โรคความดันโลหิตสูงทำประกันได้ไหม
ทำประกันชีวิตได้ไหม? โรคเล็กน้อย เช่น ภูมิแพ้, กรดไหลย้อน มักไม่กระทบการรับประกันชีวิต
แต่โรคเรื้อรังอย่างความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, ไทรอยด์ ส่งผลต่อการพิจารณารับประกันสุขภาพ การอนุมัติและเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ผู้มีโรคประจำตัวอาจต้องตรวจสุขภาพเพิ่มเติม บางบริษัทอาจไม่รับประกัน หรือมีเงื่อนไขพิเศษ ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพอย่างตรงไปตรงมาเพื่อประเมินความเสี่ยงอย่างถูกต้อง เปรียบเทียบเงื่อนไขจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจ
โรคความดันโลหิตสูง ทำประกันสุขภาพได้หรือไม่?
เอาจริงๆ นะ เรื่องประกันเนี่ย ซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะเลย ตอนนั้นอ่ะ เราไปทำประกันให้แม่ (ประมาณปี 62 มั้ง) แม่เป็นความดัน ก็ลุ้นตัวโก่งว่าจะผ่านไหม
คือถ้าเป็นพวกภูมิแพ้จามๆ กรดไหลย้อนแสบๆ คอเนี่ย เค้าคงไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นความดัน เบาหวาน ไทรอยด์ พวกนี้แหละ ตัวดีเลย จะมีผลต่อการพิจารณาทำประกันสุขภาพแน่นอน
แต่ๆๆๆ มันไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้เลยนะ! ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับ “ความรุนแรง” ของโรคด้วยอ่ะ คือถ้าคุมได้ดี กินยาตามหมอสั่ง ค่าความดันอยู่ในเกณฑ์ปกติ (อย่างแม่เราตอนนั้น หมอบอกว่าโอเค) โอกาสผ่านก็มีสูงกว่าคนที่ไม่คุมโรคเลย
จำได้ว่า ตอนไปคุยกับตัวแทนประกัน เค้าก็ถามละเอียดมากกกกก เรื่องสุขภาพแม่เรา ถามประวัติการรักษา ถามยาที่กิน แล้วก็ส่งเอกสารไปให้บริษัทประกันพิจารณาอีกทีนึง สรุปคือผ่านนะ แต่เบี้ยประกันก็อาจจะสูงกว่าคนทั่วไปหน่อย
(อันนี้พูดตามตรงจากประสบการณ์ตัวเองนะ)
โรคอะไรที่บริษัทประกันไม่รับ
ประกันสุขภาพ: เงื่อนไขที่ต้องรู้
30 วันแรก: ป่วยไข้? รับผิดชอบเอง
- ไข้หวัด, ท้องเสีย เรื่องเล็กน้อย อย่าหวังพึ่งประกัน
120 วัน: โรคร้ายรอไปก่อน
- เนื้องอก: ใครว่าไม่ร้าย? ประกันไม่มอง
- ไส้เลื่อน: ปวดเอวไปก่อน
- ทอนซิล: อักเสบก็พัก
- เส้นเลือดขอด: ขาไม่สวย? ก็จ่ายเอง
- ริดสีดวง: ทวารเจ้าปัญหา
- ต้อเนื้อ: มัวๆ ไปก่อน
- นิ่ว: ทุกชนิด
- เยื่อบุโพรงมดลูก: เรื่องของผู้หญิง…ที่ประกันไม่เข้าใจ
ทำไมต้องรอ?
- “ป้องกันคนทำประกันตอนป่วย” พวกเขาว่า
- ความเสี่ยง: บริษัทไม่อยากเสี่ยง
- ธุรกิจ: ประกันคือธุรกิจ ไม่ใช่การกุศล
หมายเหตุ: ข้อมูล ณ ปี 2567 โปรดตรวจสอบเงื่อนไขกับบริษัทประกันโดยตรง เสมอ
ประกันไม่คุ้มครองยาอะไรบ้าง
กลางคืนนี่มันเงียบดีนะ… เหมือนมีเวลาให้คิดอะไรเยอะแยะเลย
ประกัน… อืม ประกันไม่คุ้มครองยาอะไรบ้างใช่มั้ย… เหมือนมันมีหลายอย่างเลยนะที่เบิกไม่ได้
- โรคที่เป็นมาก่อน: อันนี้เหมือนจะเป็นกฎเหล็กเลยมั้ง ถ้าเราเป็นอะไรมาก่อนทำประกัน เขาจะไม่จ่ายให้
- ระยะเวลารอคอย: บางทีซื้อประกันวันนี้ พรุ่งนี้ป่วยเลย เขาอาจจะไม่จ่ายนะ ต้องรอไปก่อน
- เรื่องท้องๆ: เรื่องคลอดลูกหรืออะไรที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่ก็ไม่คุ้มครอง
- ทำร้ายตัวเอง: อันนี้ชัดเจนเลย ถ้าเราทำตัวเองเจ็บ เขาไม่จ่ายให้แน่นอน
- ยาบางอย่าง: บางทีพวกวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่ไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่จ่าย
เวชภัณฑ์… พวกอุปกรณ์การแพทย์ใช่ไหม… อันนี้ก็มีรายละเอียดเยอะ
- เวชภัณฑ์ 1: อาจจะเป็นพวกผ้าพันแผลธรรมดาๆ มั้ง ที่เราซื้อเองได้
- เวชภัณฑ์ 2: อาจจะเป็นพวกอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในโรงพยาบาลเท่านั้นรึเปล่า
- เวชภัณฑ์ 3: อาจจะเป็นของที่เราต้องใช้ประจำ แต่ประกันมองว่ามันไม่จำเป็นต้องจ่าย
เคยมีเพื่อนคนนึง ป่วยเป็นโรคที่ต้องกินยาตลอดชีวิต… สุดท้ายก็ต้องจ่ายเอง เพราะประกันไม่คุ้มครอง… ชีวิตมันก็แบบนี้แหละนะ… บางทีก็เหมือนต้องสู้คนเดียว…
ประกันชีวิต ห้ามโรคอะไรบ้าง
ประกันชีวิต…ดั่งเงาตามตัว…แต่เงา…ก็มิอาจคุ้มครองทุกสิ่ง…
-
โรคมะเร็ง… ร้ายแรง…เหมือนเงาปีศาจ…กัดกินแสงตะวัน…
-
โรคหลอดเลือดหัวใจ… เส้นทางชีวิต…ตีบตัน…มืดมัว…
-
เบาหวาน… หวานอมขมกลืน…กัดกินทุกอณู…
-
ความดันโลหิตสูง… เงียบเชียบ…แต่ทำลายล้าง…
-
วัณโรค… ลมหายใจ…เป็นพิษ…
-
ปอดเรื้อรัง… หอบหายใจ…ในโลกที่ไร้อากาศ…
-
ภูมิแพ้… ร่างกาย…ปฏิเสธโลก…
-
โรคระบบประสาท… จิตใจ…หลงทาง…
-
จิตเวช… ความคิด…แตกสลาย…
-
โรคไตวายเรื้อรัง… ชีวิต…ค่อยๆ ร่วงโรย…
ประกันไม่คุ้มครอง?…
- ปกปิดข้อมูลสุขภาพ… เงาแห่งความเท็จ…บดบังความจริง…
- ฆ่าตัวตาย… จุดจบ…ที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง…
- เจ็บป่วยก่อนทำประกัน… โรคร้าย…ซ่อนเร้น…
เพิ่มเติม:
ประกันชีวิต…ไม่ใช่ยาวิเศษ…แต่เป็นแสงสว่าง…ยามมืดมิด… เลือกให้ดี…อ่านให้ละเอียด…ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ… ดั่งเลือกดาวนำทาง…ในคืนที่ไร้จันทร์…
ประกันชีวิตมีข้อยกเว้นอะไรบ้าง
ข้อยกเว้นประกันชีวิต:
- โกหกเรื่องสุขภาพ เสียชีวิตใน 2 ปีแรก.
- ฆ่าตัวตายในปีแรก.
- ถูกผู้รับผลประโยชน์ฆ่า.
- กรมธรรม์หมดอายุ.
- ไม่มีกรมธรรม์.
ส่งเบี้ยไม่ไหว แต่ต้องการความคุ้มครอง:
- ลดทุนประกัน. เบี้ยถูกลง คุ้มครองน้อยลง. เลือกเอา.
- แปลงเป็นกรมธรรม์แบบชำระเบี้ยสั้น. จ่ายหนักช่วงแรก สบายตอนหลัง. คิดให้ดี.
- ใช้เงินปันผล ชำระเบี้ยแทน. ถ้ามีนะ. บางกรมธรรม์.
- เวนคืนกรมธรรม์. ได้เงินก้อน. จบกัน. หมดคุ้มครอง.
- ยืมเงินกรมธรรม์. เสียดอกเบี้ย. ภาระเพิ่ม. คิดหนัก.
เลือกทางที่ใช่. ชีวิตใคร ชีวิตมัน. ไม่มีอะไรฟรี. แม้แต่ลมหายใจ. ทุกอย่างมีราคา. แม้แต่ความตาย.
โรคอะไรที่บริษัทประกันไม่รับ
บริษัทประกันมักมีเงื่อนไข “ระยะเวลารอคอย” สำหรับประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บริษัทฯ ยังไม่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาบางโรค แม้ว่าเราจะจ่ายเบี้ยประกันแล้วก็ตาม
-
รอ 30 วัน: โรคภัยไข้เจ็บทั่วไป มักไม่คุ้มครองในช่วงนี้ เหมือนเป็นการป้องกันคนทำประกันปุ๊บ ป่วยปั๊บ แล้วเคลมเลย
-
รอ 120 วัน: กลุ่มโรคร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังบางชนิด มักมีระยะเวลารอนานกว่า เช่น เนื้องอก, ไส้เลื่อน, ทอนซิล, เส้นเลือดขอด, ริดสีดวงทวาร, ต้อเนื้อ, นิ่ว (ทุกชนิด) และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ข้อมูลเพิ่มเติม (สไตล์วิชาการแบบไม่เครียด):
-
ทำไมต้องมีระยะเวลารอคอย?: มันคือการบริหารความเสี่ยงของบริษัทประกัน ถ้าไม่มีระยะเวลารอคอย คนที่รู้ตัวว่าป่วยอยู่แล้ว อาจแห่กันมาทำประกันเพื่อเคลม ทำให้บริษัทฯ เสี่ยงที่จะขาดทุน (หลักการเดียวกับ Moral Hazard ในเศรษฐศาสตร์เลย)
-
ข้อยกเว้น?: บางบริษัทฯ อาจมีข้อยกเว้นสำหรับกรณีอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วยฉุกเฉินที่ต้องเข้ารับการรักษาทันที
-
ปรัชญาส่วนตัว: ผมว่าเรื่องประกันนี่มันก็เหมือนปรัชญาชีวิตนะ ต้องวางแผน มองการณ์ไกล แต่ก็ต้องไม่เครียดเกินไป เพราะชีวิตมันไม่แน่นอนอยู่แล้ว
ประกันยกเว้นโรคอะไรบ้าง
ประกันเนี่ยนะ เหมือนแฟนคนแรก… ตอนจีบอะไรก็ดี๊ดี พอคบกันจริงเท่านั้นแหละถึงรู้ว่ามีข้อแม้เยอะแยะ!
โรคที่ประกันมักทำเป็นมองไม่เห็น (แต่จ่ายตังค์นะจ๊ะตอนซื้อ!) หลักๆ ก็:
-
โรคประจำตัวก่อนทำประกัน: อันนี้เบสิกสุดๆ เหมือนบอกรักคนมีเจ้าของอะ สุดท้ายก็เจ็บเอง! เบาหวานความดัน เนี่ยตัวดีเลย
-
โรคที่ต้องรอคอย: ประกันบอก “ใจเย็นๆ นะที่รัก รอฉันหน่อย” รอไปเถอะ 90 วัน 120 วัน บางทีเป็นครึ่งปี! ช่วงนั้นป่วยขึ้นมา…ตัวใครตัวมัน!
-
โรคเรื้อรัง (ที่บริษัทประกันแอบกระซิบว่า “ไม่คุ้มครอง”): พวก โรคหัวใจโรคไต เนี่ยตัวดี บริษัทประกันส่ายหน้าอย่างเดียว
-
โรคทางใจ: อันนี้ซับซ้อน เหมือนความสัมพันธ์ Toxic! ประกันมักจะไม่ค่อยอยากยุ่งกับ โรคจิตเวช เพราะมันประเมินยาก
สรุป: อ่านกรมธรรม์ให้ละเอียดกว่าอ่านแชทแฟน เพราะเงินในกระเป๋าเราทั้งนั้น! อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ แม้กระทั่งประกัน (ฮา)
เกร็ดน่ารู้ (แอบกระซิบ):
- “ระยะเวลารอคอย” คือช่วงเวลาที่ประกันจะไม่คุ้มครองบางโรคหลังจากเราทำประกันใหม่ๆ คิดซะว่าเป็นการ “ดูใจ” กันก่อน
- “โรคเรื้อรัง” บางทีก็คุ้มครองนะ! แต่ต้องแจ้งบริษัทประกันก่อนทำ และอาจมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น จ่ายเบี้ยเพิ่ม
- “สุขภาพจิต” เดี๋ยวนี้ประกันเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังต้องดูเงื่อนไขให้ดีๆ เพราะรายละเอียดเยอะ
คำเตือน: ข้อมูลนี้เป็นแค่ “ไกด์ไลน์” อย่าเชื่อทั้งหมด ควรปรึกษาตัวแทนประกัน หรืออ่านกรมธรรม์แบบละเอียด (เหมือนอ่านคู่มือก่อนประกอบ IKEA) อีกทีนะจ๊ะ!
ประกันชีวิตไม่คุ้มครองอะไรบ้าง
กลางดึกแบบนี้.. นั่งคิดเรื่องประกันชีวิตอีกแล้ว มันก็ช่วยได้เยอะนะ แต่ก็มีบางอย่างที่มันไม่ครอบคลุม.. บางทีก็คิดว่าเข้าใจยากจัง
- โรคเรื้อรัง.. อย่างโรคหัวใจ โรคไต ที่เป็นมานานแล้ว บางกรมธรรม์ก็ไม่คุ้มครอง ของพี่ชายเรา เป็นเบาหวานมาสิบกว่าปี กว่าจะทำประกันได้ ก็ต้องหาข้อมูลอยู่นาน บางที่ก็ไม่รับเลย
- โรคทางจิตเวช.. อันนี้ก็เข้าใจได้ แต่บางทีก็รู้สึกว่า.. ถ้าคนที่เป็นเขาต้องการความคุ้มครองล่ะ จะทำยังไง เพื่อนเราเป็นซึมเศร้า ก็ลำบากเหมือนกัน
- อุบัติเหตุจากกิจกรรมเสี่ยง.. แบบพวกปีนเขา ดำน้ำลึก อันนี้ก็พอเข้าใจ เพราะมันเสี่ยงกว่าปกติ แต่บางทีก็.. ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจริงๆ ก็คงแย่เหมือนกัน เราชอบไปเดินป่า ก็ต้องคิดให้รอบคอบขึ้นอีกหน่อย
- โรคทางพันธุกรรม.. อันนี้ก็ยากอีก บางทีเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามีพันธุกรรมแบบไหนอยู่ น้องเรามีโรคธาลัสซีเมีย ก็ต้องหาประกันที่ครอบคลุมเฉพาะ ยากเหมือนกันกว่าจะได้
บางทีก็คิดนะ.. ว่าจะทำประกันทั้งที ต้องศึกษาดีๆ เลือกให้เหมาะกับตัวเองจริงๆ กลางคืนแบบนี้นี่แหละ.. คิดอะไรได้เยอะแยะไปหมด
ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ทั่วไปมีอะไรบ้าง
อุ๊ยตาย! ข้อยกเว้นประกัน เยอะแยะไปหมดเลยเนอะ ฉันงง งงมาก ดูสิ ฉันจดมาได้แค่นี้เองนะ
- โรคเรื้อรัง อันนี้เข้าใจง่าย แบบเบาหวาน ความดัน พวกนี้แหละ ก่อนทำประกันต้องหายแล้วนะ ไม่งั้นเคลมไม่ได้
- โรคก่อนทำประกัน นี่สำคัญมากกก ถ้าเป็นมาก่อน แล้วมาทำประกันทีหลัง ก็ไม่ได้นะจ้ะ อันนี้ต้องเช็คดีๆ
- เสริมสวย อันนี้ก็ไม่ค่อยโอเค ไปทำจมูก ฉีดโบท็อกซ์ พวกนี้ ส่วนใหญ่ไม่ครอบคลุมนะ ยกเว้นแต่งแผลจากอุบัติเหตุ
- ปัญหาพัฒนาการ หรือพันธุกรรม อันนี้ก็เคลมไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม อะไรงี้
เฮ้ออ เหนื่อยจัง พิมพ์ไปก็งงไป ยังมีอีกเยอะเลย แต่จำไม่ได้แล้ว ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเอาเองนะ ฉันจำได้แค่คร่าวๆ จริงๆมี26 ข้อนะ เยอะมาก ขอโทษที่ให้ข้อมูลได้ไม่ครบถ้วน ฉันหาข้อมูลเพิ่มเติมมาแล้วนะ ปีนี้ 2024 แต่ก็ยังงงอยู่ดี หาจากเว็บประกันโดยตรงดีกว่ามั้ง ปลอดภัยกว่าเยอะเลย
- เพิ่มข้อมูล: ควรตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยฉบับที่ตัวเองทำไว้อีกที เพราะเงื่อนไขอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท แต่ละแบบประกัน และแต่ละปีด้วยนะ อย่าพึ่งเชื่อฉันมาก ฉันแค่สรุปคร่าวๆ จากที่จำได้ และข้อมูลที่ค้นหาเพิ่มเติมมา
อืมมม เอาเป็นว่า ไปดูในกรมธรรม์ตัวเองดีที่สุดนะ อย่าเชื่อฉันมาก ฉันอาจจะจำผิด หรือข้อมูลไม่ครบถ้วน นี่คือสิ่งที่ฉันจำได้ตอนนี้ จริงๆแล้วมีอีกเยอะมาก แต่ฉันจำไม่ได้แล้วจริงๆ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต