ครูควรทำอย่างไรเพื่อให้นักเรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียน
ครูสร้างแรงจูงใจนักเรียนได้ด้วย 6 เคล็ดลับง่ายๆ:
- เป็นแบบอย่าง: แสดงความกระตือรือร้นในการเรียนรู้
- ไม่กดดัน: สร้างบรรยากาศเรียนรู้ที่ผ่อนคลาย
- เข้าใจนักเรียน: ปรับวิธีสอนให้เหมาะสมกับความสนใจ
- รับฟังอย่างตั้งใจ: ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของนักเรียน
- ให้กำลังใจ: ชื่นชมความพยายามและความสำเร็จ
- สร้างโอกาส: ให้นักเรียนได้แสดงออกบ่อยๆ
การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้เด็กกล้าแสดงออกและมีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ครูสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนเรียนอย่างไร?
อืมมม… ครูที่สร้างแรงบันดาลใจอะนะ? จำได้ตอนเรียนมัธยมปลาย ครูภาษาอังกฤษคนนึง ชื่อครูอ้อย แกสอนสนุกมาก ไม่ใช่แค่ท่องศัพท์จำไวยากรณ์ แกเอาหนังมาให้ดู แบบหนังฝรั่ง แล้วก็ให้เราอธิบาย แบบไม่เครียด ไม่กดดัน จำได้เลย ตอนนั้นดูเรื่อง “The Breakfast Club” สนุกมากกกกก ได้ทั้งภาษาอังกฤษ ได้ทั้งความคิด คือแกสร้างบรรยากาศให้เราอยากเรียนรู้เอง ไม่ใช่บังคับ
อีกอย่าง แกให้โอกาสเราแสดงออก ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ อย่างงานโรงเรียน แกก็ให้เราเสนอไอเดีย แล้วก็ช่วยเหลือเราเต็มที่ ไม่ใช่แค่สั่งงานแล้วก็ปล่อย บางทีแกก็ขอความเห็นเรา เกี่ยวกับวิธีสอน แบบว่า ถามจริง ๆ นะ ไม่ใช่แค่พูดเอาดีใจ นี่แหละ สำคัญมาก เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของห้องเรียน ไม่ใช่แค่ผู้ฟังเฉย ๆ
เรื่องความชอบความสนใจ จำได้ครูแกเคยถามเราชอบอะไร แล้วก็เอาสิ่งที่เราชอบมาเชื่อมโยงกับบทเรียน เช่น ฉันชอบดนตรี แกก็เอาเพลงมาใช้ประกอบการสอน หรือบางทีก็ให้เราหาข้อมูลเพลงภาษาอังกฤษมาเสนอ มันเลยทำให้เรียนรู้ได้แบบไม่รู้ตัว
ส่วนเรื่องกำลังใจนี่ แกให้ตลอด แบบไม่ต้องขอ เวลาเราทำได้ดี แกชม เวลาเราทำไม่ได้ แกก็ค่อยๆแนะนำ ไม่เคยดุด่า ไม่เคยทำให้อับอาย ฉันว่านี่แหละ คือหัวใจสำคัญของการสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ใช่แค่เก่งอย่างเดียว ต้องใจดีด้วย อืมม… คิดถึงครูอ้อยจังเลย อยากกลับไปเรียนอีก (ฮาาา)
การทำให้นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนทำอย่างไร
แรงจูงใจในการเรียน? เรื่องนี้มันซับซ้อนกว่าที่เราคิดเยอะนะ ไม่ใช่แค่ให้รางวัลหรือลงโทษ แต่เป็นการจุดประกายไฟในตัวเด็กต่างหาก
- สื่อหลากหลาย: อย่าจำเจ! วิดีโอ, เกม, เพลง…โลกมันกว้าง สื่อการสอนก็ต้องกว้างตามไปด้วย
- สื่อสารทรงพลัง: ครูไม่ใช่แค่คนสอน แต่เป็น แรงบันดาลใจ คำพูดมีพลังมากกว่าที่คิดเยอะ
- เขย่าความเชื่อเดิม: ท้าทายความคิด! กระตุ้นให้คิดนอกกรอบ, ตั้งคำถามกับสิ่งที่ “รู้” อยู่แล้ว
- สร้างความประหลาดใจ: เรียนรู้แบบไม่น่าเบื่อ! หาอะไรที่คาดไม่ถึงมาใส่ในบทเรียนบ้าง
- ศึกษาตามความสนใจ: ปล่อยให้เด็กเลือกเรียนในสิ่งที่ “อยาก” เรียน จะได้ผลดีกว่าเยอะ
- ออกแบบตามความสนใจ: ปรับการสอนให้เข้ากับเด็กแต่ละคน…ยากหน่อย แต่มัน คุ้มค่า
จริง ๆ แล้ว การเรียนรู้มันควรจะเป็นเรื่องสนุกนะ ไม่ใช่ภาระหน้าที่
ปล. เคยเจอเด็กที่ไม่ชอบเลข แต่พอเอาไปสอนเรื่องการเงินส่วนตัว กลับตั้งใจเรียนสุด ๆ เพราะมัน เกี่ยวข้อง กับชีวิตเขาโดยตรงไงล่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- แรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation): เกิดจากความสนใจและความสนุกในการเรียนรู้เอง
- แรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation): เกิดจากรางวัล, คะแนน, หรือคำชม
- ทฤษฎี Self-Determination: คนเราต้องการความเป็นอิสระ, ความสามารถ, และความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อสร้างแรงจูงใจ
แรงจูงใจในการเรียนรู้มีอะไรบ้าง
เออ…แรงจูงใจในการเรียนรู้ของเรานะเหรอ อืมมม…ส่วนตัวเลยนะ จริงๆ มันเริ่มจากอยากทำขนมเก่งๆ แบบเห็นร้าน Patisserie Rosie ในไอจี เค้กสวยมากกก แล้วแบบอยากทำเป็นบ้าง เลยเริ่มหาคอร์สเรียนทำขนม จริงจังมาก สมัครคอร์สออนไลน์ไปเมื่อเดือนมีนา 2567 ที่ Le Cordon Bleu Dusit เรียนไปได้ครึ่งทางละ สนุกดี
คือเราเป็นพวกชอบกินขนม แล้วพอคิดว่าจะทำเองได้ก็คือแบบ มันส์! อยากลองสูตรใหม่ๆ ยิ่งทำยิ่งอยากรู้ อยากพัฒนาฝีมือตัวเอง บางทีทำออกมาไม่สวย แต่ก็แบบ เฮ้ย ครั้งหน้าต้องทำให้ดีกว่านี้ มันแบบ…ฮึด! อะ บอกไม่ถูก
อีกอย่างคือแฟนชอบกินขนม เห็นเค้ากินแล้วมีความสุขเราก็ดีใจ คือแบบ ทำเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เค้าเมื่อเดือนที่แล้ว เห็นเค้าชอบ เราก็แบบ…โอ้ย ภูมิใจ อยากทำให้เก่งกว่านี้ อยากเปิดร้านเล็กๆ ขายพวก Macaron กับ Madeleines แบบที่ชอบ คือมีแพลนไว้แล้ว ว่าจะไปเรียนคอร์สเพิ่มที่เกาหลีปลายปีนี้
- อยากทำขนมเก่งๆ เหมือนร้านดังในไอจี
- อยากพัฒนาฝีมือ ทำเค้กให้แฟน
- อยากเปิดร้านเล็กๆ ขายขนมที่ชอบ
ส่วนพวกแรงจูงใจอะไรนั่น ก็คงมีบ้างแหละ แต่หลักๆ เลยคืออยากทำขนมเก่งๆ นี่แหละ แล้วเราก็เป็นคนชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่แล้วด้วย
ใฝ่สัมฤทธิ์ – ใช่ อยากทำขนมออกมาให้เพอร์เฟค
ใฝ่สัมพันธ์ – ก็อยากทำให้คนที่เรารักกิน
ใฝ่อำนาจ – อันนี้ไม่น่าใช่ เราแค่อยากทำขนม
ใฝ่ก้าวร้าว – ไม่เกี่ยวเลยยย
ใฝ่พึ่งพา – ก็มีบ้าง ตอนเรียนต้องพึ่งอาจารย์ 555
วิธีการสร้างแรงจูงใจในการเรียนมีอะไรบ้าง
สร้างแรงจูงใจในการเรียนได้หลายวิธี ลองดูแนวทางเหล่านี้ครับ ผมว่ามันได้ผลดีทีเดียวเชียว
-
หลากหลายสื่อการเรียนรู้: การใช้สื่อหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ เกม หรือแม้แต่การเรียนรู้ผ่านการทำ ช่วยกระตุ้นความสนใจได้ดีกว่าการอ่านตำราอย่างเดียว ต้องยอมรับว่าสมัยนี้เด็กๆเรียนรู้เร็วมากผ่านสื่อดิจิตอล ผมเองก็เห็นผลชัดเจนกับลูกศิษย์หลายคนเลยนะ
-
การสื่อสารเชิงบวก: การสื่อสารสำคัญมาก คำชม การให้กำลังใจ การบอกจุดแข็งของนักเรียน ล้วนสร้างแรงจูงใจได้ดีกว่าการตำหนิอย่างเดียว ผมว่ามันเป็นเหมือนการปลูกฝังความมั่นใจ ทำให้เด็กอยากเรียนรู้ต่อไป
-
ทลายกรอบความคิดเดิม: การเรียนที่ดีควรเป็นการสร้างคำถาม ไม่ใช่แค่การหาคำตอบ การนำเสนอบทเรียนที่ท้าทายความเชื่อเดิมๆ กระตุ้นให้เด็กอยากรู้ อยากค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง นี่แหละคือหัวใจสำคัญ
-
เพิ่มความตื่นเต้น: การเรียนไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียด การเพิ่มความสนุกสนาน สร้างความประหลาดใจ หรือแม้แต่เกมการเรียนรู้ จะดึงดูดความสนใจได้มากกว่าวิธีการเรียนแบบเดิมๆ ลองดูสิครับ ผลอาจเกินคาด
-
เรียนรู้สิ่งที่สนใจ: ปล่อยให้เด็กได้เรียนรู้ในสิ่งที่สนใจบ้าง การเรียนรู้ที่เกิดจากความสนใจจะสร้างแรงจูงใจได้เอง เด็กๆจะตั้งใจเรียนมากขึ้น ผมก็ปล่อยให้ลูกศิษย์ได้เลือกหัวข้อวิจัยบ้าง ผลงานออกมาดีกว่าที่คาดไว้เยอะเลย
-
ออกแบบการเรียนรู้เฉพาะบุคคล: ทุกคนเรียนรู้ต่างกัน การออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล จะทำให้เด็กเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้สึกสนุกกับการเรียน การเรียนรู้แบบ personalize learning นี่สำคัญมาก ปัจจุบันเทคโนโลยีช่วยได้เยอะเลยนะ
เพิ่มเติม: การสร้างแรงจูงใจไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยการสังเกต ความเข้าใจ และการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ เราต้องดูแล รดน้ำ และให้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม ต้นไม้ถึงจะเติบโตได้อย่างแข็งแรง และให้ผลผลิตที่ดี ผมว่าหลักการนี้ใช้ได้กับการสร้างแรงจูงใจในการเรียนเหมือนกันเลยครับ
แรงจูงใจมีกี่แบบ
แรงจูงใจ เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงขับเคลื่อนชีวิต แบ่งกว้างๆ ได้สองแบบหลักๆ ครับ
-
แรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motivation): อันนี้มาจากใจล้วนๆ ทำเพราะชอบ ทำเพราะรู้สึกดี สนุกที่ได้ทำ ไม่สนรางวัลภายนอก เช่น อ่านหนังสือเพราะอยากรู้ ไม่ใช่เพราะต้องสอบ
-
แรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motivation): ทำเพราะรางวัลล่อใจ หรือกลัวโดนลงโทษ เช่น ทำงานหนักเพราะอยากได้โบนัส หรืออ่านหนังสือเพราะกลัวสอบตก
แรงจูงใจสองแบบนี้ไม่ได้แยกขาดจากกันเสมอไป บางทีเราเริ่มจากภายนอก แล้วค่อยๆ ซึมซับความสนุกจนกลายเป็นแรงจูงใจภายในก็ได้ ใครจะรู้!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต