สิวแบบไหนไม่ควรแกะ

สิวแบบไหน…ห้ามเด็ดขาด! แกะแล้วเสี่ยงภัยกว่าที่คิด

สิว…ปัญหาโลกแตกที่ใครๆ ก็เคยประสบพบเจอ แม้บางครั้งจะอดใจไม่ไหวอยากจะบีบหรือแกะมันออกไปให้พ้นๆตา แต่รู้หรือไม่ว่า การกระทำเพียงเล็กน้อยนี้ อาจนำไปสู่ผลเสียร้ายแรงกว่าที่คิด เพราะไม่ใช่ทุกสิวที่จะสามารถแกะได้อย่างปลอดภัย วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงชนิดของสิวที่ควรหลีกเลี่ยงการแกะเด็ดขาด พร้อมเหตุผลที่คุณควรเก็บเล็บไว้ให้ห่างๆ

สิวอักเสบ (Inflammatory acne): สิวชนิดนี้มักมีลักษณะแดง บวม เจ็บ และอาจมีหนองอยู่ภายใน เช่น สิวหัวหนอง (pustule) และสิวหัวช้าง (nodule) การแกะสิวอักเสบจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงขึ้น แบคทีเรียแพร่กระจายไปยังบริเวณรอบๆ ทำให้สิวลุกลาม เกิดการติดเชื้อ และอาจทิ้งรอยแผลเป็นเป็นหลุมลึก รอยดำ หรือรอยแดงที่หายยาก ยิ่งกว่านั้น การแกะสิวยังอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นคีลอยด์ (Keloid scars) ซึ่งเป็นแผลเป็นนูนหนาได้อีกด้วย

สิวใต้ผิวหนัง (Blind pimples หรือ Subcutaneous acne): นี่คือศัตรูตัวฉกาจที่แฝงตัวอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง คุณจะเห็นเพียงแค่ตุ่มนูนแข็งๆ สีแดง หรือสีเนื้อ โดยไม่มีหัวสิวให้เห็น การพยายามบีบหรือแกะสิวชนิดนี้เป็นเรื่องยากยิ่ง เนื่องจากมันฝังลึกอยู่ใต้ผิวหนัง และการบีบจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น อาจนำไปสู่การติดเชื้อ และทิ้งรอยแผลเป็นที่ยากจะรักษาได้

สิวที่กำลังอักเสบและมีขนาดใหญ่: สิวที่มีขนาดใหญ่ บวมแดง และเจ็บมาก ไม่ควรแกะโดยเด็ดขาด เพราะการบีบอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็น รอยดำ หรือรอยแดงที่ยากจะจางหาย

แล้วเราควรทำอย่างไรกับสิวเหล่านี้?

ทางที่ดีที่สุดคือ ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ พวกเขามีความรู้และประสบการณ์ในการรักษาสิว สามารถประเมินสภาพผิวของคุณ และให้คำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม เช่น การใช้ยาทา ยาเม็ด หรือการรักษาด้วยเลเซอร์ เพื่อช่วยลดการอักเสบ กำจัดสิว และป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น

อย่าลืมว่า ความอดทนและความรู้เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวหน้า การเลือกวิธีรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณมีผิวหน้าที่สุขภาพดี ปราศจากสิว และรอยแผลเป็น ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าแกะสิวด้วยตัวเอง เพราะมันอาจจะทำให้ปัญหาของคุณแย่ลงมากกว่าเดิมเสียอีก