แกรมม่าอังกฤษ มีเรื่องอะไรบ้าง

เนื้อหาแกรมม่า มีอะไรบ้าง

แกรมม่าพื้นฐาน? เรื่องเด็กๆ

• Noun, Pronoun, Adjective, Verb, Adverb, Conjunction, Preposition, Interjection… จำให้ขึ้นใจ ไม่งั้นไปไม่รอด

เรียนยังไง? หาเอาเอง กูไม่ว่างสอน

แนะนำคอร์ส? ก็ Coursera, Udemy พวกนั้นแหละ เอาที่มึงไหว

ปีนี้ผมเรียนเสริม grammar กับติวเตอร์ส่วนตัว ใช้หลักสูตรแบบอเมริกัน เน้นการใช้ภาษาจริง ไม่ใช่ทฤษฎีล้าสมัย

• Focus: การเขียน essay และการพูด เพื่อสอบ TOEFL iBT ได้คะแนนสูงๆ เป้าหมาย 110+

• ผลลัพธ์: ดีขึ้นเยอะ ใช้ภาษาได้คล่องขึ้น มั่นใจขึ้น ไม่ต้องไปเสียเวลากับคอร์สพื้นฐานไร้สาระอีกต่อไป

เพิ่มเติม: ถ้าอยากเก่งจริงๆ ต้องฝึกเอง เยอะๆ อ่านเยอะ เขียนเยอะ พูดเยอะ ไม่ใช่รอให้คนมาป้อน

ประโยคภาษาอังกฤษเรียงยังไง

อืม… เรียงประโยคภาษาอังกฤษเนี่ยนะ มันก็… คิดหนักเหมือนกัน

ปกติก็ Subject-Verb-Object ใช่ป่ะ ประธานมาก่อน กริยาก่อน แล้วค่อยกรรม ง่ายๆ แต่ก็ไม่เสมอไปหรอก

บางทีถามคำถามก็สลับกันไปมา เน้นโน้นเน้นนี่ งงไปหมด

เครื่องหมายวรรคตอนสำคัญมาก จุด คอมม่า ถ้าใช้ไม่ถูก ความหมายเปลี่ยนไปเลย แบบว่าพลิกเลยนะ เคยเจอมาแล้ว ส่งอีเมลผิดๆ เพราะจุดเดียว อายมาก

เลือกคำสำคัญด้วย เลือกไม่ดี คนอ่านก็งง ความหมายเพี้ยนหมด คิดแล้วเหนื่อย

ปีนี้เลยพยายามอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเยอะๆ ฝึกเขียนบ่อยๆ หวังว่าจะดีขึ้น

• โครงสร้างพื้นฐาน: Subject-Verb-Object (SVO)
• ข้อยกเว้น: ประโยคคำถาม, ประโยคที่เน้นความหมาย
• เครื่องหมายวรรคตอน: สำคัญต่อความหมาย
• การเลือกคำ: ส่งผลต่อความชัดเจน
• การฝึกฝน: อ่านและเขียนบ่อยๆ เพื่อพัฒนา

เรียนแกรมม่าภาษาอังกฤษคืออะไร

เรียนแกรมม่าภาษาอังกฤษ? อืม…เหมือนเรียนวิชาหมอผีเลย! ต้องสะกดคาถา (ไวยากรณ์) ให้ถูกต้องเป๊ะ ไม่งั้น ผี (ความหมายผิด) จะเข้าสิงประโยคคุณซะ!

• ความยากระดับเทพ: ยิ่งเรียนสูงขึ้น ยิ่งเจอไวยากรณ์เทพๆ พวก conditional clauses, subjunctive moods มาเยือน เหมือนขึ้นไปสู้กับบอสในเกมส์ ยากเย็นเข็ญใจ แต่ก็มันส์ใช่ย่อย! (ปีนี้เจอ Passive voice หนักหน่วงมาก เพื่อนผมหลายคนถึงกับถอดใจ!)

• จำเป็นต้องท่องจำ? ไม่เชิง! เหมือนเรียนศิลปะการต่อสู้ ต้องฝึกฝน ซ้ำๆ จนเป็นสัญชาตญาณ แต่เข้าใจหลักการ จะใช้ได้คล่องกว่าท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองเยอะ! (แต่บางส่วนก็ต้องท่องนะ เถียงไม่ได้!)

• กุญแจสำคัญคือความเข้าใจ: ถ้าแค่ท่องจำ ก็เหมือนหุ่นยนต์พูดได้ แต่ไม่มีความคิด ต้องเข้าใจหลักการ ถึงจะใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบบว่าสื่อสารได้ฉลุย ไม่งง ไม่ง่อย!

ข้อมูลเพิ่มเติม (2024): ปัจจุบันมีแหล่งเรียนรู้เยอะมาก ทั้งแอป, เว็บไซต์, YouTube เลือกให้เหมาะกับตัวเอง อย่าเครียดมาก ใจเย็นๆ ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เหมือนเรียนเปียโน เล่นไปเรื่อยๆ ก็เก่งเองแหละ! สำคัญที่สุดคือ “ความสม่ำเสมอ” อย่าปล่อยให้ฝุ่นจับ!

Adjective มีหลักการใช้อย่างไร

เอ้า! จะมาถามเรื่อง Adjective กันเหรอเนี่ย! ง่ายนิดเดียว! อย่าไปคิดมาก เดี๋ยวหัวแตก!

• วางหน้าคำนามเนี่ยแหละ! เหมือนวางไข่หน้าเตาเลย เป๊ะๆ! เช่น “แมวสีดำ” ดำนี่คือ Adjective ดำปี๋เลย! ไม่ได้แค่ดำธรรมดา! อย่างประโยค “ช้างเผือกตัวนั้นใหญ่โตมโหฬาร” “ใหญ่โตมโหฬาร” ก็ Adjective โอ้โห! ใหญ่สะใจจริงๆ!

• ตามหลัง Verb to be ก็ได้! นี่มันง่ายกว่าหาผัวอีก! เช่น “ฉันหิวโหย” “หิวโหย” นี่คือ Adjective หิวจนแทบจะกินตัวเองแล้ว! หรือ “เขาเหนื่อยล้า” เหนื่อยจนอยากนอนกลิ้งบนพื้นเลย!

• ตามหลัง Linking Verb ด้วย! นี่มันง่ายยิ่งกว่าจับปลาในอ่าง! เช่น “เธอสวยสะพรั่ง” “สวยสะพรั่ง” คือ Adjective สวยจนต้องมีคนมาขอแต่งงานเลยละ! หรือ “เขาดูเศร้าสร้อย” เศร้าจนอยากร้องไห้ให้ฟ้าดินฟัง!

เพิ่มเติมนิดหน่อยนะจ๊ะ ปีนี้ที่ผมเจอ คนใช้ Adjective กันเยอะมาก ถึงกับต้องมีการจัดประกวด “Adjective ประจำปี” เลยนะ แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะผมชอบใช้คำว่า “โคตร” มากกว่า อิอิ! ขำๆนะ อย่าซีเรียส!

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2024):

• การใช้ Adjective ในภาษาอังกฤษสมัยใหม่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในภาษาพูด อาจมีการใช้ Adjective ที่ไม่ค่อยถูกต้องตามหลักไวยากรณ์แบบเดิมๆก็ได้ ขึ้นอยู่กับบริบทและวัฒนธรรม แต่โดยหลักๆแล้ว ก็ยังคงหลักการเดิมๆที่กล่าวมาข้างต้นนี่แหละ แต่เพิ่มเติมความ “เป๊ะเวอร์” และ “แซ่บเวอร์” เข้าไปอีกหน่อย ฮ่าๆๆ!

Adjective ที่ลงท้ายด้วย ed และ ING ต่างกันอย่างไร

เงียบจังเลยนะ คืนนี้… นึกถึงเรื่องคำคุณศัพท์ -ed กับ -ing ขึ้นมาได้ มันต่างกันยังไงนะ… อืมมม…

รู้สึกเหมือน -ed มันบอกความรู้สึกของเรานะ แบบ bored เบื่อ ก็คือตัวเราที่รู้สึกเบื่อ หรือ tired เหนื่อย เราก็คือคนที่รู้สึกเหนื่อยเอง…

ส่วน -ing เหมือนมันบอกว่าสิ่งนั้นเป็นยังไงนะ boring น่าเบื่อ หนังเรื่องนี้น่าเบื่อ หนังมันน่าเบื่อไม่ใช่เรา หรือ tiring เหนื่อย งานนี้น่าเหนื่อย งานมันน่าเหนื่อยไม่ใช่เรา…

คิดๆ ดูก็เหมือนจะเข้าใจอยู่นะ แต่บางทีก็ยังงงๆ เหมือนกัน

• -ed คือความรู้สึกของเราที่มีต่อสิ่งนั้นๆ เช่น ฉันรู้สึกเบื่อ (I am bored)
• -ing คือคุณสมบัติของสิ่งนั้นๆ ที่ทำให้เรารู้สึก เช่น หนังเรื่องนี้น่าเบื่อ (This movie is boring)
• ปีนี้ฉันพยายามฝึกแยกแยะโดยการเขียนบันทึกทุกวัน เขียนถึงความรู้สึกตัวเองกับสิ่งรอบตัว บางทีก็เอาข่าวมาอ่านแล้วลองวิเคราะห์ดูว่าคำไหนควรใช้ -ed คำไหนควรใช้ -ing มันก็พอช่วยได้นะ
• เมื่อวานดูสารคดีเกี่ยวกับสัตว์ เห็นงูเหลือมรัดกวาง รู้สึกเศร้า (sad) กับภาพที่เห็น แต่สารคดีเรื่องนี้ก็น่าสนใจ (interesting) มาก แบบนี้หรือเปล่านะ…
• บางทีลองนึกถึงตัวเองเป็นศูนย์กลาง ถ้าความรู้สึกอยู่ที่เรา ก็ใช้ -ed ถ้าความรู้สึกมาจากสิ่งของ เหตุการณ์ หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่ตัวเรา ก็ใช้ -ing มั้ง
• พยายามอยู่ สักวันคงเข้าใจแบบไม่ต้องคิดมาก