คํากริยา 5 ชนิด มีอะไรบ้าง

9 การดู

คํากริยา 5 ชนิด:

  1. สกรรมกริยา: ต้องมีกรรมมารับ (เช่น กินข้าว)
  2. อกรรมกริยา: ไม่ต้องมีกรรม (เช่น นอนหลับ)
  3. วิกตรรถกริยา: ต้องการส่วนเติมเต็มให้สมบูรณ์ (เช่น คือ เป็น เหมือน)
  4. กริยานุเคราะห์: ช่วยกริยาหลักให้ความหมายชัดเจน (เช่น จะ คง กำลัง)
  5. กริยาสภาวมาลา: ทำหน้าที่คล้ายคำนาม (เช่น การวิ่ง)
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โอเค เรื่องคำกริยา 5 ชนิดเนี่ย จริงๆ แล้วมันก็จำไม่ยากเท่าไหร่นะ เออ…หรือยากวะ? บางทีก็แอบงงๆ เหมือนกันนะ 😂

เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง แบบสรุปๆ สไตล์เราๆ นี่แหละ

  • สกรรมกริยา: อันนี้ต้องมีกรรม คิดภาพง่ายๆ เหมือนเรากินข้าว “กิน” คือ กริยา “ข้าว” คือกรรม ถ้าไม่มีข้าวจะกินอะไรล่ะ จริงมั้ย? เหมือนแบบ… “ตี” ก็ต้องตี”อะไร” สักอย่าง “เตะ” ก็ต้องเตะ”บอล” อะไรแบบนี้ จำง่ายๆ เลย มีกรรมมารับ

  • อกรรมกริยา: ตรงข้ามกับสกรรมฯ เลย อันนี้ไม่ต้องมีกรรมก็ได้ เช่น “นอน” “นั่ง” “ยืน” “เดิน” “วิ่ง” นึกถึงตอนเรา “หลับ” สิ เราหลับ”อะไร”เหรอ? ก็ไม่นี่ แค่หลับเฉยๆ ก็พอแล้ว เข้าใจป่ะ?

  • วิกตรรถกริยา: อันนี้แอบยากนิดนึง แต่มันก็คือคำกริยาที่ต้องการคำอื่นมาช่วยเสริมความหมายให้สมบูรณ์ ส่วนใหญ่ที่เห็นบ่อยๆ ก็ “คือ” “เป็น” “เหมือน” “เท่ากับ” เช่น “ฉันคือครู” “เขาดูเหมือนเหนื่อย” ถ้าพูดแค่ “ฉันครู” มันก็ฟังดูแปลกๆ ใช่มั้ยล่ะ? มันต้องมี “คือ” มาเชื่อม

  • กริยานุเคราะห์: อันนี้เราชอบจำว่ามันเหมือนเป็นตัวช่วย มาช่วยให้กริยาหลักดูมีพลังมากขึ้น เช่น “จะกิน” “กำลังกิน” “คงกิน” “เคยกิน” ลองนึกภาพว่า “กิน” เฉยๆ กับ “กำลังกิน” มันให้ความรู้สึกต่างกันเลยเนอะ อันหลังมันดูแบบ…กำลังกินอยู่จริงๆ!

  • กริยาสภาวมาลา: อันนี้บางทีก็งงๆ กับวิกตรรถฯ เหมือนกัน แต่ถ้าให้อธิบายง่ายๆ มันก็คือกริยาที่ทำตัวเหมือนคำนาม เช่น “การวิ่ง” “การกิน” “การนอน” เห็นมั้ย? มันมี “การ” นำหน้า แล้วเราก็เอาไปใช้ในประโยคได้เหมือนคำนามเลย เช่น “การวิ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ” ประมาณนี้

หวังว่าจะเข้าใจนะ จริงๆ มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก แค่ลองฝึกๆ ดูก็จำได้เองแหละ สู้ๆ นะ! 😄

#กริยา #ชนิด #ภาษาไทย