จบ ป. เอก ได้เป็น ดร. ไหม

จบป.เอกเรียกว่าอะไร

จบป.เอกเหรอ… อืม… คิดหนักเหมือนกันนะ มันมีหลายแบบเนอะ อย่างที่เรียนมา ก็มี Doctor of Arts กับ Doctor of Philosophy นี่แหละ D.A. กับ Ph.D. สองอย่างนี้ต่างกันยังไงนะ ตอนเรียนก็งงๆอยู่เหมือนกัน

ส่วนวิทยาศาสตร์… อืมมม นี่ก็จำได้ไม่ค่อยแม่น แต่เท่าที่จำได้นะ

• ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต วท.บ. อันนี้ง่ายสุด
• ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต วท.ม. อันนี้ก็พอจำได้
• ปริญญาเอก นี่สิยาก วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต วท.ด. หรือ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ปร.ด. ก็มี แล้วแต่คณะมั้ง ตอนนั้นเพื่อนผมก็เรียนคนละแบบกัน

ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ B.S. อันนี้จำได้แม่น เพราะน้องชายผมเรียนอยู่ ปีนี้มันปีสี่แล้วมั้ง เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ

เหนื่อยจัง คืนนี้ นอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อ เรื่องปริญญาเอกนี่มันเยอะจริงๆ

เรียน ป.ตรี ถึง ป.เอก ใช้เวลากี่ปี

เรียน ป.ตรี ถึง ป.เอก ใช้เวลากี่ปี? ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและมหาวิทยาลัย แต่โดยทั่วไป

• ปริญญาตรี: 4 ปี (สูงสุด 8 ปี)
• ปริญญาโท: 2 ปี (สูงสุด 5 ปี)
• ปริญญาเอก: 3 ปี (สูงสุด 6 ปี)

ระบบเดิมเน้นจบเร็ว แต่ปัจจุบันแนวคิด Lifelong Learning สำคัญกว่า การกำหนดระยะเวลาตายตัวจึงไม่เหมาะสม เพราะ:

• ความหลากหลายของผู้เรียน: แต่ละคนมีพื้นฐาน ความสามารถ และเป้าหมายแตกต่างกัน การเรียนรู้แบบ one-size-fits-all จึงไม่ตอบโจทย์
• การเรียนรู้เชิงลึก: บางสาขาต้องใช้เวลาศึกษาค้นคว้าอย่างเข้มข้น การจำกัดเวลาอาจส่งผลต่อคุณภาพงานวิจัยหรือผลงาน
• การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง: โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว การเรียนรู้ไม่ควรหยุดอยู่แค่ในห้องเรียน ควรเปิดกว้างต่อประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดชีวิต

ตัวอย่างเช่น เพื่อนผมคนหนึ่งเรียนปริญญาโทด้าน AI ใช้เวลาถึง 4 ปี เพราะต้องการทำวิจัยเชิงลึก ผลงานเขาออกมาดีมาก ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำ ถ้าจำกัดเวลาแค่ 2 ปี อาจได้งานวิจัยที่มีคุณภาพต่ำกว่า หรืออาจไม่ได้งานวิจัยเลยก็ได้ ซึ่งไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป

ผมคิดว่า ระบบการศึกษาควรยืดหยุ่น เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต มากกว่าการกำหนดกรอบเวลาตายตัว เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ นี่คือมุมมองส่วนตัวนะครับ อาจมีมุมมองอื่นๆ อีก แต่ผมคิดว่าแบบนี้เหมาะสมที่สุดในยุคปัจจุบัน

ปริญญาตรีเมืองนอกเรียนกี่ปี

เรียนตรีเมืองนอกเนี่ยนะ? ส่วนใหญ่ซัดไป 3 ปีจุก ๆ แต่! อย่าเพิ่งคิดว่าสบายเหมือนนอนตีพุงอยู่บ้านนะจ๊ะ นอกจากเลกเชอร์หูดับตับไหม้ ก็ยังมีสัมมนา เวิร์คช็อป ให้หัวหมุนเล่นอีก

แต่ข้อดีคือแกเลือกวิชาที่ชอบได้ไง! แบบว่า “ฉันรักวิชานี้ ฉันจะเรียน!” ไม่ใช่ต้องก้มหน้าเรียนเพราะพ่อแม่บังคับ (อันนี้เจ็บจริง) แล้วแกจะรู้ว่า “ชีวิตมันต้องมีอะไรมากกว่าเกรด”

• 3 ปีเน้น ๆ: อย่าคิดว่าน้อยนะจ๊ะ แต่ละปีนี่เข้มข้นกว่าน้ำปลาพริกอีก
• เลือกวิชาตามใจ: ชอบอะไร จัดไป! อย่าให้เสียชาติเกิด (เกิดมาเป็นนักเรียนนอกทั้งที)
• สัมมนาเวิร์คช็อป: ไม่ได้มีดีแค่เลกเชอร์นะจ๊ะ ฝึกสมองประลองปัญญาไปอีก
• ชีวิตมันต้องมีอะไรมากกว่าเกรด: สำคัญมาก! หาเพื่อน หาประสบการณ์ หาตัวเอง (ไม่ใช่แค่หาแต่เกรด A)

เกร็ดเล็กน้อย: บางมหาวิทยาลัยในอังกฤษ (ที่ฉันเคยเฉียด ๆ ไปเรียน) มีหลักสูตรเร่งรัด 2 ปีด้วยนะ แต่ขอบอกว่า “หิน” ของจริง ใครคิดว่าไหวก็ลองดู แต่เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม เพราะมันไม่ใช่แค่ “อ่านหนังสือสอบ” แต่มันคือ “เอาตัวรอด” ในโลกของการเรียนรู้ที่แท้จริง!

ปริญญาตรีที่อเมริกาเรียนกี่ปี

เรียนปริญญาตรีที่อเมริกา 4 ปี จริงป้ะ? หรือบางที่ 3 ปีวะ? งง! เพื่อนสมัยเรียนบอกว่ามันแล้วแต่มหาลัยด้วยมั้ง แต่ที่แน่ๆ จะต่อโทต้องจบตรี 4 ปี ถ้าตรี 3 ปี หรืออนุปริญญา ต้องเรียนเพิ่มเติมก่อน เรื่องนี้จริงจังมากนะ สำคัญ!

• ปริญญาตรี 4 ปี (ส่วนใหญ่)
• ปริญญาตรี 3 ปี (บางที่ บางคณะ) ต้องเรียนเพิ่มเติมสำหรับโท
• อนุปริญญา ต้องเรียนเพิ่มเติมสำหรับโท

เฮ้อ เรื่องโทนี่ TOEFL IBT ต้อง 79 ขึ้นไปใช่มั้ย? นี่คือเกณฑ์ทั่วไป แต่แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน ปีนี้ฉันว่าจะไปลองสอบดู แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะสมัครที่ไหนดี มหาลัยเยอะแยะไปหมด เลือกไม่ถูกเลย กลุ้มใจจัง! ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกเยอะเลย

คิดไปคิดมา ปีนี้คงต้องโฟกัสเรื่องสอบโทอิกก่อนดีกว่า แล้วค่อยวางแผนเรื่องไปเรียนต่อ โอเค ตัดสินใจแล้ว! แต่ยังไงก็ต้องหาทุนด้วยนะ เงินไม่พอแน่ๆ หาทุนยากมั้ยเนี่ย? อยากเรียนที่แคลิฟอร์เนีย อากาศดี แต่ค่าครองชีพก็คงสูงน่าดู เฮ้อออ เยอะแยะไปหมด ต้องทำลิสต์ให้เป็นระเบียบซะแล้ว เด๋วจะลืม

ปริญญาตรีที่อังกฤษเรียนกี่ปี

อังกฤษเรียนปริญญาตรีแค่ 3 ปีเองนะจ๊ะ! เร็วปานจรวดเลยใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าอยากลองชิมลางชีวิตการทำงานก่อนจบ ก็มีโปรแกรม “sandwich programme” เรียน 4 ปี แทรกฝึกงานเข้าไปด้วย เหมือนกินแซนวิช มีไส้แน่นๆ เป็นประสบการณ์ทำงาน รับรองว่า อนาคตสดใสกว่าใครเพื่อน!

• 3 ปี: เร็ว แรง ทันใจ จบไว เริ่มทำงานไว
• 4 ปี (sandwich programme): เพิ่มประสบการณ์ เหมือนได้กินแซนวิชไส้แน่นๆ คุ้มค่าแน่นอน

ปีนี้ (2566) ยังคงระบบนี้เหมือนเดิมนะ ข้อมูลจากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยต่างๆ ในอังกฤษยืนยันแล้ว ลองเสิร์ชดูได้เลย แต่ละที่อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยไม่เหมือนกันนะ อย่าลืมเช็คให้ดีก่อนสมัคร เพราะชีวิตไม่ใช่ละคร เดี๋ยวจะเสียเวลาเปล่า

ปล. พี่เคยสมัครเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษเมื่อปี 2565 ระบบก็ยังเหมือนเดิม เลยมั่นใจว่าข้อมูลนี้แม่นยำ แต่เดี๋ยวนี้โลกเปลี่ยนเร็ว ก็เช็คข้อมูลให้ดีอีกรอบนะ เผื่อมีอะไรอัพเดต

ปริญญาเอก อังกฤษ เรียนกี่ปี

ปริญญาเอกอังกฤษ? เอ่อ…ถ้าไม่รีบไปไหน ก็เตรียมตัวปักหลัก 4 ปี ไปเลยจ้ะพี่น้อง! อย่าคิดว่ากินหมูนะ, นั่นมันแค่เริ่มต้น! 😅

• อย่าหลงกล! 4 ปีน่ะ, เขาว่า “ขั้นต่ำ” ไง! บางคนเจอปัญหาชีวิต, โปรเจ็กต์พัง, อาจารย์ไม่ปลื้ม…ลากยาวไป 6-7 ปีก็มี!
• เงินทองต้องพร้อม! ค่าเทอม ค่ากินอยู่…อังกฤษไม่ได้ถูกๆ นะจ๊ะ! เตรียมหยอดกระปุกตั้งแต่เนิ่นๆ!
• ใจต้องนิ่ง! เรียนเอกน่ะ, มันเหงา มันเครียด! ถ้าใจไม่แข็งพอ…อาจจะร้องไห้ทุกวัน! (อันนี้พูดจริง, ไม่ได้ขู่!)
• เคล็ดลับ: หามุมสงบในห้องสมุด, ชงชา, ฟังเพลง…อะไรก็ได้ที่ทำให้จิตใจสงบ!

เพิ่มเติมแบบเจาะลึก (เผื่อใครอยากรู้):

• อังกฤษ VS ออสเตรเลีย: ออสเตรเลียอาจจะสั้นกว่า (3-4 ปี), แต่ร้อนนะ! ถ้าไม่ชอบแดด, อยู่บ้านเราดีกว่า!
• อเมริกา: ยาวไป 5 ปี…แต่เขามีทุนเยอะนะ! ลองเสี่ยงดวงดู!
• อย่าเชื่อรีวิว: แต่ละคนเจอประสบการณ์ไม่เหมือนกัน! ทำการบ้านเยอะๆ, ถามรุ่นพี่…อย่าฟังความข้างเดียว!
• สำคัญสุด: เลือกหัวข้อที่เรา “รัก” จริงๆ! เพราะเราต้องอยู่กับมันไปอีกนาน! ถ้าไม่รัก…ตายแน่นอน! 🤣
• คำเตือน: เตรียมรับมือกับอากาศ! อังกฤษฝนตกบ่อยมาก! ร่ม คือเพื่อนที่ดีที่สุด! ☔️

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้อิงจากประสบการณ์ส่วนตัวและแหล่งข้อมูลทั่วไป อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากสถาบันการศึกษาโดยตรง.

เรียนปริญญาเอก อเมริกา กี่ปี

เรียนเอกอเมริกา? ห้าปี. ขั้นต่ำ.

• สองปีแรก: เรียน. เน้นทฤษฎี.
• สามปีหลัง: วิจัย. Thesis. หัวใจหลัก.

ข้อมูลเพิ่มเติม:

• เวลา: ขึ้นอยู่กับสาขา. บางสาขาอาจนานกว่า.
• ทุน: หาให้ดี. ค่าใช้จ่ายสูง.
• อาจารย์: เลือกให้ถูก. มีผลต่อชีวิต.
• ชีวิต: เตรียมใจ. ยาก. แต่คุ้มค่า. ถ้าไหว.
• Coursework: หนัก. อ่านเยอะ. เขียนเยอะ. พรีเซนต์เยอะ.
• Thesis: ปัญหาเยอะ. ต้องอดทน. อย่าท้อ.
• จบ: ยากกว่าที่คิด. แต่ภูมิใจ. ชัวร์.
• เรื่องจริง: เพื่อนเรียนสิบปี. ยังไม่จบ. มีถมไป.
• คำแนะนำ: ถามตัวเอง. อยากจริงไหม.
• เคล็ดลับ: คุยกับรุ่นพี่. ช่วยได้เยอะ.
• ปีล่าสุด: ข้อมูลปี 2024. อัพเดทแล้ว.