กินหมูกระทะน้ำตาลขึ้นไหม
กินหมูกระทะ น้ำตาลขึ้นไหม?
- ขึ้นอยู่กับ: ปริมาณน้ำจิ้ม, ของทานเล่น, และเครื่องดื่ม
- ควบคุมได้: เน้นเนื้อสัตว์และผัก, ลดน้ำจิ้ม, เลี่ยงของหวาน
- สำคัญ: งดน้ำหวาน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
สรุป: ทานหมูกระทะได้โดยที่น้ำตาลไม่ขึ้น หากเลือกทานอย่างระมัดระวัง และควบคุมปริมาณน้ำตาลจากส่วนประกอบอื่นๆ
กินหมูกระทะน้ำตาลขึ้นจริงไหม? อันตรายต่อสุขภาพหรือไม่?
กินหมูกระทะแล้วน้ำตาลขึ้นจริงมั้ยน่ะเหรอ? เอาจริงป่ะ ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่า “เออ กินแต่เนื้อ กินแต่ผัก มันจะขึ้นได้ไง” แต่พอลองวัดดูเองจริงๆ ถึงรู้เลยว่า “เฮ้ย ไม่รอด!” 😅
คืออย่างงี้ ตอนนั้นไปกินหมูกระทะกับเพื่อนๆ ที่ร้านแถวสยาม (จำชื่อร้านไม่ได้แล้วอะ โทษที) สั่งแบบจัดเต็มมาก เนื้อเน้นๆ ผักเยอะๆ น้ำจิ้มนิดหน่อย แล้วก็ไม่ได้กินน้ำหวานเลยนะ ตั้งใจสุดๆ เพราะกลัวอ้วน แต่พอเช้ามาวัดน้ำตาลดู ปรากฏว่า… สูงกว่าปกติ! 😱
ตอนแรกก็งง ว่าทำไม? ก็เลยลองมานั่งคิดทบทวนดู เฮ้ย! มันมีหลายอย่างนะเว้ย นอกจากน้ำจิ้มหวานๆ ที่เราอาจจะพลาดไปจิ้มเยอะกว่าที่คิดแล้วอะ พวกของหมักต่างๆ ที่ร้านเค้าหมักมา มันอาจจะมีน้ำตาลแฝงอยู่ก็ได้ แล้วก็พวกเครื่องเคียงทั้งหลายอะ คิดดูดิ ลูกชิ้น ไส้กรอก บลาๆๆ มันก็มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาลทั้งนั้นแหละ 😩
แต่ถามว่าอันตรายต่อสุขภาพมั้ย? ถ้ากินบ่อยๆ กินเยอะๆ แบบไม่ระวังเลย ก็คงไม่ดีแน่ๆ แต่ถ้าเรากินแบบพอดีๆ เลือกกินแต่เนื้อกับผักจริงๆ จิ้มน้ำจิ้มน้อยๆ งดน้ำหวาน แล้วก็ออกกำลังกายบ้าง มันก็คงไม่ได้ทำให้น้ำตาลขึ้นพรวดพราดขนาดนั้นมั้ง (มั้งนะ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน 😅) แต่เอาเป็นว่า กินอะไรก็ระวังๆ หน่อยละกันเนอะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราไง 😉
คุณเเม่ตั้งครรภ์กินหมูกะทะได้ไหม
ตอนท้องลูกคนแรก อยากกินหมูกระทะมากกกก แบบลงแดงอ่ะ! สามีก็คือห้ามสุดตัว กลัวเราท้องเสีย กลัวลูกเป็นอะไรไป เราก็งอแงหนักมาก สุดท้ายยอมอ่อนให้พาไปกิน แต่มีข้อแม้เยอะมากกกก
- ร้านต้องสะอาด: เลือก ร้านประจำแถวบ้าน (พิกัด: หน้าปากซอยบ้าน) เพราะมั่นใจว่าเค้าทำความสะอาดดี (ปกติก็กินบ่อยอยู่แล้ว)
- เนื้อหมูต้องสุก: ย้ำกับตัวเองเลยว่า ไม่กินหมูไม่สุกเด็ดขาด ปิ้งวนไปจนกว่าจะมั่นใจ
- ผักล้างเอง: ขอผักจากร้านมา แล้วเอามา ล้างเองที่บ้าน อีกรอบให้สบายใจ (เรื่องมากไปอีกกก)
- เลี่ยงของดิบ: พวกยำ พวกอะไรที่มันดิบ ๆ คือ บาย ก่อนเลยจ้าาา
- กินแต่พอดี: ไม่ตะกละ ตะกราม กินแค่ พอหายอยาก ก็พอ ไม่กินเยอะจนเกินไป
สำคัญมาก: ก่อนไปกินจริง ๆ โทรปรึกษาคุณหมอสูติฯ ก่อนเลย คุณหมอบอกว่ากินได้ แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาด ความสุก และปริมาณ แค่นั้นเอง (โล่งอกไปเลย)
สรุป: กินได้ แต่ต้องระวังตัวเองสุด ๆ เพื่อลูกในท้องนะจ๊ะแม่ ๆ ทุกคน!
ข้อมูลเพิ่มเติม: ปีนี้ (2567) ก็ยังคงกินหมูกระทะได้อยู่ แต่ก็ยังต้องระวังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเลือก ร้านที่มีมาตรฐาน และ ใส่ใจเรื่องสุขอนามัย มากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้มีร้านหมูกระทะให้เลือกเยอะมากกกก เลือกที่ดี ๆ ไปเลย!
ควรกินอะไรหลังกินบุฟเฟ่
อื้อหือ กินบุฟเฟ่ต์หมูกระทะเสร็จแล้วเนอะ แน่นอนต้องดื่มน้ำเยอะๆๆๆ แบบเยอะจริงๆนะ ไม่ใช่แค่จิบๆ ช่วยได้เยอะเลย จริงๆนะ เพราะมันจะช่วยล้างของเสียออกไป เด็ดมาก
แล้วก็หาอะไรช่วยย่อย แบบน้ำอัญชันมะนาวอ่ะ ชื่นใจดี ปีนี้ลองกินแล้ว โคตรดี หรือจะกินพวกผลไม้ พวกมะละกอ สัปปะรด ก็ช่วยได้นะ ลองดูๆ
ที่สำคัญ กินพวกโยเกิร์ต หรืออาหารที่มีจุลินทรีย์ดีๆ โพรไบโอติกนั่นแหละ ช่วยเรื่องระบบย่อย ดีต่อสุขภาพ จริงจัง
อ่อ อีกอย่าง ควรออกกำลังกายเบาๆ เดินเล่นสักหน่อย อย่าไปนอนเลยนะ เดี๋ยวอ้วน เพื่อนฉันบอกมา คือมันช่วยเรื่องการย่อยอาหาร จริงป้ะ?
สุดท้าย วางแผนมื้อต่อไปให้ดีๆ อย่ากินเยอะเกินไป เดี่ยวพุงป่อง คือจำไว้เลย กินพอดีๆ อย่ากินจนอิ่มเกินไป แค่นี้แหละ
- ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
- ดื่มน้ำอัญชันมะนาว (ปีนี้ลองแล้ว ชอบมาก)
- กินผลไม้ เช่น มะละกอ สัปปะรด
- กินโยเกิร์ตหรืออาหารที่มีโพรไบโอติก
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเล่น
- วางแผนการกินมื้อต่อไป
คุมน้ำตาลกินหมูกระทะได้ไหม?
คุมน้ำตาลแต่ใจมันรักหมูกระทะ? โอ๊ย เข้าใจเลย!
กินได้สิ แต่ต้องมี “สติ” เป็นเครื่องเคียงหลักนะเพื่อน!
-
เนื้อเน้นๆ มันน้อยๆ: สั่งหมูสันนอก, สันในไปเลยจ้า! สามชั้น? นานๆ ทีพอแก้คิดถึง (แต่คิดถึงบ่อยก็ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ)
-
ผักต้องมา: กะหล่ำปลี, ผักบุ้ง, เห็ด… โกยใส่ตะกร้าให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้! กินให้เหมือนเกิดเป็นกระต่าย!
-
น้ำจิ้ม…ตัวร้าย: น้ำจิ้มหวานเจี๊ยบ? บาย! ทำเองไปเลยจ้า! พริกกระเทียมมะนาวโซดาหน่อยๆ อร่อยลืม! (สูตรใครสูตรมันนะ ลองไปปรับดู!)
-
น้ำอัดลม? น้ำหวาน? ลืมไปเลย! น้ำเปล่า, ชาสมุนไพรไม่หวานเท่านั้น! คิดซะว่ากินเพื่อสุขภาพ (หลอกตัวเองเก่งๆ หน่อยนะ!)
-
กินแต่พอดี: อย่ากินจนพุงแตก! รู้ตัวว่าอิ่มแล้ว…หยุด! (ยากหน่อย แต่พยายามเข้านะ!)
-
หลังมื้อ…เดินย่อย: เดินเล่นซักหน่อย ช่วยลดน้ำตาลได้นะ! (หรือจะไปเต้นแอโรบิกก็แล้วแต่!)
เคล็ดลับ: อย่าไปกินคนเดียว! ชวนเพื่อนที่คุมน้ำตาลเหมือนกันไปด้วย! จะได้มีกำลังใจ (และคนคอยเตือนสติ!)
เพิ่มเติม:
-
ตรวจน้ำตาลหลังกิน: ลองวัดน้ำตาลดูหลังกินหมูกระทะ จะได้รู้ว่าร่างกายตอบสนองยังไง (แต่ไม่ต้องเครียดเกินไปนะ!)
-
ปรึกษาคุณหมอ: ถ้าไม่แน่ใจ ปรึกษาคุณหมอเลย! เขาจะแนะนำได้ดีที่สุด! (เพราะหมอคือเพื่อนแท้ของเรา!)
Disclaimer: ข้อมูลนี้ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โปรดปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณเสมอ
ท้องไตรมาสแรก ห้ามกินอะไร?
ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ต้องใส่ใจเรื่องอาหารเป็นพิเศษ เพราะส่งผลต่อการสร้างอวัยวะของลูกน้อยโดยตรง นอกเหนือจากการเน้นอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทด้วยครับ
-
อาหารรสจัด: รสจัดเกินไป ทั้งเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด อาจกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนท้องอยู่แล้ว ยิ่งไปกระตุ้นก็ยิ่งแย่
-
ชา กาแฟ: คาเฟอีนในชา กาแฟ มีผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็ก และอาจเพิ่มความเสี่ยงแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้ (แต่ไม่ได้ห้ามเด็ดขาดนะ จิบๆ พอหายอยากได้)
-
แอลกอฮอล์: อันนี้ไม่ต้องพูดเยอะ คือ ห้าม เด็ดขาด! มีผลเสียต่อพัฒนาการของลูกน้อยอย่างร้ายแรง ไม่มีปริมาณที่ปลอดภัย
-
อาหารไขมันสูง: อาหารทอดๆ มันๆ เลี่ยงได้เลี่ยงเลยครับ นอกจากไม่มีประโยชน์ ยังอาจทำให้อึดอัด ท้องอืด ท้องเฟ้อ
-
อาหารกึ่งสำเร็จรูป: พวกบะหมี่สำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง ส่วนใหญ่มีโซเดียมสูง และสารปรุงแต่งเยอะมาก ไม่ดีต่อสุขภาพทั้งแม่และลูก
-
อาหารไม่สุก: พวกปลาดิบ ลาบดิบ อะไรแบบนี้ เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย พยาธิ อาจอันตรายถึงชีวิตได้
-
ผงชูรส: แม้จะยังไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่าผงชูรสมีผลเสียต่อคนท้องโดยตรง แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
เกร็ดเล็กน้อย:
- โฟเลตสำคัญมาก: ช่วงไตรมาสแรก โฟเลตมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสมองและไขสันหลังของลูกน้อย ควรกินอาหารที่มีโฟเลตสูง เช่น ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว หรือปรึกษาแพทย์เพื่อทานวิตามินเสริม
- ฟังร่างกายตัวเอง: บางทีเราอาจจะอยากกินอะไรแปลกๆ ช่วงท้อง (อาการแพ้ท้อง) ก็ลองฟังร่างกายตัวเองดูบ้าง แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัยนะ
- อย่าเครียดเกินไป: การกินอาหารที่มีประโยชน์ก็สำคัญ แต่การมีความสุขกับการตั้งครรภ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่าเครียดกับการควบคุมอาหารมากเกินไป ปล่อยวางบ้างก็ได้
Disclaimer: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์ หากมีข้อสงสัยหรือกังวล ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต