร
โอ๊ย ถามเรื่องเคลมสินไหมฯ นี่ของแสลงเลย! ตอนรถชนตรงสี่แยกอโศกเมื่อต้นปี (มกราคม 2567) นะ โมโหมาก คู่กรณีเป็นรถ delivery รีบจัด ไม่ยอมมองเลย!
-
ขั้นตอนแรก: เรียกประกันเรามาก่อนเลย สำคัญมาก! ให้เขาจัดการทุกอย่าง ถ่ายรูป เก็บรวบรวมหลักฐานให้หมด
-
เรียกจากใคร: ประกันเราจะไปเรียกจากประกันคู่กรณีเอง หรือถ้าคู่กรณีไม่มีประกัน (ซวยซ้ำซ้อน!) ก็ต้องเรียกจากตัวคู่กรณีโดยตรง
-
รอ: อันนี้ทรมานสุดๆ รอประกันคู่กรณีติดต่อกลับ… บางทีก็ช้าเป็นชาติ!
-
ตกลง: ถ้าตกลงเรื่องค่าเสียหายกับคู่กรณีเองได้ (ซึ่งยากมากกกก) พาคู่กรณีไปโรงพักลงบันทึกประจำวันไว้เลย เป็นหลักฐาน!
-
ถ้าไม่จบ: ฟ้องสถานเดียว บอกเลย! ทนายเท่านั้นที่จะช่วยได้ จ้างทนายเก่งๆ ไปเลย!
เพิ่มเติม:
- เอกสาร: เตรียมเอกสารให้พร้อม สำเนาบัตรประชาชน ใบขับขี่ สำเนากรมธรรม์ สำเนาทะเบียนรถ… เยอะแยะไปหมด!
- กล้องติดรถยนต์: ติดเถอะ! ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ! หลักฐานสำคัญมาก!
- อย่าใจร้อน: ค่อยๆ คุย อย่าใช้อารมณ์… ยาก แต่ต้องทำ!
- ปรึกษา: ถ้าไม่รู้จะทำยังไง ปรึกษาคนที่มีประสบการณ์ หรือปรึกษาทนายไปเลย!
- สำคัญ: อย่าเซ็นเอกสารอะไรที่ไม่เข้าใจ! อ่านให้ละเอียดก่อนเซ็นทุกครั้ง!
สุดท้าย: ขอให้โชคดีกับการเคลมนะ! บอกเลยว่าเหนื่อยใจสุดๆ สู้ๆ!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต