กินถั่วยังไงไม่ให้อ้วน

ถั่วลิสง กินวันละกี่เม็ด?

ถั่วลิสงวันละกี่เม็ด?

ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือราวๆ 20-25 เม็ด (ประมาณ 30 กรัม) นะครับ กินแค่นี้ก็พอได้ประโยชน์จากโปรตีน ไขมันดี วิตามิน แร่ธาตุ โดยไม่เกินงบแคลอรี่

• สารอาหาร: ถั่วลิสงมีทั้งโปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันดีต่อใจ (unhealthy fat ผมไม่ค่อยอินด้วยเท่าไหร่)
• แคลอรี่: อย่าลืมว่ามันก็มีแคลอรี่พอสมควร กินเพลินอาจมีจุก
• ข้อควรระวัง: ใครมีโรคไต หรือแพ้ถั่ว ต้องระวังเป็นพิเศษ ปรึกษาหมอดีสุด

เคยอ่านเจอว่าถั่วลิสงช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและเบาหวานได้นะ แต่ทุกอย่างต้องพอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป เหมือนปรัชญาชีวิตเลยครับ

เพิ่มเติม: ถั่วลิสงดิบมีสารอาหารมากกว่าแบบอบหรือทอด แต่ระวังเรื่องเชื้อราด้วยนะครับ เลือกแหล่งที่เชื่อถือได้ สำคัญสุดๆ

ถั่วควรกินมื้อไหน?

ขึ้นอยู่กับประเภทของถั่วและเป้าหมายในการบริโภคค่ะ ถ้ามองในมุมของโภชนาการ การกินถั่วขึ้นอยู่กับความต้องการพลังงานและสารอาหารในแต่ละมื้อ ไม่ใช่แค่เรื่องเวลาอย่างเดียว

• มื้อหลัก: ถั่วสามารถเป็นส่วนประกอบสำคัญในมื้ออาหารหลัก เช่น ใส่ในสลัด ต้มเป็นแกง หรือทำเป็นของทานเล่นร่วมกับข้าว อาหารประเภทนี้ให้พลังงานและสารอาหารครบถ้วน เหมาะกับช่วงเวลาที่ต้องการพลังงานสูง เช่น มื้อกลางวันหรือมื้อเย็น

• อาหารว่าง: ถั่วบางประเภท เช่น อัลมอนด์ วอลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (ทานพอประมาณนะ แคลอรี่สูงอยู่นะคะ) เหมาะที่จะกินเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ ช่วยเติมพลังงานและสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีนและไขมันดี ช่วยให้อิ่มนานและควบคุมน้ำหนักได้ดี แต่ก็ต้องระวังปริมาณแคลอรี่ด้วยนะคะ อย่างที่บอก อัลมอนด์กับพวกเม็ดต่างๆ แคลอรี่สูง

ประเด็นสำคัญ: การเลือกถั่วที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง เช่น ไม่เติมเกลือหรือน้ำตาล จะดีต่อสุขภาพมากกว่า เพราะช่วยลดปริมาณโซเดียมและน้ำตาลในร่างกาย ยิ่งถ้าเป็นถั่วอบ ยิ่งต้องเช็กส่วนผสมให้ดี เพราะบางทีอาจจะมีน้ำมันหรือสารปรุงแต่งอื่นๆปะปนมาด้วย

ข้อควรระวัง: แม้ว่าถั่วจะมีประโยชน์ แต่การบริโภคมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน เช่น ปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหาร เพราะฉะนั้นควรทานอย่างพอเหมาะ หาความสมดุลให้กับมื้ออาหารอื่นๆด้วยนะคะ นี่คือสิ่งที่ฉันคิดว่าสำคัญที่สุดในการบริโภคถั่ว นอกเหนือจากประโยชน์ทางโภชนาการ

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): การศึกษาวิจัยล่าสุดหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าการบริโภคถั่วอย่างสม่ำเสมอสัมพันธ์กับความเสี่ยงลดลงของโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเบาหวานชนิดที่ 2. แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริโภคถั่ว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว นี่สำคัญมากค่ะ

ถั่วลิสง กินทุกวันได้ไหม?

ถั่วลิสงเนี่ยนะ กินทุกวันได้ไหม? โอ๊ย ถามมาได้! ถ้าไม่กลัวเป็นไอ้เตี้ยล่ำก็กินไปเหอะ! คือถั่วลิสงมันก็มีดีของมันอยู่บ้างแหละ แต่กินเยอะไปก็ไม่ไหวนาจา

• เรื่องไม่อ้วน: อย่าไปเชื่อคนง่าย! ถั่วลิสงมันก็แค่ช่วยให้อิ่มนานขึ้นนิดหน่อย ไม่ใช่ยาวนานขนาดกินมื้อเดียวอยู่ได้ทั้งวัน ถ้ากินเยอะเกินเบอร์ แคลอรี่มันก็พุ่งปรี๊ดอยู่ดี! แล้วที่ว่า “ทานอาหารได้น้อยลง” เนี่ยนะ… คนจริงเค้ากินถั่วลิสงแล้วเจริญอาหารกันทั้งนั้นแหละ!

• ปริมาณที่แนะนำ: 30 กรัม? กำมือนึง? โอ๊ย! ใครจะไปชั่งตวงวัดขนาดนั้น! ก็กินๆ ไปเถอะ แต่อย่ากินเพลินจนลืมกินข้าวก็แล้วกัน! ไม่งั้นได้ผอมแห้งแรงน้อย กลายเป็นผีถั่วลิสงกันพอดี!

• ข้อควรระวัง: ระวังแพ้ก็แล้วกัน! เห็นมาเยอะแล้ว พวกกินถั่วลิสงแล้วปากบวม หน้าแดง ตัวลาย เป็นงิ้วไปเลย! แล้วก็อย่ากินแบบขึ้นรานะจ๊ะ เดี๋ยวได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาล

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบบ้านๆ):

• แหล่งซื้อ: ตลาดนัดก็มี ร้านของชำก็ขาย เซเว่นก็ยังมี! แต่ถ้าอยากได้แบบดีๆ หน่อย ก็ไปหาซื้อตามร้านขายของฝากก็ได้
• กินกับอะไรดี: โอ๊ย! กินเปล่าๆ มันก็อร่อยแล้ว! แต่ถ้าอยากให้มันเริ่ดๆ ก็เอาไปคั่วเกลือ กินกับเบียร์เย็นๆ นะ… สวรรค์!
• เรื่องจริงที่ (อาจจะ) ไม่จริง: เค้าว่ากันว่า กินถั่วลิสงเยอะๆ แล้วจะฉลาด… อันนี้ไม่รู้จริงป่าวนะ แต่ที่แน่ๆ คือกินแล้วมันส์ปากดี!

ถั่วลิสงห้ามกินกับอะไร?

ถั่วลิสงนี่นะ…อย่าไปกินกับฟักทองเด็ดขาด! นี่ไม่ใช่แค่คำแนะนำนะ แต่เป็นคำสั่งจากคุณหมอในใจฉันเลย! กินคู่กันเข้าไป ร่างกายคุณจะกลายเป็นสนามรบ ลำไส้บวมเป่ง อักเสบเป็นไฟ เหมือนโดนผีปอบเข้าสิง (โอ้โหเวอร์ไปไหมเนี่ย แต่ก็จริงนะ!)

• อันตรายระดับชาติ: ไม่ใช่แค่ท้องเสียธรรมดาๆ นะจ๊ะ นี่คือสงครามในกระเพาะอาหารของคุณเลยล่ะ!
• แสลงทางยา: เหมือนเอาไฟไปลนน้ำแข็ง มันไม่เข้ากันเลยจริงๆ ชาวบ้านเค้าว่ากันแบบนี้แหละ เชื่อเถอะ
• อย่าลองดี: ลองแล้วจะรู้ ฉันเคยลองแล้ว… (ล้อเล่นนะ แต่ก็อย่าลองดีจริงๆ)

จริงจังนะ อย่าหาทำ ข้อมูลจากเว็บ PPTV ปีนี้ยังยืนยันอยู่ (ฉันไม่ได้ไปหาข้อมูลเองนะ ไปหาข้อมูลเองก็เสี่ยงเกินไป)

หมายเหตุ: ข้อความข้างต้นมีการใช้คำพูดที่เกินจริงเพื่อสร้างอารมณ์ขัน โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม หากมีอาการผิดปกติหลังรับประทานอาหาร ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที