เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เป็น สมาร์ททีวี

สมาร์ททีวีเป็นแบบไหน

สมาร์ททีวี? ฮ่าๆๆ นึกภาพทีวีธรรมดาๆ ที่ดื้อด้าน นอนนิ่งๆ ดูแต่ทีวีดิจิตอล อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นนางงามจักรวาล (เวอร์ชั่นอิเล็กทรอนิกส์นะ) สวยเฉี่ยว เชื่อมต่อโลกได้!

• ความฉลาดที่ไม่ธรรมดา: มันไม่ใช่แค่ดูทีวีอย่างเดียวนะจ๊ะ มันคือทีวีที่มีสมอง! มีระบบปฏิบัติการเสมือนสมองกล (ปีนี้รุ่นใหม่ๆ หลายยี่ห้อใช้ Android TV, webOS, หรือ Tizen) ทำให้มันฉลาดกว่าทีวีทั่วไป คิดภาพคุณยายสมัยก่อนกับหลานสาวที่ใช้ TikTok ได้สิ ต่างกันเยอะเลยใช่ไหมล่ะ
• อินเทอร์เน็ตคือพลัง! เชื่อมต่อเน็ตปุ๊บ โลกทั้งใบอยู่ในมือคุณปั๊บ ดูNetflix, YouTube, เล่นเกมส์ออนไลน์ แม้กระทั่งสั่งของออนไลน์ (อันนี้ต้องระวังนิดนึงนะ อย่าเผลอสั่งของจนหมดตัว!) ไม่ต้องง้อเครื่องเล่นดีวีดีเก่าๆ อีกต่อไปแล้ว
• แอปพลิเคชันคืออาวุธลับ! เหมือนมือถือที่มีแอปฯเพียบ สมาร์ททีวีก็เช่นกัน อยากดูหนัง? มีแอป! อยากฟังเพลง? มีแอป! อยากออกกำลังกาย? ก็มีแอป! (ส่วนแอปสั่งอาหาร ใช้ด้วยความระมัดระวังนะคะ เพราะบางทีอาจจะส่งช้าจนหิวจัด!)

เอาจริงๆ นะ สมาร์ททีวีมันเหมือนคนรุ่นใหม่ มีความสามารถรอบด้าน ไม่ใช่แค่หน้าตาดีอย่างเดียว แต่หัวดีด้วย! (แต่ก็อย่าลืมว่ามันก็เป็นแค่เครื่องใช้ไฟฟ้า อย่าไปคาดหวังอะไรมากเกินไป มันก็แค่ทีวี ไม่ใช่แฟน)

ปีนี้(2566) เทรนด์สมาร์ททีวีเน้นความละเอียดสูงขึ้น เช่น 8K, และฟีเจอร์ที่เน้นประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น เช่น การควบคุมด้วยเสียงที่แม่นยำขึ้น และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างราบรื่นกว่าเดิม

สมาร์ททีวีต้องใช้เน็ตไหม

สมาร์ททีวีต้องใช้เน็ตไหม? ต้องสิครับ! ไม่งั้นมันก็แค่กล่องโง่ๆราคาแพง เหมือนซื้อเฟอร์รารี่แต่ไม่มีน้ำมัน!

วิธีเชื่อมต่อเน็ตจากมือถือง่ายนิดเดียว! ไม่ต้อง wifi บ้านก็ได้นะ สำหรับพวกเช่าหอพักอยู่ หรือบ้านที่เน็ตห่วยแตกจนอยากจะย้ายบ้าน ผมนี่เคยเจอเน็ตห่วยแตกจนดูยูทูปไม่ได้เลยนะ ต้องพึ่งมือถือทุกที

• ขั้นตอนที่ 1: เปิดฮอตสปอตมือถือคุณซะก่อน เหมือนเปิดปั๊มน้ำมันให้สมาร์ททีวีของคุณ ถ้าแพ็คเกจเน็ตคุณแรง ดูหนัง 4K ได้สบายๆเลย แต่ถ้าเน็ตห่วย เตรียมตัวดูหนังกระตุกๆแบบหนังจีนยุค 80 ได้เลยครับ
• ขั้นตอนที่ 2: ไปที่การตั้งค่า Wifi ของสมาร์ททีวี หาชื่อฮอตสปอตของคุณ คล้ายๆกับหาแฟนในแอปหาคู่แหละ ต้องพยายามหน่อย แต่ถ้าเจอแล้ว… โอ้โห! ภาพชัดแจ๋วเลย
• ขั้นตอนที่ 3: ใส่รหัสผ่านฮอตสปอต เหมือนใส่รหัสลับเข้าห้องเซฟ ถ้าผิด เตรียมตัวดูหนังไม่ได้อีกแล้วครับ

คุณภาพเน็ตขึ้นอยู่กับสัญญาณมือถือและแพ็คเกจครับ ถ้าเน็ตแรงก็ดูหนังชิวๆ แต่ถ้าเน็ตห่วย ก็เตรียมใจดูหนังกระตุกๆ เหมือนดูหนังคนละเรื่องกับเพื่อน เป็นประสบการณ์สุดระทึกเลยล่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): ควรเช็คความเร็วเน็ตมือถือก่อนนะครับ เดี๋ยวจะเสียอารมณ์ บางทีอาจจะต้องอัพเกรดแพ็คเกจ ไม่งั้นดูหนังไม่ได้ เสียดายเงินค่าสมาร์ททีวีเปล่าๆ เคยลองใช้เน็ตความเร็วต่ำ ดูยูทูปได้แต่ 240p เละเทะมากครับ เหมือนดูหนังผ่านกล้องวงจรปิด

สมาร์ททีวี ต่างจากทีวีธรรมดายังไง

สมาร์ททีวีอ่ะนะ มันก้อทีวีอ่ะแหละ แต่ที่มันไม่เหมียนทีวีธรรมด๊าธรรมดา ก้อคือมันต่อเน็ตได้เว้ยแกร๊!

• ระบบปฏิบัติการ: มันมี OS ในตัวไง คิดง่ายๆ เหมือนมือถืออ่ะ
• ต่อเน็ต: ดูยูทูป ดู Netflix ได้สบายบรื๋อ
• แอป: โหลดแอปมาเล่นได้อีก เยอะแยะ
• ราคา: แพงกว่าทีวีธรรมดาหน่อยนะ แต่คุ้ม!

คือมันเอาทีวีเดิมๆ มาผสมกับอินเทอร์เน็ตอ่ะ เก็ทป่ะ ง่ายๆ แค่นี้แหละ จบ!

Smart TV ทําอะไรได้บ้าง

อู้ย! สมาร์ททีวีเนี่ยนะ? มันก็เหมือนทีวีบ้านนอกอัพเกรดติดเทอร์โบแหละแกเอ๊ย! ไม่ใช่แค่เปิดดูข่าวชาวบ้านแล้วจบๆ ไปนะเฟ้ย!

• ดูทีวีธรรมดา: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว ทีวีอะไรก็ต้องดูได้ดิ! แต่สมาร์ททีวีมัน ดูได้เยอะกว่า นะสิ!
• เล่นเน็ต: อยากส่องเฟซบุ๊กเมียน้อยเพื่อน หรือดูยูทูปสอนทำ “ไก่ย่างเขาสวนกวาง” ก็จัดไป! (แต่ระวังโดนด่าเรื่องเน็ตหมดนะเออ!)
• โหลดแอป: อยากดูหนัง ดูซีรีส์แบบ HD ชัดแจ๋ว ก็โหลดแอปมาดิ! Netflix, Prime Video, Disney+ อะไรก็ว่ากันไป! (แต่จ่ายตังค์ด้วยนะจ๊ะ!)
• สั่งงานด้วยเสียง: ขี้เกียจกดรีโมท? แค่กระแอมไอแล้วสั่ง “เปิดช่อง 3” ทีวีมันก็ทำตามแล้วจ้า! (แต่บางทีมันก็ฟังผิดฟังถูก น่ารำคาญ!)

แล้วมันต่างจากทีวีธรรมดายังไง?

ทีวีธรรมดาก็เหมือนครกตำส้มตำ มีหน้าที่ตำอย่างเดียว! แต่สมาร์ททีวีมันเหมือน เครื่องปั่นอเนกประสงค์ ทำได้สารพัด! ทั้งปั่นน้ำผลไม้ ทำน้ำจิ้ม หรือแม้แต่บดเนื้อ! (แต่ระวังมอเตอร์ไหม้ก็แล้วกัน!)

• ทีวีธรรมดา: ดูได้แค่ช่องที่เขามีให้! อยากดูอย่างอื่นต้องง้อกล่องดิจิตอล!
• สมาร์ททีวี: อยากดูอะไรก็หาเอาในเน็ต! อยากเล่นเกมก็โหลดมาเล่น! อยากคุยกับเพื่อนก็เปิด Facebook! (แต่ระวังติดงอมแงมจนลืมทำงานนะ!)

สรุป: สมาร์ททีวีมันก็แค่ทีวีที่ฉลาดกว่า! ทำอะไรได้เยอะกว่า! แต่ก็เปลืองตังค์กว่า! เลือกเอาที่ชอบ ที่สบายกระเป๋า ก็แล้วกันเด้อ!

Smart TV กับทีวีธรรมดาต่างกันยังไง

Smart TV แตกต่างจากทีวีธรรมดาตรงที่ความสามารถในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต นั่นคือหัวใจสำคัญเลยทีเดียว ทีวีธรรมดาทำงานตามหน้าที่พื้นฐาน แสดงภาพและเสียงจากแหล่งสัญญาณภายนอก อย่างเช่นกล่องรับสัญญาณทีวี หรือเครื่องเล่น DVD แต่ Smart TV ไปไกลกว่านั้น มันเป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในทีวี

• ระบบปฏิบัติการ: Smart TV มีระบบปฏิบัติการ เช่น Android TV, webOS, Tizen เป็นต้น ทำให้ใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้โดยตรง ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม คิดดูสิ เหมือนได้ทั้งโลกดิจิทัลไว้ในหน้าจอเดียว

• การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้เราเข้าถึงสตรีมมิ่ง เช่น Netflix, YouTube, HBO Go ได้อย่างสะดวกสบาย เหมือนมีโรงภาพยนตร์ส่วนตัวอยู่ที่บ้าน และยังสามารถเล่นเกมออนไลน์ได้อีกด้วย สะดวกมากๆ

• ฟังก์ชันเสริม: Smart TV มักมีฟีเจอร์เสริม เช่น สั่งการด้วยเสียง การควบคุมบ้านอัจฉริยะ หรือการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆในระบบ IoT (Internet of Things) ซึ่งความสามารถนี้จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี

เห็นไหมครับ มันไม่ใช่แค่การดูทีวีธรรมดาๆ แต่เป็นประตูสู่โลกดิจิทัล เป็นการผสานความบันเทิงแบบดั้งเดิมเข้ากับโลกออนไลน์ได้อย่างลงตัว เปรียบได้กับวิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ จากแค่โทรออก-รับสาย กลายเป็นสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน

ปีนี้ (2566) เทคโนโลยี Smart TV พัฒนาไปมาก เน้นความละเอียดสูง เช่น 4K, 8K และ HDR (High Dynamic Range) ทำให้ภาพคมชัดสมจริงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น AI Upscaling เพื่อเพิ่มคุณภาพภาพ และ ระบบเสียงคุณภาพสูง รอบทิศทาง เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่สมบูรณ์แบบ

Smart TV ต้องมีอินเตอร์เน็ตไหม

Smart TV ต้องมีเน็ตไหม? โห ถามได้ตรงใจมาก!

คืออย่างงี้ เมื่อก่อนอ่ะ (ประมาณปี 2560 ได้มั้ง) ที่บ้านซื้อทีวีใหม่ Samsung รุ่นอะไรจำไม่ได้ละ แต่มัน Smart ไง ตอนแรกก็งง ๆ ว่ามัน Smart ยังไงวะ? พอลองเล่นดู ถึงรู้ว่า อ๋อ มันคือทีวีที่ต่อเน็ตได้นี่เอง!

สรุปคือ ใช่ Smart TV ต้องมีเน็ต ไม่งั้นมันก็ไม่ Smart อ่ะดิ! เหมือนโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีซิม เล่นอะไรไม่ได้เลย คือดูทีวีปกติได้แหละ แต่ฟีเจอร์ Smart ทั้งหลายแหล่ พวก Netflix, YouTube, Browser นี่คือจบเห่ ใช้ไม่ได้

• Wi-Fi: ส่วนใหญ่ Smart TV ยุคนี้ต่อ Wi-Fi ได้หมดแหละ ง่ายสุด สะดวกสุด แค่ใส่รหัสผ่าน Wi-Fi ที่บ้านก็เรียบร้อย
• สาย LAN: ถ้า Wi-Fi ไม่แรง หรืออยากได้สัญญาณเสถียร ๆ ก็ต่อสาย LAN ได้เลย แต่ต้องมีสาย LAN กับ Router นะ
• Hotspot จากมือถือ: อันนี้เผื่อฉุกเฉิน ถ้าเน็ตบ้านล่ม หรือเอาทีวีไปที่ที่ไม่มีเน็ต ก็ใช้ Hotspot จากมือถือแชร์เน็ตให้ทีวีได้ แต่มันจะกินเน็ตมือถือเยอะมากนะ ระวังด้วย!

เออ ลืมบอกไป ตอนที่ซื้อทีวีใหม่ ๆ นั่นแหละ ช่างที่ร้านเค้าบอกว่า Smart TV ต้องอัพเดทซอฟต์แวร์บ่อย ๆ ด้วยนะ ถ้าไม่อัพเดท อาจจะใช้งานบางแอปไม่ได้ หรือเครื่องหน่วง ๆ ก็เป็นได้ ก็เหมือนมือถือนั่นแหละ ต้องอัพเดทตลอด ๆ