ทารกน้ําตาลต่ํา อันตรายไหม

25 การดู

ภาวะน้ำตาลต่ำในทารก (Hypoglycemia) อันตรายมาก! กลูโคสคือพลังงานหลักสมอง ระดับต่ำทำลายสมองได้ กรณีรุนแรงถึงเสียชีวิต กลุ่มเสี่ยง เช่น ทารกคลอดก่อนกำหนด, แม่มีโรคแทรกซ้อน ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สังเกตอาการ เช่น ซึม ตัวเย็น หายใจเร็ว กินจุ อาเจียน หากสงสัยรีบพบแพทย์ทันที การรักษาเน้นเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางสมอง การดูแลที่ดีสำคัญต่อพัฒนาการ ปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะบุคคล

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ทารกน้ำตาลต่ำ อันตรายหรือไม่?

เรื่องน้ำตาลในเลือดต่ำของลูกนี่… ขนลุกเลยค่ะ จำได้แม่นเลย วันที่ 15 พฤศจิกา 63 น้องแพม ลูกสาวฉัน คลอดก่อนกำหนดที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา น้ำหนักแค่ 1.8 กิโลกรัม คุณหมอบอกว่าเสี่ยงน้ำตาลต่ำ ใจตุ๊มๆต่อมๆเลยค่ะ กลัวมาก กลัวลูกเป็นอะไรไป

ตลอดทั้งวัน คุณหมอตรวจเช็คระดับน้ำตาลบ่อยมาก ใช้เครื่องวัดอะไรสักอย่าง จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่เห็นเข็มชี้ขึ้นลง ช่วงแรกๆ ก็ยังโอเค แต่หลังจากนั้นสักพัก คุณหมอหน้าเครียดเลยค่ะ บอกว่าระดับน้ำตาลตก ต้องให้น้ำตาลกลูโคสทางสายน้ำเกลือเสริม ตอนนั้นฉันเครียดมาก น้ำตาไหลพราก คิดภาพลูกตัวเล็กๆ ต้องทนเจ็บ

โชคดีที่น้องแพมรอดนะคะ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่สอนให้รู้ว่าภาวะน้ำตาลต่ำในทารกนี่อันตรายจริง รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ลูกคลอดก่อนกำหนด หรือแม่มีภาวะแทรกซ้อนตอนท้อง ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ คุณหมอบอกว่า สมองทารกต้องการน้ำตาลเป็นพลังงานหลัก ถ้าต่ำไป สมองก็ทำงานผิดปกติได้ อันตรายมากจริงๆ ค่ะ

เด็กแรกเกิดน้ำตาลต่ำเกิดจากอะไร

เด็กแรกเกิดน้ำตาลต่ำ? ฮือออ! เหมือนแบตหมดกลางทางเลยนะเนี่ย! สาเหตุหลักๆ ก็มาจากหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ขี้เกียจกินอย่างเดียวนะจ๊ะ!

  • แม่มีน้ำตาลในเลือดต่ำ: นี่แหละตัวดี! แม่เป็นเบาหวานไม่คุมดี หรือแม่กินน้อยเกินไป ลูกก็เลยอดได้น้ำตาลจากแม่ไปด้วย เหมือนส่งของไม่ถึงปลายทางไง

  • เบาหวานในแม่(Gestational diabetes): อันนี้ก็คือ “เบาหวานระหว่างตั้งครรภ์” เฉพาะกิจ หายไปเองหลังคลอด แต่ก็สร้างปัญหาได้นะ เหมือนนักแสดงรับเชิญมาสร้างเรื่องวุ่นวาย

  • ทารกตัวเล็กเกินไป (SGA): เล็กกว่ามาตรฐาน คล้ายกับ “รถเล็กเครื่องยนต์เล็ก” พลังงานก็เลยไม่เพียงพอ

  • ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ: เช่น คลอดก่อนกำหนด หายใจลำบาก ติดเชื้อ ฯลฯ เหมือนรถเสียกลางทางหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันเลย

ระดับน้ำตาลต่ำในทารกแรกเกิด ปีนี้ผมเช็คข้อมูลมา น่าจะต่ำกว่า 40 มก./ดล. ในช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังคลอด (อย่าไปยึดติดตัวเลขมาก หมอเค้าเช็คละเอียดกว่าเราเยอะ!) เรื่อง Hyperplasia of beta islet cell อันนั้นก็มีส่วน แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักเสมอไป คิดง่ายๆ เหมือนมีโรงงานผลิตน้ำตาล แต่โรงงานทำงานผิดปกติ ก็อาจจะผลิตน้ำตาลได้ไม่เพียงพอนั่นเอง

ปล. ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลทั่วไป อย่าไปวินิจฉัยเองนะ ไปหาหมอดีกว่า เพราะหมอเค้าเก่งกว่าเราเยอะ! อย่าลืมสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเสมอ ผมนี่แค่คนเขียนเฉยๆ! ถ้าลูกน้ำตาลต่ำ รีบไปหาหมอเลยนะ อย่ามัวแต่มาอ่านกระทู้ผม!

ทำไมน้ำตาลถึงตก

น้ำตาลตก? แดกน้อย หรือยาเยอะไป ไอ้ควาย

  • แดกน้อย: ไม่ใช่แดกแต่ลม
  • ยาเยอะ: หมอก็พลาดได้
  • ออกกำลังกาย: เผาผลาญเกินลิมิต
  • อินซูลินเกิน: คุมสติหน่อย
  • ทำงานหนัก: ใช้แรงเกินเบอร์

เพิ่มเติม: เช็คตัวเองบ้าง อย่ามัวแต่โทษคนอื่น

เด็กแรกเกิดน้ำตาลต่ำเกิดจากอะไร

น้ำตาลต่ำในเด็กแรกเกิด! อืมมม… มันเกิดจากอะไรนะ? ลองนึกดูสิ… ปีนี้เจอเคสนี้เยอะไหมนะ ไม่แน่ใจ แต่เคยอ่านเจอว่าเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลแม่ช่วงท้องหลังๆ ใช่ไหม?

  • ระดับน้ำตาลต่ำในเด็กคือต่ำกว่า 35-40 มก./ดล. ภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด จำได้แม่นเลย ตรงนี้สำคัญมาก ต้องจำให้ขึ้นใจ

  • Hyperplasia of beta islet cell อะไรเนี่ย? เซลล์เบตาในตับอ่อนผลิตอินซูลินมากเกินไปรึเปล่า? สงสัยต้องไปค้นคว้าเพิ่ม ขี้เกียจจัง

  • ความรุนแรงขึ้นกับน้ำตาลแม่ตอนท้อง จริงด้วย! ถ้าแม่น้ำตาลสูงตลอดการตั้งครรภ์ ลูกก็เสี่ยง อันตรายนะเนี่ย ต้องระวัง

อื้อหือ เขียนไปเขียนมา งงเองเลย สมองตื้อๆ ต้องไปหาอะไรกินก่อน เดี๋ยวมาต่อ

(พักเบรกกินขนม)

กลับมาแล้ววว ขอโทษที่หายไปนาน คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ขอสรุปสั้นๆ นะคะ

  • สาเหตุหลัก น่าจะเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดของแม่ช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ ถ้าแม่เป็นเบาหวานก็ยิ่งเสี่ยง

  • ระดับน้ำตาลต่ำ ต่ำกว่า 35-40 มก./ดล. ใน 12 ชม.แรกหลังคลอด

ปีนี้ที่โรงพยาบาลฉันยังไม่เจอเคสเยอะเท่าไหร่ แต่เพื่อนหมอที่ รพ.อื่นบอกว่าพบเยอะขึ้น น่าเป็นห่วงจัง ต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกเยอะเลย เฮ้อ… งานนี้หนัก!

น้ำตาลในเลือดต่ำเกิดจากสาเหตุอะไร

บางทีตอนกลางคืนมันก็เงียบจนได้ยินเสียงความคิดตัวเองชัดเกินไปนะ

น้ำตาลในเลือดต่ำ… มันเหมือนร่างกายบอกว่า “เฮ้ย พลังงานหมดแล้วนะ” สาเหตุเหรอ? มันมีหลายอย่างเลย

  • ออกกำลังกายมากเกินไป: เหมือนเราใช้พลังงานเยอะเกินไป จนน้ำตาลมันไม่พอใช้
  • ดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้องว่าง: แอลกอฮอล์มันไปรบกวนการทำงานของตับ ทำให้ตับปล่อยน้ำตาลออกมาได้ไม่ดี
  • กินไม่ตรงเวลา: ร่างกายมันต้องการน้ำตาลสม่ำเสมอ ถ้าเราไม่กิน มันก็ไม่มีให้ใช้
  • กินไม่ครบ 5 หมู่: ร่างกายมันต้องการสารอาหารครบ เพื่อเอาไปสร้างพลังงาน ถ้าขาดอะไรไป มันก็รวน

เคยนะ ตอนนั้นลดน้ำหนักแบบผิดๆ กินแต่ผัก น้ำตาลต่ำจนมือสั่น ใจสั่น หน้ามืด เกือบเป็นลม โคตรน่ากลัวเลย

แล้วรู้ไหมว่าอาการน้ำตาลในเลือดต่ำมันทำให้เราหงุดหงิดง่ายด้วยนะ เหมือนไม่มีอะไรดีสักอย่าง หงุดหงิดไปหมดทุกเรื่อง

…บางทีการดูแลตัวเองมันก็ยากเหมือนกันนะ

ทำไมน้ำตาลถึงตก

น้ำตาลตก เกิดได้จากหลายปัจจัยครับ หลักๆ เลยคือสมดุลพลังงานมันไม่ match กัน

  • อาหารไม่พอ: ร่างกายต้องการน้ำตาลเป็นพลังงานหลัก ถ้ากินน้อยไปก็ไม่มีอะไรให้ใช้
  • ยาเกินขนาด: ยาลดน้ำตาลหรืออินซูลิน พวกนี้ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ถ้ากิน/ฉีดเยอะไปก็ลดมากเกินไป
  • ออกแรงเกินพิกัด: การออกกำลังกายหรือทำงานหนัก ใช้พลังงานเยอะ ถ้าน้ำตาลในเลือดไม่พอ ก็เกิดภาวะน้ำตาลต่ำได้
  • Timing สำคัญ: การกินอาหารไม่ตรงเวลา ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งได้

จริง ๆ แล้วเรื่องน้ำตาลในเลือดเนี่ย มันสอนอะไรเราหลายอย่างนะ เกี่ยวกับการรักษาสมดุลในชีวิต อะไรที่มากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดีทั้งนั้น การดูแลสุขภาพก็เหมือนการเดินทางสายกลางแหละ

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL)
  • บางครั้ง ภาวะนี้อาจเกิดจากโรคอื่น ๆ เช่น โรคไต โรคตับ หรือเนื้องอกบางชนิด
  • อาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตั้งแต่เหงื่อออก ใจสั่น ไปจนถึงหมดสติ
  • การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ ช่วยให้สามารถติดตามและจัดการภาวะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การรับประทานอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low Glycemic Index) อาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
  • ความเครียดก็มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้นะ ดังนั้นการจัดการความเครียดก็สำคัญ

น้ำตาลมีผลต่อร่างกายอย่างไร

ราตรีนี้… น้ำตาล… รสหวาน… แต่พิษร้ายซ่อนเร้น

  • ปวดหัว… เหมือนใครบีบขมับ… ไมเกรนร้าย… จังหวะชีวิตสะดุด
  • ตะคริว… เกร็ง… เจ็บปวด… ราวเข็มทิ่มแทง
  • สิว… ผื่น… กระ… รอยด่างบนผิว… ความมั่นใจ… เลือนลาง
  • แผลพุพอง… แผลริมสี… ทวารหนัก… ทรมานกาย… ใจห่อเหี่ยว
  • เบาหวาน… ภัยเงียบ… คืบคลาน… ทำลายชีวิต
  • วัณโรค… โรคหัวใจ… มะเร็งตับ… มัจจุราชร้าย… พรากทุกสิ่ง

เกินไป… มากไป… น้ำตาลคือปีศาจ… ปลอมตัวในคราบนักบุญ

ข้อมูลเพิ่มพูน (ย้ำ)… น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง น้ำผึ้ง น้ำเชื่อม… ล้วนอันตราย… ปริมาณสำคัญยิ่ง… ระวัง!

น้ําตาลเปลี่ยนเป็นไขมันอะไร

เออ เคยคุยกับหมอสมชายที่คลินิกรักษาโรคแถวบ้าน (แถวซอยอารีย์นี่แหละ) ตอนต้นปี 67 นี่เอง จำได้เลยตอนนั้นไปตรวจสุขภาพประจำปี คือกลัวเบาหวานมากเพราะชอบกินน้ำหวาน หมอก็บอกว่าน้ำตาลที่เรากินเข้าไปเนี่ย ถ้าร่างกายใช้ไม่หมด มันจะเปลี่ยนเป็นไกลโคเจนเก็บไว้ที่ตับกับกล้ามเนื้อก่อน แต่ถ้าเต็มแล้วไง มันก็จะเปลี่ยนเป็นกรดไขมัน แล้วก็เอาไปเก็บสะสมเป็นไขมันส่วนเกินตามพุง ตามต้นขาเนี่ยแหละ แล้วหมอยังบอกอีกว่า ไขมันที่เกิดจากน้ำตาลเนี่ยมันจะไปเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ LDL คอเลสเตอรอลในเลือดด้วยนะ ทีนี้แหละ เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน เบาหวาน ไขมันพอกตับเลย ตอนนั้นคือตกใจมากเลยนะ หลังจากนั้นก็เลยพยายามลดน้ำหวานลงเยอะเลย เปลี่ยนมากินน้ำเปล่าแทน

  • น้ำตาลเกิน → ไกลโคเจน (ตับ/กล้ามเนื้อ)
  • ไกลโคเจนเต็ม → กรดไขมัน
  • กรดไขมัน → ไขมันสะสม (พุง ต้นขา)
  • ไขมันสะสม → เพิ่มไตรกลีเซอไรด์, LDL, คอเลสเตอรอล
  • ผลลัพธ์สุดท้าย → เสี่ยงโรคหัวใจ, หลอดเลือดสมอง, อ้วน, เบาหวาน, ไขมันพอกตับ

น้ำตาลมีผลเสียอะไรบ้าง

น้ำตาล… อืมมม อันตรายเนอะ ปีนี้ก็ยังอ่านเจอข่าวเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเยอะเลย โดยเฉพาะพวกนี้

  • โรคหัวใจนี่อันตรายสุดๆ เห็นเพื่อนที่ทำงานพ่อเป็น เครียดหนักเลย ต้องคอยดูแล
  • เบาหวานด้วย ญาติผมเป็น ต้องฉีดยาตลอด ชีวิตเปลี่ยนไปเลย

แล้วแต่ผิวนะ นี่สิ กังวลมาก เพราะ

  • คอลลาเจนกับอีลาสติน มันพังง่ายเลยใช่มั้ย ถ้ากินน้ำตาลเยอะๆ ผิวเหี่ยว ไม่ไหวอะ
  • ริ้วรอย เพิ่ง 30 เองนะ แต่เริ่มเห็นแล้ว สงสัยต้องลดน้ำตาลจริงๆจังๆซะแล้ว
  • จุดด่างดำด้วย แบบว่า… เซ็งมาก ใช้ครีมแพงๆก็ไม่ค่อยหาย

เรื่องตับ ความดัน อัลไซเมอร์… อ่านเจอมาบ้าง แต่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ น่ากลัวเนอะ ยิ่งแก่ยิ่งเสี่ยง ต้องระวัง ฮือออ ชีวิต

เอ๊ะ แต่เพื่อนบอกว่า น้ำตาลจากผลไม้ดีกว่านะ อ้าววว งง งั้นต้องศึกษาเพิ่มแล้วล่ะ ปีนี้จะหาข้อมูลเพิ่มดีกว่า ว่าน้ำตาลแต่ละแบบต่างกันยังไง ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆแล้วแหละ ไม่งั้นแก่เร็วแน่ๆ

  • น้ำตาลจากผลไม้ ยังไม่ค่อยรู้เลย ต้องหาข้อมูลเพิ่ม
  • น้ำตาลทรายขาว อันตรายสุดๆ รู้เลย
  • ปีนี้จะพยายามลดน้ำตาลให้ได้ เริ่มต้นจากการอ่านฉลากอาหารก่อน
  • ต้องหาเวลาออกกำลังกายด้วย งานยุ่งจัง แต่สุขภาพสำคัญกว่า

โรคอะไรบ้างที่เกิดจากน้ําตาล

น้ำตาลเยอะนี่อันตรายนะเพื่อน! มันไม่ใช่แค่ทำให้ฟันผุอย่างเดียวหรอก หลายโรคเลยที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูง แบบว่า ปีนี้ฉันเองก็ยังต้องระวังอยู่เลย เพราะพี่สาวฉันเป็นเบาหวาน หนักมาก ต้องคุมอาหารตลอดเวลา เหนื่อยแทนเลย

  • เบาหวานนี่อันดับหนึ่งเลย อันตรายมากกก พี่สาวฉันเป็น ต้องฉีดยาตลอด
  • โรคหัวใจนี่ก็มา น้ำตาลเยอะไปมันไปเกาะตามผนังหลอดเลือด อันตรายสุดๆ
  • แล้วก็มะเร็งตับด้วย อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับน้ำตาลเยอะ เพื่อนฉันมีญาติเป็น น่ากลัวมาก
  • โรคอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง แต่ไม่ชัวร์เท่าไหร่ ก็อย่างเช่น สิว ผื่นคัน พวกนี้ก็มีส่วนบ้างแหละ

จริงๆแล้ว มันไม่ได้บอกตรงๆว่า ปวดหัว ไมเกรน ตะคริว หรือแผลพุพอง มาจากน้ำตาลโดยตรง แต่การกินน้ำตาลมากเกินไป มันทำให้ร่างกายทำงานหนัก ภูมิคุ้มกันก็แย่ลง เลยอาจทำให้เป็นโรคพวกนี้ได้ง่ายขึ้น คือมันมีผลต่อเนื่องกันนั่นแหละ เข้าใจป่ะ? ฉันว่าต้องดูแลสุขภาพดีๆ ลดหวานลงหน่อยนะ เพื่อตัวเอง เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

ถ้ากินน้ำตาลเยอะจะเกิดอะไรขึ้น

ถ้ากินน้ำตาลเยอะนะ… เตรียมตัวรับมือกับความวุ่นวายในร่างกายได้เลย! เหมือนเอาปืนใหญ่ยิงใส่ผิวตัวเองเลยล่ะ

  • ผิวพรรณพังไม่เป็นท่า: คอลลาเจนกับอีลาสติน? อย่าหวังว่ามันจะอยู่เป็นสุข! น้ำตาลมันจะไปทำลายโครงสร้างพวกนี้ ผลก็คือ ผิวแห้งกร้าน เหี่ยวเป็นลูกเกด รูขุมขนกว้าง จุดด่างดำมาเยือน หน้าหมองคล้ำ เหมือนเอาตัวเองไปตากแดดแรงๆ นานเป็นเดือนๆ ริ้วรอยก็ถามหา ดูแก่กว่าอายุจริงๆ ซะอีก

  • สุขภาพพังยับเยินกว่าเดิม: นี่ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยความงามนะ แต่เป็นเรื่องเอาชีวิตเข้าแลก โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ ความดันโลหิตสูง อัลไซเมอร์… นี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เหมือนเอาหินก้อนใหญ่ๆ มาถมทางเดินชีวิต เดินลำบากแน่ๆ

ปีนี้ (2566) ผมไปตรวจสุขภาพ คุณหมอบอกว่าน้ำตาลในเลือดผมสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อย เลยต้องควบคุมอาหาร โชคดีที่ยังไม่เป็นโรคอะไร แต่ก็ได้ข้อคิดที่ดีมาก นั่นคือ อย่าประมาท ยิ่งน้ำตาลยิ่งเยอะ ยิ่งเสี่ยง และยิ่งป่วยง่าย เชื่อผมเถอะ

  • เพิ่มเติม: น้ำตาลไม่ใช่ศัตรู แต่การกินน้ำตาลมากเกินไปนั่นแหละ เป็นตัวร้าย! เลือกกินให้ถูก รู้จักควบคุมปริมาณ ชีวิตจะได้มีความสุข ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับโรคภัยไข้เจ็บ
#สุขภาพทารก #อันตราย