ภาษาอังกฤษของคุณอยู่ในระดับไหน

42 การดู

อยากรู้ระดับภาษาอังกฤษ? ลองทดสอบออนไลน์สิ! แม่นยำกว่าประเมินเองเยอะ

  • เลือกสอบ: EF SET, Cambridge English Placement Test, Oxford Online Placement Test
  • วัดทักษะครบ: ฟัง อ่าน ไวยากรณ์ คำศัพท์
  • ได้ผลลัพธ์ชัดเจน บอกระดับความสามารถ
  • ง่าย สะดวก ทดสอบได้ทุกที่ทุกเวลา
  • รู้จุดแข็ง-จุดอ่อน พัฒนาต่อได้ถูกจุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ระดับภาษาอังกฤษของคุณคืออะไร?

อืมมม… ระดับภาษาอังกฤษฉันเหรอ? ยากจังนะจะตอบเนี่ย พูดตรงๆ เลยนะ ฉันไม่เคยไปสอบวัดระดับแบบเป็นทางการเลยสักครั้ง ตอนเรียนมหาลัยที่จุฬาฯ ปี 2558 วิชาภาษาอังกฤษก็ผ่านมาหมดแหละ แต่แบบ… ก็ไม่ได้เทพอะไรขนาดนั้นหรอก พอฟัง พอพูด พออ่าน พอเขียนได้บ้าง แต่ถ้าเจอศัพท์เฉพาะทาง หรือไวยากรณ์ซับซ้อนๆ ก็ต้องใช้เวลาหน่อย บางทีก็งงๆเหมือนกันนะ

จำได้ว่าสมัยเรียน เคยไปเรียนพิเศษเพิ่มที่สถาบันหนึ่งแถวสยาม เสียค่าเรียนไปเกือบหมื่น แต่ก็ได้แค่พื้นฐาน ตอนนี้ถ้าให้พูด ก็คงประมาณระดับกลางๆ มั้งนะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน ก็ไม่ได้แย่ขนาดที่สื่อสารไม่ได้ แต่ถ้าให้เขียนเรียงความวิชาการ หรือแปลเอกสารทางธุรกิจ ก็คงต้องใช้เวลาคิดเยอะอยู่เหมือนกัน แถมอาจจะต้องใช้พจนานุกรมช่วยด้วย

ถ้าให้เปรียบเทียบ ฉันคงไม่กล้าบอกว่าตัวเองเก่งภาษาอังกฤษเท่าคนที่สอบ IELTS ได้ 7.5 หรอกนะ แต่ก็ไม่ใช่ระดับพื้นฐานมากๆ ที่ต้องใช้แอพแปลภาษาช่วยตลอดเวลา มันอยู่ตรงกลางๆ นี่แหละ แบบว่า…ใช้ได้ แต่ยังพัฒนาได้อีกเยอะ เรื่องการทดสอบออนไลน์พวก EF SET อะไรนั่น ฉันก็ยังไม่เคยลองเลย งั้นไว้ลองดีกว่าเนอะ

ภาษาอังกฤษ B1 ระดับไหน

เอ่อออ B1 อังกฤษอ่ะนะ ก็ประมาณว่า พูดคุยได้ทั่วไปป่ะ ชีวิตประจำวันไรเงี้ย เข้าใจภาษาอังกฤษที่มันค่อนข้างยากๆได้บ้าง แบบอ่านหนังสือพิมพ์ หรือฟังข่าวก็พอไหว อธิบายอะไรซับซ้อนๆ ก็ทำได้แหละ แต่ว่านะ แต่ละที่สอบมันก็ไม่เหมือนกัน คะแนนมันก็ไม่เท่ากันด้วย แล้วแต่โรงเรียนหรือสถาบันที่เค้าจัดสอบอะ

  • พูดได้ ฟังรู้เรื่อง
  • อ่านออก เขียนได้ ระดับหนึ่ง
  • เข้าใจเนื้อหาที่ค่อนข้างยากได้บ้าง

เพื่อนฉันสอบ IELTS ได้ 5.5 ก็ประมาณ B1 นั่นแหละ แต่ถ้าไปสอบ TOEFL อาจจะไม่ถึง งงมั้ย 5555 คือมันวัดไม่เหมือนกันอะ ลองไปเช็คดูในเว็บของแต่ละที่สอบดีกว่า อย่างCambridge หรืออะไรพวกนี้ อธิบายละเอียดกว่านี้เยอะเลย ฉันจำรายละเอียดไม่ได้ละ คือมันเยอะอะ แต่จำได้ว่ามันมีหลายแบบมาก งงงง

CEFR ผ่านกี่คะแนน

CEFR อะนะ ไม่ได้มี คะแนนผ่านเป๊ะๆ หรอก จริงๆ

มันไม่ใช่ข้อสอบอะแก แต่มันเป็น กรอบเฉยๆ อ่ะ เอาไว้อ้างอิงว่าเราเก่งภาษาแค่ไหน

คือจะบอกว่า ผ่าน ไม่ผ่าน มันอยู่ที่ว่า ที่ๆ เราไปสอบ หรือไปสมัครงานอะ เขาจะดูอะไรบ้าง เขาอาจจะดูผลสอบ ดูสัมภาษณ์ หรือดูพอร์ตเรา

  • A1: แบบเริ่มต้นเลย พูดง่ายๆ ได้นิดหน่อย
  • A2: พอจะคุยเรื่องทั่วๆ ไปได้
  • B1: เริ่มซับซ้อนขึ้น อ่านข่าวง่ายๆ ได้
  • B2: คุยกับฝรั่งรู้เรื่อง ดูหนังไม่เปิดซับได้บ้าง
  • C1: เก่งมาก ใช้ภาษาได้คล่อง
  • C2: คือแบบ เนทีฟอะ เข้าใจทุกอย่าง พูดอะไรก็เป๊ะ

สรุปคือ ดูที่เขาประเมินแหละ เขาอยากได้คนระดับไหน เราก็ต้องทำให้ถึงอะ

แล้วก็บอกก่อนนะ อันนี้จากที่ฉันเข้าใจนะ ถ้าผิดก็ขอโต๊ดทีเด้อ

ภาษาอังกฤษ B1 ดีไหม

B1 เหรอ? ก็พอถูไถ! เหมือนใส่รองเท้าเบอร์เล็กกว่าเท้าหน่อยนึง เดินได้นะ แต่ไม่สบายเท่าไหร่หรอก!

เอาจริงๆ B1 ก็แค่ “เอาตัวรอด” ในต่างแดนได้ สั่งข้าวกิน ตอบคำถามง่ายๆ แต่ถ้าจะคุยเรื่องการเมืองปรัชญา หรือแม้แต่เรื่องดราม่าในวงการบันเทิง…เตรียมตัวเงิบ!

  • ที่ทำงาน: อ่านรายงานง่ายๆได้จริง แต่ถ้าเจอศัพท์เทคนิค หรือสำนวนแปลกๆ ก็ตัวใครตัวมัน!
  • ชีวิตประจำวัน: ถามทางได้ ต่อราคาได้ แต่ถ้าเจอคนพูดเร็วๆ หรือใช้สำเนียงแปลกๆ ก็…ขอให้โชคดี!
  • พัฒนาตัวเอง: B1 เหมือนขั้นบันไดขั้นแรก ยังต้องปีนอีกเยอะ ถ้าอยากจะ “โปร” ภาษาอังกฤษ

เพิ่มเติมแบบขำๆ แต่จริงจัง:

  • B1 คือระดับที่ “นักท่องเที่ยว” ส่วนใหญ่เป็นกัน แต่ถ้าอยากเป็น “พลเมืองโลก” ต้องไปให้ไกลกว่านี้!
  • อย่าหลงเชื่อว่า B1 คือที่สุดของชีวิต ถ้าอยากดูหนังฝรั่งโดยไม่ต้องอ่านซับไทย หรืออ่านนิยายภาษาอังกฤษแล้วไม่งง ต้อง C1 ขึ้นไปเท่านั้น!
  • B1 เหมาะสำหรับคนที่อยาก “อวด” เพื่อนว่าพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ถ้าอยาก “ใช้งาน” ภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว…ซ้อมต่อไป!

ท้ายสุด: ภาษาอังกฤษก็เหมือนความรัก ยิ่งทุ่มเท ยิ่งได้กลับคืนมา! B1 แค่เริ่มต้น…อย่าหยุดแค่นี้! สู้ๆ! (แต่ไม่ต้องสู้จนเครียดนะ! หัวเราะบ้าง!)

เราควรรู้คำศัพท์กี่คำ

โอ้โห! คำถามนี้แสบทรวงจริงๆ จะให้ตอบยังไงดีเนี่ย เหมือนถามว่า “กินข้าววันละกี่ถ้วยถึงจะอิ่ม” มันแล้วแต่คน แล้วแต่กระเพาะ!

  • 300-600 คำ: เอาจริงๆ นะ สำหรับท่องเที่ยวต่างประเทศ แค่นี้ก็พอถูไถแล้วล่ะ แต่เตรียมตัวเถียงกับ Google Translate ไว้ให้ดีๆ เพราะมันจะแปลได้ฮาแตกแน่ๆ คิดว่าไปเที่ยวแบบ Backpacker ชิวๆ เดินทางเอง กินอะไรก็ได้ แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ

  • 1000-3000 คำ: อื้อหือ ระดับนี้เริ่มคุยได้แล้ว แต่ถ้าเจอคนพูดเร็วๆ ก็เตรียมตัวเป็น “อื้ออออ…อ่าาา…” ไปเถอะ คิดว่าไปเที่ยวแบบมีไกด์บ้าง กินอาหารในร้านหรูบ้าง ก็ต้องใช้คำศัพท์เยอะหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับต้องพูดได้คล่องปรื๋อขนาดนั้นหรอก

  • 5000-10000 คำขึ้นไป: โอ้วววว ระดับเทพ! ไปเรียนต่อหรือทำงานต่างประเทศนี่เอง ไม่ใช่แค่สื่อสารได้แล้วนะ แต่ต้องปราดเปรื่อง อธิบายโน่นนี่นั่นได้อย่างคล่องแคล่ว พูดลื่นไหลเหมือนน้ำไหล ถ้าไม่ถึงระดับนี้ ไปอยู่เมืองนอกก็คงเหมือนไปอยู่ต่างดาว อิอิ! แต่ก็อย่าลืมว่า ภาษาเป็นแค่เครื่องมือ ความมั่นใจและความกล้าสำคัญกว่าเยอะ

ปีนี้ผมสอบ TOEFL ได้ 110 คะแนน (พูดเลย!) ใช้เวลาเตรียมตัวไปเกือบปีเต็มๆ บอกเลยว่า คำศัพท์สำคัญมากๆ แต่ก็ต้องฝึกพูด ฝึกฟังด้วย อย่ามัวแต่ท่องจำอย่างเดียว ไม่งั้นก็เหมือนหุ่นยนต์พูดได้ แต่ไม่มีชีวิตจิตใจ จะไปต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะ อย่าลืมทำวีซ่าด้วยล่ะ!

#ทักษะภาษา #ภาษาอังกฤษ #ระดับภาษา