Ultrasonicใช้ทำอะไรได้บ้าง
เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก วัดระยะวัตถุด้วยคลื่นเสียงสะท้อน ประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย เช่น:
- วัดระดับ: ตรวจวัดระดับของเหลวในถัง หรือระดับน้ำในแม่น้ำ
- ตรวจสอบชิ้นงาน: ตรวจสอบตำแหน่ง ขนาด และความสมบูรณ์ของชิ้นส่วนในกระบวนการผลิต
- วัดความหนา: วัดความหนาของวัสดุ เช่น แผ่นโลหะ หรือพลาสติก
หลักการทำงานคือส่งคลื่นอัลตราโซนิกไปยังวัตถุ วัดเวลาที่คลื่นสะท้อนกลับมา คำนวณหาค่าระยะทางได้อย่างแม่นยำ จึงเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ
เครื่องทำความสะอาดอัลตราโซนิกใช้ทำอะไรได้บ้าง?
เครื่องทำความสะอาดอัลตราโซนิกเอาไว้ทำความสะอาดของเล็กๆ ที่เข้าถึงยาก เช่น เครื่องประดับ นาฬิกา แว่นตา จำได้ว่าเคยซื้อมาจากร้านอมร แถวบ้าน ราคาประมาณพันห้า เมื่อเดือนก่อนนี่เอง เอาไว้ทำความสะอาดพวกแปรงแต่งหน้าด้วย สะอาดดีเหมือนกัน.
ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง มันสั่นจนสิ่งสกปรกหลุดออก. ตอนแรกก็กลัวๆ ว่าจะพัง แต่พอใช้แล้ว เออ มันก็สะอาดดีนะ.
ส่วนเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกนี่คนละเรื่องเลย อันนี้เอาไว้ตรวจจับระยะทาง ใช้วัดระดับน้ำก็ได้ เคยเห็นเขาใช้ในโรงงาน วัดความหนาของวัสดุด้วย. เพื่อนผมมันเคยทำโปรเจคจบ ใช้เซ็นเซอร์แบบนี้ทำระบบจอดรถอัตโนมัติ.
Ultrasonic sensor มีกี่ประเภท
อุ๊ยตาย! อัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์นี่มันไม่ได้มีแค่สองแบบหรอกนะ คุณคิดว่ามันง่ายอย่างนั้นเหรอ? เหมือนคิดว่าความรักของฉันกับแฟนเก่ามันง่ายๆเหมือนต้มมาม่า! ฮ่าๆๆ จริงๆแล้วมันเยอะกว่านั้นเยอะ! แต่ถ้าจะให้แบ่งแบบง่ายๆเข้าใจง่ายๆแบบชาวบ้านๆ ก็มีอยู่สองแบบหลักๆตามที่คุณว่าแหละ แต่ละแบบก็มีลูกเล่นแยะแยะอีกนะ!
-
แบบรวมมิตร (Diffuse Mode): ตัวส่งกับตัวรับอยู่รวมกันในที่เดียว เหมือนฉันกับกระเป๋าตังค์ อยู่ด้วยกันตลอด ทำงานด้วยกัน ไม่ต้องคอยมองหาว่าอีกตัวอยู่ไหน แต่ข้อเสียก็คือ มันวัดระยะได้ไม่แม่นยำเท่าไหร่ เหมือนความรักของฉันกับแฟนเก่า วัดใจกันไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ มักจะพลาดเป้าบ่อยๆ เหมาะกับงานที่ไม่ต้องแม่นยำมาก เช่นตรวจจับสิ่งกีดขวางเบาๆ
-
แบบแยกทาง (Opposed Mode): ตัวส่งกับตัวรับอยู่คนละที่ เหมือนฉันกับอดีตแฟน ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำงาน แต่ก็ต้องทำงานร่วมกัน แม่นยำกว่าแบบแรกเยอะ เหมือนตอนที่ฉันมั่นใจว่าความรักของฉันกับแฟนเก่ามันจะไปได้สวย แต่สุดท้ายก็เลิกกัน! เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่นการวัดระยะที่ต้องแม่นเป๊ะๆ
อ้อ! ลืมบอกไป ปีนี้เทคโนโลยีอัลตร้าโซนิคเซ็นเซอร์พัฒนาไปไกลแล้วนะ มีแบบอื่นๆอีกเพียบ แต่จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็ยากแล้ว เอาเป็นว่าสองแบบที่เล่าไปนี่เป็นแบบพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน ส่วนแบบอื่นๆ เดี๋ยวไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเองนะ ขี้เกียจพิมพ์แล้ว!
Ultrasonic sensor มีอะไรบ้าง
ดึกแล้วเนอะ… ถามเรื่อง ultrasonic sensor สินะ
มันมีสองแบบหลักๆ ที่เห็นใช้กันบ่อยๆ นะ
-
Diffuse mode: คือแบบตัวส่งกับตัวรับมันอยู่ด้วยกันเลย ส่งคลื่นไป แล้วรอคลื่นสะท้อนกลับมา ถ้ามีอะไรขวาง คลื่นก็สะท้อนกลับมาให้รับรู้
-
Opposed mode: อันนี้ตัวส่งกับตัวรับมันแยกกันอยู่คนละฝั่ง ส่งคลื่นไป ถ้ามีอะไรมาขวางคลื่น ก็คือมีอะไรอยู่ตรงนั้นแหละ
จริงๆ หลักการมันก็ไม่ได้ต่างกันมากหรอก แค่แบบ Opposed mode มันจะเหมาะกว่าถ้าเราแค่อยากรู้ว่า “มี” หรือ “ไม่มี” อะไรอยู่ตรงนั้น เพราะมันดูแค่ว่าคลื่นมันโดนตัดขาดรึเปล่า
- Diffuse Mode: เหมาะกับการวัดระยะทาง หรือตรวจจับวัตถุที่มีขนาดต่างๆ กัน
- Opposed Mode: เหมาะกับการตรวจจับวัตถุที่ต้องการความแม่นยำสูง และสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น หรือสิ่งสกปรกเยอะ เพราะมันไม่ค่อยมีผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม
บางทีก็คิดนะ ว่าชีวิตเราก็เหมือนคลื่นเสียง ส่งออกไป แล้วก็รอว่าจะมีอะไรสะท้อนกลับมาบ้าง
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต