แป้งข้าวโพด กับแป้ง อเนกประสงค์ต่างกันยังไง
แป้งข้าวโพด: จากข้าวโพด บดละเอียด สีเหลืองอ่อน ซึมน้ำดี เหมาะทำซอส ขนมบางชนิด เน้นความข้นและนุ่ม
แป้งอเนกประสงค์: จากข้าวสาลี บดละเอียด สีขาว มีกลูเตนสูง ใช้ทำขนมอบหลากหลาย เช่น เค้ก คุกกี้ ขนมปัง ให้เนื้อสัมผัสที่เหนียวและฟู
สรุป: ต่างกันที่วัตถุดิบ คุณสมบัติ และการใช้งาน แป้งข้าวโพดเน้นความข้นและนุ่ม แป้งอเนกประสงค์เน้นโครงสร้างและความฟูของขนมอบ
แป้งข้าวโพด vs แป้งอเนกประสงค์: ต่างกันอย่างไร? ใช้ทำอะไรบ้าง?
อืมม… แป้งข้าวโพดกับแป้งอเนกประสงค์เนี่ยนะ จำได้ตอนทำขนมเค้กกล้วยหอมเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ใช้แป้งอเนกประสงค์ยี่ห้อทองก้อน กระสอบละ 250 บาท นุ่มฟูดีมาก แต่ถ้าจะทำซอส อย่างซอสที่ใช้กับผัดไทยอะ เพื่อนบอกว่าแป้งข้าวโพดจะดีกว่า มันช่วยให้ข้นได้เนียนกว่า สีก็ต่างกันนะ แป้งอเนกประสงค์ขาว แป้งข้าวโพดออกเหลืองอ่อนๆ เหมือนสีของข้าวโพดต้มเลย
ตอนนั้นลองใช้แป้งมันสำปะหลังแทนแป้งข้าวโพดทำซอส รสชาติแปลกๆไปเลย ไม่เหมือนซอสที่เคยกิน เลยต้องวิ่งไปซื้อแป้งข้าวโพดใหม่ แพงกว่าแป้งอเนกประสงค์ด้วย ซองละ 30 บาทมั้ง จำราคาไม่ค่อยได้ แต่ที่แน่ๆ แป้งอเนกประสงค์เนี่ย ใช้ทำขนมอบได้สารพัด เค้ก คุกกี้ ขนมปัง อะไรก็ได้ แต่แป้งข้าวโพด ส่วนใหญ่ใช้ทำซอสกับพวกที่ต้องการความข้นเนียน แบบไม่ให้หนักเกินไปอะ
สรุปง่ายๆเลยนะ แป้งอเนกประสงค์ สำหรับขนมอบ แป้งข้าวโพดสำหรับซอส และพวกที่ต้องการความข้นนุ่ม ใช้ผิดแบบ รสชาติก็เปลี่ยนไปเลย ลองดูนะ แล้วจะรู้ว่าต่างกันยังไง
เส้นเกี้ยมอี๋ ใช้แป้งอะไร?
แป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันสำปะหลัง แค่นั้นแหละ จบ
- ปีนี้ใช้สูตรนี้ทำขายดีกว่าปีก่อนเยอะ
- ส่วนผสมอื่นๆ ไม่สำคัญเท่าสองตัวนี้
- ลองเองแล้วจะรู้
เกี๊ยมอี๋ทำจากแป้งอะไร?
เกี๊ยมอี๋ ทำจากแป้งข้าวเจ้า
- แป้งข้าวเจ้า: ส่วนประกอบหลัก ให้ความเหนียว
- รูปทรง: ยาวรี หัวแหลม คล้ายลออช่อง
ที่มาคำว่า “เกี๊ยมอี๋”: จากภาษาจีนแต้จิ๋ว “เจียมอี๊” เจียม=แหลม อี๊=ลูกกลมๆ
เพิ่มเติม: ปีนี้ (2566) ยังคงนิยมใช้แป้งข้าวเจ้าเป็นหลักในการทำเกี๊ยมอี๋ แต่บางสูตรอาจมีส่วนผสมอื่นเพิ่มเติมเพื่อปรับเปลี่ยนรสชาติหรือเนื้อสัมผัส เช่น แป้งมันสำปะหลัง แต่แป้งข้าวเจ้ายังคงเป็นพื้นฐานสำคัญ
เส้นใหญ่ สด เก็บได้นานแค่ไหน?
เส้นใหญ่สดเก็บได้นานแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยทั่วไปแล้วไม่ควรเกิน 2 วัน หลังจากนั้นอาจเริ่มมีเชื้อราหรือบูดเสียได้ สังเกตง่ายๆ คือจะมีกลิ่นเปรี้ยวหรือมีเชื้อราขึ้น
-
อุณหภูมิแวดล้อม: อุณหภูมิห้องที่สูงกว่า 25 องศาเซลเซียสจะทำให้เส้นก๋วยเตี๋ยวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การแช่เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียสจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้บ้าง แต่ก็ไม่เกิน 3-4 วัน ผมเคยลองเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา อยู่ได้ 3 วัน แต่เริ่มเหนียว วันที่ 4 เริ่มมีกลิ่น
-
วิธีการเก็บรักษา: การห่อหุ้มอย่างมิดชิด เช่นใส่ภาชนะปิดฝาหรือถุงพลาสติกที่ปิดสนิท จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพได้ดีกว่าการวางทิ้งไว้แบบเปิดโล่ง เคยลองเก็บแบบปิดฝา ได้นานขึ้นจริง แต่ยังไม่เกิน 4 วัน
-
คุณภาพเส้นก๋วยเตี๋ยว: เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพดีและกรรมวิธีการผลิตที่สะอาดจะเก็บได้นานกว่า แต่ปัจจัยนี้ยากจะประเมิน ต้องอาศัยประสบการณ์ตรง
ถ้ามีกลิ่นเปรี้ยวแต่ยังดูดีอยู่ ระวังไว้ก่อน อาจมีการเติมสารกันบูด แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรเสี่ยง ความปลอดภัยสำคัญที่สุด นี่เป็นความเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์การทำอาหารของผมเองนะ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ การจะรับประทานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน
เพิ่มเติม: สำหรับเส้นก๋วยเตี๋ยวแห้ง โดยปกติจะเก็บได้นานกว่าเส้นสด แต่ควรเก็บในที่แห้งและอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันความชื้นและแมลง
เส้นก๋วยเตี๋ยวเก็บยังไง?
เส้นก๋วยเตี๋ยวนี่มันดราม่ากว่าละครหลังข่าวอีกนะ! เก็บไม่ดี ชีวิตเปลี่ยน!
- แบ่งซอย ย่อย: ซอยเส้นใหญ่เป็นกองๆ เหมือนแบ่งมรดกให้ลูกๆ แต่ละคน แล้วจับใส่ถุงซิปล็อคให้หมด จะได้ไม่ตีกัน
- แช่เย็นเจี๊ยบ: หาคอนโดให้เส้นใหญ่ซะหน่อย… ตู้เย็นไง! เก็บในกล่องทัปเปอร์แวร์อีกชั้น ป้องกันกลิ่นคาวจากปลาร้าข้างบ้าน (ถ้ามีนะ)
- วอร์มเครื่องก่อน: ก่อนผัด อย่าใจร้อน เอาเข้าไมโครเวฟแป๊บนึง ให้เส้นคลายตัว เหมือนนักมวยวอร์มก่อนขึ้นชก
เคล็ดลับนางร้าย: ถ้าเส้นมันเยอะจริง จ้างคนช่วยกิน (ฮา)
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้ลึก):
- เส้นเล็กเส้นหมี่: สูตรเดียวกันเลยจ้า แต่เส้นเล็กอาจจะเสียง่ายกว่าเส้นใหญ่ เพราะบอบบางกว่า
- เส้นสด vs เส้นแห้ง: เส้นสดต้องรีบกิน รีบเก็บ เส้นแห้งทนทานกว่า แต่ต้องแช่น้ำก่อนนะ
- อย่าเก็บนาน: ถึงจะเก็บดีแค่ไหน ก็อย่าเก็บนานเกินไป กินๆ ไปเถอะ อย่าเสียดาย! (ยกเว้นแต่ว่าเรากำลังจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 นะ)
คำเตือน: อย่าเชื่อทุกอย่างที่ฉันพูด ฉันไม่ใช่กูรูเส้นก๋วยเตี๋ยว แค่คนชอบกิน!
น้ําซุปก๋วยเตี๋ยวเก็บไว้ได้นานแค่ไหน?
น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงรสแล้ว เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ 1-2 วัน แต่ถ้าแช่แข็ง เก็บได้นานเป็นเดือนๆ เลยนะ
-
เคล็ดลับ: ก่อนเก็บ ควรพักน้ำซุปให้เย็นสนิทก่อน ค่อยใส่ภาชนะปิดมิดชิด แล้วนำเข้าตู้เย็น
-
ทำไมต้องต้มก่อน: การต้มซ้ำก่อนแช่ จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจปนเปื้อน ลดโอกาสที่น้ำซุปจะเสีย
-
เรื่องรสชาติ: การแช่แข็งอาจทำให้รสชาติเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมยังโอเคอยู่ ตอนอุ่นก็ปรุงรสเพิ่มได้ตามชอบ
-
“ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะกินก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อย”: อันนี้เป็นคติประจำใจเราเอง น้ำซุปเลยต้องดีเสมอ!
-
ปริมาณที่เหมาะสม: แบ่งน้ำซุปเป็น Portion เล็กๆ ก่อนแช่แข็ง เวลาใช้จะได้ไม่ต้องละลายทั้งหมด ลดโอกาสที่น้ำซุปจะเสียรสชาติ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: ถ้าเป็นน้ำซุปที่ทำจากกระดูกสัตว์ การแช่แข็งจะยิ่งช่วยให้รสชาติเข้มข้นขึ้น เพราะไขมันและคอลลาเจนจะเซ็ตตัว กลายเป็นเจลาติน อร่อยไปอีกแบบนะ!
เก็บกับข้าวในตู้เย็นได้กี่วัน?
แดกให้หมดภายใน 3 วัน เสียก็ทิ้ง อย่าเสียดาย
- เนื้อสัตว์: 3 วัน กลิ่นเริ่มออก
- ผัก: ขึ้นอยู่กับชนิด บางอย่างวันเดียวก็เหี่ยว
- ของเหลือ: ถ้าทำใหม่ๆกินได้นานกว่า อย่ามักง่าย
- ความเย็น: ตู้เย็นมึงเย็นจริงไหม? สำคัญกว่าทุกอย่าง
- โภชนาการ: แช่เย็นนานๆ วิตามินก็หายไปบ้าง แต่ดีกว่าท้องเสีย
- แบคทีเรีย: ไม่เห็น ไม่ได้แปลว่าไม่มี อย่าประมาท
- กลิ่น: ดมก่อนแดก ถ้าแปลกๆ ก็ทิ้งไปเถอะ ชีวิตมึงมีค่ากว่า
- เสียดาย: เสียดายเงินดีกว่าเสียดายชีวิตไหม? คิดเอาเอง
อาหารปรุงสุกอยู่ในตู้เย็นได้กี่วัน?
4 วัน. มากสุด.
- รอเย็นก่อนเก็บ.
- แบ่งใส่กล่อง. ลดความเสี่ยง.
- อาหารเหลือ? วันเดียวพอ. เสี่ยงกว่า.
เพิ่มเติม:
- อุณหภูมิตู้เย็นสำคัญมาก ต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส ยืดอายุ.
- แบคทีเรีย: ตัวร้าย. ยิ่งอุ่น ยิ่งโต.
- กลิ่น: อย่าเชื่อจมูกเสมอไป. ดมแล้วไม่เสีย อาจเสียแล้วก็ได้.
- อาหารทะเล: ยิ่งต้องระวัง. เสียเร็วกว่าเพื่อน.
- ป้าบอก: “เสียดายของ” ไม่ใช่ข้ออ้าง. ท้องเสียหนักกว่า.
- ทิ้ง: ตัดใจบ้าง. เพื่อชีวิตที่ดีกว่า.
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต