Python ถูกใช้งานในอุตสาหกรรมใด?
Python: ภาษาโปรแกรมอเนกประสงค์ ใช้งานแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น วิทยาศาสตร์ข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาเว็บ และระบบอัตโนมัติ ความยืดหยุ่นสูงเนื่องจากเป็นโอเพนซอร์ส โค้ดเปิดให้ทุกคนเข้าถึง แก้ไข และพัฒนาต่อยอดได้อย่างอิสระ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม จึงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง รองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนา เหมาะสำหรับทั้งโครงการขนาดเล็กและใหญ่ เป็นพื้นฐานสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมาย
Python ใช้ในอุตสาหกรรมอะไรบ้าง? งานด้านไหนใช้ Python?
อืมม… Python น่ะเหรอ? ตอนเรียนป.โทที่จุฬาฯ ปี 2562 เพื่อนๆ ในกลุ่มวิจัยใช้กันเยอะมากเลย พวกมันทำวิจัยเกี่ยวกับการประมวลผลภาพ ใช้ Python เขียนโปรแกรมประมวลผลข้อมูลจากกล้องจุลทรรศน์ จำได้ว่าตอนนั้นโปรเจคมันหนักมาก แทบไม่ได้นอนกันเลย แต่ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีนะ สวยงามมากด้วย
นอกจากนั้น พี่ที่ทำงานเก่า บริษัทพัฒนาเกม ที่ผมเคยไปฝึกงานช่วงปิดเทอม (ประมาณเดือนพฤษภาคม 2561) เขาก็ใช้ Python กันเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่ใช้เขียนสคริปต์ควบคุมเกม หรือทำ AI ในเกม ได้ยินมาว่า ทีมพัฒนาเกมมือถือหลายๆ เจ้า ก็ใช้ Python กัน พวกเกมแนว casual ง่ายๆ น่ะ
อีกอย่างที่รู้ คือวงการ Data Science นี่แหละ Python เป็นเหมือนพระเอกเลย ใช้ทำ Data analysis Machine learning Deep learning สารพัด ผมเองก็เคยลองหัดใช้เขียนโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลการขายของร้านกาแฟ (ร้านกาแฟแถวบ้านผมเอง เจ้าของร้านเป็นเพื่อนพี่ชาย) ใช้ library Pandas กับ Matplotlib ง่ายดี แต่ผมเขียนโค้ดไม่ค่อยเก่ง เลยไม่ได้ต่อยอดเท่าไหร่
ส่วนเรื่อง Open Source จริงอย่างที่บอกแหละ มันเลยมี community ใหญ่ มีคนช่วยพัฒนาตลอด มี library ให้ใช้เยอะแยะ ไม่ต้องเขียนเองทุกอย่าง สะดวกสุดๆ แต่บางทีก็หา library ที่ถูกใจยากเหมือนกันนะ มันมีเยอะมากจนเลือกไม่ถูก อิอิ
ทำไมเราต้องเรียนภาษาไพทอน
เรียนภาษาไพธอนน่ะเหรอ? โอ้โห ถามมาได้! เหมือนถามว่าทำไมต้องกินข้าวอ่ะแกร! ก็เพราะมัน “อร่อย” เอ่อ…ไม่ใช่! เพราะมัน “จำเป็น” ต่างหาก!
- อ่านง่าย เหมือนอ่านนิยายน้ำเน่าอ่ะแกร! ไม่ต้องมานั่งปวดหัวตีความโค้ดให้เสียเวลา
- เขียนโค้ดน้อย ประหยัดนิ้วไปอี๊ก! ใครจะอยากพิมพ์เยอะๆ ให้เมื่อยมือกันล่ะ!
- ทำงานไว เหมือนติดจรวด! (แต่ระวังจะพุ่งชนกำแพงนะจ๊ะ!)
ทำไมต้องเรียน?
ก็เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้วจ้ะ! ยุคนี้ใครไม่เป็นโปรแกรมเมอร์ก็เหมือนคนไม่มีบัตรประชาชน! (เว่อร์ไปมั้ย?) แต่เอาจริงๆ นะ บริษัทไหนๆ ก็อยากได้คนที่เขียนไพธอนได้ทั้งนั้นแหละ! เงินเดือนก็งาม งานก็ชิลล์ (มั้ง?)
ข้อดีที่แอบซ่อนอยู่ (แบบไม่ลับ!)
- โค้ดสั้น: เขียนน้อยแต่ได้มาก เหมือนกินมาม่าห่อเดียวอิ่มไปสามวัน! (แต่สารอาหารอาจจะไม่ครบนะ!)
- คนใช้เยอะ: เหมือนตลาดนัด! หาตัวช่วยง่าย มีคนให้ถามเพียบ! (แต่ระวังเจอคนตอบผิดๆ ถูกๆ นะ!)
- ฟรี: ของฟรีใครๆ ก็ชอบ! เหมือนกินบุฟเฟต์แล้วตักทุกอย่าง! (แต่อย่ากินจนอ้วกนะ!)
สรุป: เรียนไปเถอะ! ไม่เสียหลาย! อย่างน้อยก็ได้คุยกับเค้ารู้เรื่อง! ไม่ต้องมานั่งงงเวลาเค้าพูดถึง AI หรือ Machine Learning! (ถึงจะฟังไม่เข้าใจอยู่ดีก็เถอะ!)
ป.ล. อย่าเชื่อเรามาก! ไปลองเรียนดูเอง! ถ้าไม่ชอบก็ค่อยเลิก! ชีวิตมันสั้น! อย่าไปเสียเวลากับอะไรที่ไม่ใช่! (แต่ถ้าชอบแล้วรวย อย่าลืมแบ่งให้เราบ้างนะ!)
จุดเด่นของภาษาไพทอนคืออะไร
Python ดีตรงที่มันโคตรยืดหยุ่นอะ ใช้ทำไรก็ได้จริงๆ ง่ายด้วยแหละ เขียนโค้ดไม่ยาก ดูแลรักษาก็ไม่ลำบากเท่าไหร่
อีกอย่างคือมัน open source ฟรีด้วยนะ โหลดได้เลยที่ python.org ไม่ต้องเสียตังค์สักบาท
เอาจริงๆ มันใช้ได้กับหลายอย่างมากๆๆๆ เว็บไซต์ โค้ด แชทบอท Data Science Machine Learning อะไรแบบนี้ ฟังก์ชันเยอะแยะ มือใหม่ก็เริ่มได้สบาย
- ยืดหยุ่นสูง โค้ดได้หลายแบบ
- ใช้งานง่าย เขียนโค้ดไม่ยาก
- ฟรี Open source โหลดจาก python.org
- ใช้ทำอะไรได้เยอะมาก เว็บ AI Data อะไรก็ได้
- เหมาะกับมือใหม่สุดๆ
ปีนี้ฉันเองก็ใช้ Python เขียนโปรแกรมเล็กๆน้อยๆ ช่วยงานบริษัท ส่วนใหญ่จะเป็นพวก script อัตโนมัติ ประมวลผลข้อมูล อะไรแบบนี้ สะดวกดี ชอบมากเลย แต่ก็มีเรียนเพิ่มเติมนะ เพราะมันกว้างมาก ยังไม่เชี่ยวชาญเท่าไหร่ ยังต้องเรียนรู้เรื่อยๆอยู่
ภาษาไพทอนพัฒนามาจากภาษาอะไร
ราตรีนี้ดาวพร่างพราย… เหมือนความคิดที่กระจัดกระจาย…
- Python ถือกำเนิดจาก ABC… ใช่… ABC ที่แสนจะเรียบง่าย
- ปี 2543… Python 2.0 โอบอุ้ม List Comprehension เข้ามา… เหมือนฝันที่กลายเป็นจริง
- เหมือนสายลมที่พัดผ่านทุ่งหญ้า… Python ก็พัดพาความเปลี่ยนแปลงมาสู่โลกการเขียนโปรแกรม
เครื่องมือเขียนโปรแกรม… ดั่งแสงจันทร์ที่ส่องนำทางนักเดินทาง List Comprehension… เหมือนบทกวีที่สลักบนแผ่นหิน… งดงามและคงทน
- Python… ภาษาที่เกิดจากแรงบันดาลใจ… และความฝัน
-
- 0… เวอร์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
- List Comprehension… หัวใจสำคัญที่เต้นอยู่ใน Python 2.0
แสงจันทร์… ลม… ความฝัน… Python… ทั้งหมดนี้คือหนึ่งเดียวกัน
โครงสร้างภาษาไพทอนมีอะไรบ้าง
เฮ้อ… ถามเรื่องไพทอนอีกแล้วเหรอเนี่ย
เอาจริงๆ นะ ตอนนี้ตีสองกว่าแล้ว สมองมันก็เบลอๆ แต่จะพยายามตอบให้ตรงๆ นะ
- String: ข้อความไง เหมือนที่เราพิมพ์ๆ คุยกันอยู่นี่แหละ ตัวอักษรเรียงกันเป็นพรืด
- Numerical: ตัวเลข มีหลายแบบอีกนะ int คือเลขจำนวนเต็ม, float คือเลขทศนิยม
- Boolean: จริง (True) หรือ เท็จ (False) มีแค่นี้แหละ เอาไว้เช็คเงื่อนไข
- List: อันนี้เหมือนกล่อง เอาไว้ใส่ของหลายๆ อย่างเรียงกัน อยากได้อะไรก็หยิบจากในกล่องได้
- Tuple: คล้ายๆ List แต่เปลี่ยนของข้างในไม่ได้ ทำได้แค่ดู
- Dictionary: เหมือนสมุดโทรศัพท์ มีชื่อคน (key) กับเบอร์โทร (value) อยากรู้เบอร์ใครก็เปิดดูจากชื่อ
- Set: อันนี้เหมือนถุงใส่ของ แต่ของข้างในต้องไม่ซ้ำกัน แล้วก็ไม่ได้เรียงลำดับด้วย
ทำไมต้องมีเยอะแยะขนาดนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ… บางทีก็งงๆ ว่าควรจะใช้แบบไหนดี
ภาษา Python มีชนิดข้อมูลพื้นฐานอะไรบ้าง
Python เหรอ? ก็แค่พวกนี้แหละ:
- float: เศษส่วน ชีวิตจริงแม่งก็เป็นแบบนี้
- int: จำนวนเต็ม พวกโลกสวยชอบใช้กัน
- str: ข้อความ คำพูดคนก็แค่ลมปาก
- bool: จริง/เท็จ โลกนี้ไม่มีอะไรตรงไปตรงมาขนาดนั้นหรอก
- list: ลำดับ เก็บอะไรก็ได้ที่ขวางหูขวางตา
- dict: คู่ key/value เอาไว้แทงข้างหลังคนอื่น
พวก Data type แค่นี้แหละ อย่าเยอะ
เพิ่มเติม:
- Python 3.12 เพิ่งออกเมื่อตุลาคม 2023 ไปลองเล่นดู เผื่อชีวิตจะดีขึ้น
- String ใน Python เปลี่ยนแปลงไม่ได้นะ จำไว้ อย่าโง่
- Dictionary เร็วเพราะ Hash table แต่ก่อน Python 3.7 ไม่รับประกันลำดับ ตอนนี้รับประกันแล้วนะ update ด้วย
- อยากรู้ลึกกว่านี้? ไปอ่าน PEP (Python Enhancement Proposals) เอาเอง ขี้เกียจอธิบาย
คีย์เวิร์ดหลักในภาษาไพทอนมีอะไรบ้าง
โอ้โห คำถามนี้มันเบสิคไปหน่อยนะ สำหรับเทพโปรแกรมมิ่งอย่างฉัน แต่ก็ได้! เอาล่ะ มาดูกันว่า พวกคีย์เวิร์ดใน Python ปี 2024 นี่ มันมีอะไรเด็ดๆ บ้าง (แบบที่ไม่ต้องไปงม ScholarHat ก็รู้)
-
กลุ่ม True/False/None: นี่แหละ ตัวพ่อ ตัวแม่ คิดซะว่าเป็นเหล่าเซียนไพ่ ตัดสินชะตาชีวิตโปรแกรมคุณเลยล่ะ False คือแพ้ True คือชนะ ส่วน None น่ะเหรอ? เหมือนไพ่โจ๊กเกอร์ ไม่ใช่ True ไม่ใช่ False อิสระเสรีสุดๆ
-
กลุ่มควบคุมการไหล (Control Flow): พวก if, elif, else, for, while นี่แหละ ตัวควบคุมวงจรชีวิตโปรแกรม เปรียบเหมือนผู้กำกับภาพยนตร์ บงการให้โปรแกรมวิ่งไปตามบทที่เขียนไว้อย่างเป็นระเบียบ ถ้าไม่มีพวกนี้ โปรแกรมคงวิ่งมั่วซั่วเหมือนตลาดนัด
-
กลุ่มการจัดการข้อผิดพลาด (Exception Handling): try, except, finally เหล่านี้เป็นเหมือนทีมดับเพลิง คอยจัดการกับไฟไหม้ (Error) ในโปรแกรม ถ้าไม่มีพวกนี้ โปรแกรมดับแน่ เหมือนเครื่องบินตกกลางอากาศ
-
กลุ่มการสร้างฟังก์ชันและคลาส (Function & Class): def, class, lambda… นี่คือเหล่าสถาปนิกผู้สร้างโครงสร้างโปรแกรม ออกแบบให้โปรแกรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าไม่มีพวกนี้ โปรแกรมจะกลายเป็นกองผุยผง ไม่เหลืออะไรเลย
-
กลุ่มอื่นๆ (The Rest): and, or, not (ตรรกะ), import, from (นำเข้าโมดูล), global, nonlocal (ขอบเขตตัวแปร)… เหล่านี้เป็นเหมือนอุปกรณ์เสริม แต่สำคัญไม่แพ้กัน เหมือนเครื่องปรุงรส เพิ่มรสชาติให้โปรแกรมของคุณ
เพิ่มเติมนิดนึง: อย่าลืมว่า ปี 2024 เทคโนโลยีมันพัฒนาเร็วมาก บางทีอาจมีคีย์เวิร์ดใหม่ๆ หรือบางอันอาจโดนปรับปรุง แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละ ลองไปเสิร์ชในเว็บไซต์หลักของ Python ดูก็ได้ เผื่อเจออะไรเจ๋งๆ กว่าที่ฉันบอกไป (แหม… ฉันก็ไม่ได้เทพขนาดนั้นซะหน่อย)
ตัวแปรและชนิดข้อมูลคืออะไร
โอ้โห! ถามเรื่องตัวแปรกับชนิดข้อมูลนี่มันถามถูกคนแล้วล่ะ! ผมนี่เทพโค้ดดิ้งเลยนะ (แค่ล้อเล่นน้าาาา) เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
-
ตัวแปร (Variable): นึกภาพเป็นกล่องใส่ของสิครับ! จะใส่ขนม ใส่ตุ๊กตา หรือแม้แต่ใส่ความลับมืดๆ ของชาติ ก็แล้วแต่คุณเลย! แต่ในโปรแกรมมิ่ง มันคือกล่องเก็บข้อมูล เอาไว้ให้เราเรียกใช้ได้สะดวก ไม่ต้องจำตำแหน่งที่ซ่อนของทุกชิ้น จะได้ไม่ปวดหัว! อย่างเช่น ผมตั้งชื่อกล่องไว้ว่า
ชื่อแฟนเก่า
แล้วใส่เบอร์โทรศัพท์ลงไป (อย่าถามว่าทำไมยังเก็บไว้!) -
ชนิดข้อมูล (Data Type): นี่คือใบกำกับสินค้าในกล่อง! บอกว่าของข้างในเป็นอะไร อย่างเช่น กล่องนี้ใส่เลข 10 (integer), กล่องนี้ใส่ชื่อ “แมวเหมียว” (string), หรือกล่องนี้ใส่เลขทศนิยม 3.14 (float) ถ้าไม่ระบุ เดี๋ยวโปรแกรมก็งง คิดว่า “แมวเหมียว” เป็นเลข แล้วไปบวกเลขกับแมว มันก็จะ error เละตุ้มเป๊ะ!
-
ชนิดข้อมูลแบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ:
-
ชนิดข้อมูลพื้นฐาน (Primitive Types): คือพวกของพื้นๆ ง่ายๆ ที่โปรแกรมเข้าใจง่าย เช่น จำนวนเต็ม (integer), จำนวนทศนิยม (float), ตัวอักษร (char), ค่าความจริง (boolean) คิดง่ายๆ เหมือนของใน 7-11 หาซื้อได้ทั่วไป
-
ชนิดข้อมูลอ้างอิง (Reference Types): นี่ระดับโปรแล้ว! เป็นกลุ่มใหญ่ ซับซ้อน คิดซะว่าเป็นของที่ต้องสั่งทำพิเศษ เช่น array, list, object อะไรพวกนี้ มันอาจจะเก็บข้อมูลได้เยอะกว่า แต่ก็ต้องใช้ความเข้าใจมากกว่า เหมือนของจากช็อปแบรนด์เนม ราคาแพงกว่าแต่คุณภาพก็ดีกว่า
-
ปีนี้ (2566) เทรนด์การเขียนโปรแกรมยังคงเน้นความเร็วและประสิทธิภาพ ดังนั้นการเลือกชนิดข้อมูลให้เหมาะสมจึงสำคัญมาก ไม่งั้นโปรแกรมคุณจะวิ่งช้ากว่าเต่า แถมกินทรัพยากรคอมพิวเตอร์แบบไม่บันยะบันยัง! อย่าลืมเลือกให้ดีนะ ไม่งั้นจะเสียใจทีหลัง!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต