เด็กทารถต้องตรวจอะไรบ้าง
ตรวจเด็กแรกเกิด-7วัน: ประเมินตัวเหลือง, เจาะเลือด (ไทรอยด์), ตรวจการได้ยิน, วัคซีน วัณโรค/ตับอักเสบบี
ตรวจเด็กไม่เกิน 6 เดือน: ติดตามการเจริญเติบโต, พัฒนาการ, วัคซีนตามวัย
ตรวจรถเข็นเด็กอย่างไรให้ปลอดภัย?
ตรวจรถเข็นเด็กยังไงให้ปลอดภัย?
เอ้อ…เรื่องรถเข็นเด็กเนี่ย, คือตอนลูกคนแรกเกิดใหม่ๆนะ (เมื่อ 7 ปีก่อน ที่เชียงใหม่) เราก็เห่อซื้อรถเข็นแบบจัดเต็มเลย. แต่พอใช้จริง, โอ้โห! อันตรายกว่าที่คิดเยอะ. เช็คดีๆเลยนะ, ล็อคล้อต้องแน่น, เข็มขัดรัดตัวต้องกระชับพอดี, ไม่หลวมโพรก.
แล้วก็…ไอ้พวกผ้าคลุมกันแดดเนี่ย, ดูดีๆว่ามันระบายอากาศดีไหม, เพราะเคยเกือบทำลูกเราขาดอากาศหายใจมาแล้ว. สยองเลย!
วัยทารกแรกเกิดถึง 7 วัน ต้องตรวจอะไรบ้าง?
- ประเมินภาวะตัวเหลือง
- เจาะเลือดตรวจคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
- ตรวจการได้ยิน
- ให้วัคซีนป้องกันวัณโรค
- ให้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
วัยทารกไม่เกิน 6 เดือน ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ?
- ติดตามการเจริญเติบโต
- เสริมสร้างพัฒนาการ
- ให้วัคซีนตามวัย
จำได้ว่าตอนลูก 2 เดือน, หมอนัดฉีดวัคซีนหลายเข็มมาก. สงสารลูกร้องไห้จ้าเลย. แต่ก็ต้องทำอะนะ, เพื่อสุขภาพที่ดีของเค้า.
ทารกแรกเกิด ต้องตรวจ อะไรบ้าง
ทารกแรกเกิด 7 วันแรก ควรตรวจอะไรบ้าง? การตรวจคัดกรองในช่วงนี้สำคัญมาก เพราะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต
-
การประเมินภาวะตัวเหลือง (Jaundice): ตรวจระดับ Bilirubin ในเลือด ระดับสูงเกินไปอาจบ่งชี้ปัญหาเกี่ยวกับตับ นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก ตัวเหลืองรุนแรงอาจส่งผลเสียต่อสมองได้ คุณหมอจะประเมินระดับความรุนแรงและวิธีการรักษาที่เหมาะสม
-
การตรวจคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Congenital Hypothyroidism): ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด ภาวะนี้หากไม่รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและร่างกาย
-
การตรวจการได้ยิน (Hearing Screening): ตรวจหาความผิดปกติของการได้ยิน การตรวจพบเร็วช่วยให้เริ่มการบำบัดและการช่วยเหลือได้ทันท่วงที นี่สำคัญมาก เพราะการได้ยินมีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาและการเรียนรู้ ลูกสาวเพื่อนผมก็ตรวจพบภาวะนี้ตอนแรกเกิด และได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที
-
การให้วัคซีน: สำคัญมาก ช่วยป้องกันโรคร้ายแรง วัคซีนที่มักให้ในช่วงนี้ ได้แก่ วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) และวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับตารางการให้วัคซีนที่เหมาะสม เพราะความรู้ทางการแพทย์เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราต้องอัพเดตอยู่ตลอด
เพิ่มเติม: การตรวจสุขภาพอื่นๆ ที่อาจทำเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับประวัติครอบครัวและสภาวะสุขภาพของมารดา เช่น การตรวจหาโรคพันธุกรรมบางชนิด การตรวจเลือดทั่วไป และการตรวจปัสสาวะ
อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับลูกน้อยของคุณ การดูแลเด็กแรกเกิดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะสุขภาพลูกน้อยคือความสำคัญสูงสุดของครอบครัว เราต้องใส่ใจรายละเอียด เพราะนี่เป็นรากฐานสำคัญสำหรับอนาคตของเขา
อาการแบบไหนควรพาทารกไปหาหมอ
โอ๊ย! อาการแบบไหนที่ต้องหามลูกไปหาหมอเนี่ยนะ? เหมือนถามว่าเมื่อไหร่ต้องวิ่งหนีไฟไหม้เลยนะนั่น! แต่เอาเหอะ จะสาธยายให้ฟังแบบบ้านๆ สไตล์ “หมอชาวบ้าน” เอง
-
ไข้สูงปรื๊ดไม่ลด: ถ้าไข้ขึ้นสูงเหมือนราคาทองคำ แล้วเช็ดตัวยังไงก็ไม่ลงเนี่ย…รีบไปหาหมอด่วน! อย่ามัวแต่ซื้อยาลดไข้เอง เดี๋ยวจะกลายเป็น “ผีปอบ” แทน!
-
ชัก: ถ้าลูกชักกระตุกเหมือน “ปลาโดนทุบหัว” นั่นน่ะเรื่องใหญ่แล้ว! รีบพาไปโรงพยาบาลเลย! อย่ารอให้ชักจน “บ้านแตกสาแหรกขาด”
-
อ้วกไม่หยุด/ท้องเสีย: ถ้าอ้วกพุ่ง ท้องเสียเป็นน้ำเหมือน “เขื่อนแตก” ไม่หยุดหย่อนเนี่ย…ระวังลูกจะขาดน้ำตาย! รีบไปเติมน้ำเกลือที่โรงพยาบาลด่วน!
-
ไข้ลากยาว: ไข้ขึ้นๆ ลงๆ เป็นอาทิตย์เหมือน “ละครน้ำเน่า” ไม่จบไม่สิ้นเนี่ย…อย่าคิดว่า “เดี๋ยวก็หาย” รีบไปตรวจให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!
-
ปวดหัวหนัก: ถ้าลูกร้องไห้โวยวายว่าปวดหัวเหมือน “หัวจะระเบิด” นั่นน่ะ…ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว! รีบไปให้หมอเช็คด่วน!
-
หายใจหอบ: ถ้าลูกหายใจหอบเหมือน “หมาเหนื่อย” หลังวิ่งมาราธอนเนี่ย…แสดงว่ามีอะไรผิดปกติแล้ว! รีบพาไปหาหมอให้ปอดแข็งแรงเหมือนเดิม!
-
ขี้มีเลือด: ถ้าลูกถ่ายออกมามีมูกเลือดเหมือน “เลือดกำเดาไหล” นั่นน่ะ…ไม่ต้องคิดมาก! รีบไปโรงพยาบาลด่วน!
แถมท้ายสไตล์ชาวบ้าน:
- อย่าเชื่อหมอดู: อย่าไปเชื่อหมอดู หมอผี หรือใครก็ตามที่ไม่ได้จบหมอมา! การรักษาลูกต้องใช้ “วิทยาศาสตร์” ไม่ใช่ “ไสยศาสตร์”!
- อย่ารอช้า: อย่ารอให้ลูกอาการหนักแล้วค่อยไปหาหมอ! “กันไว้ดีกว่าแก้” เสมอ!
- อย่ากลัวค่าหมอ: สุขภาพของลูกสำคัญกว่าเงินในกระเป๋า! “เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้”! (แต่เสียสุขภาพลูกไม่ได้ยิ่งกว่า!)
สรุป: ถ้าลูกมีอาการที่ว่ามา อย่ามัวแต่ “เอ้อระเหยลอยชาย” รีบพาไปหาหมอซะ! ไม่งั้นเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน! เข้าใจ๋?
ตรวจสุขภาพเด็กมีอะไรบ้าง
ตรวจสุขภาพเด็กเนี่ย ปีนี้ลูกฉันไปตรวจมา หมอบอกต้องดูหลายอย่างเลยนะ จำได้คร่าวๆ แบบนี้
- วัดส่วนสูง น้ำหนัก รอบหัว: อันนี้พื้นฐานเลย ทุกคนต้องทำ ของลูกฉัน น้ำหนักขึ้นเยอะมาก หมอชมใหญ่เลย
- ฟังปอด ฟังหัวใจ: หมอใช้เครื่องฟัง ดูว่าปอดมีเสียงอะไรผิดปกติมั้ย หัวใจเต้นปกติรึเปล่า ลูกฉันปกติดีนะ
- ตรวจตา: นี่สำคัญมาก หมอจะเช็คสายตาสั้น ยาว เอียง ลูกฉันสายตาปกติ โล่งอกไปที
- ตรวจหู: ดูว่าได้ยินดีมั้ย หมอจะใช้เครื่องตรวจ จำไม่ได้แล้วว่าใช้แบบไหน แต่ลูกฉันก็ปกติ
เพิ่มเติมนิดนึงนะ บางทีหมออาจจะถามเรื่องพัฒนาการด้วยนะ แบบว่า พูดได้กี่คำแล้ว เดินได้ยัง กินข้าวเองได้หรือยัง ประมาณนั้น จำได้ว่าหมอถามเยอะมาก แต่ก็ดีนะ ได้รู้พัฒนาการลูกเราด้วย
ปีนี้ตรวจที่ รพ.กรุงเทพ หมอใจดีมากเลย แนะนำให้พาเด็กไปตรวจสุขภาพประจำปีนะ สำคัญมากๆ เพื่อเช็คสุขภาพโดยรวม จะได้รู้ว่าลูกเรามีปัญหาอะไรบ้าง แต่ละที่อาจจะมีรายการตรวจต่างกันเล็กน้อยนะ ลองถามคลินิกเด็กดู
เด็กแรกเกิดต้อวไปหาหมอกี่ครั้ง
เด็กแรกเกิด… กี่ครั้งนะ… อืม…
เหมือนเคยอ่านเจอ… หรือหมอบอก… ไม่แน่ใจเท่าไหร่
แต่ที่แน่ๆ คือ…
- วัยทารก: ต้องไปหาหมออย่างน้อย 7 ครั้งเลยนะ (แรกเกิด – 12 เดือน) เยอะเหมือนกันเนอะ
- ปฐมวัย: ลดลงมาหน่อย เหลือ 4 ครั้ง (18 เดือน – 4 ขวบ)
- วัยเรียน: ยิ่งโตยิ่งน้อย 3 ครั้ง (6 ขวบ, 8 ขวบ, 10 ขวบ)
- วัยรุ่น: ก็ 3 ครั้งเหมือนกัน (11-21 ปี)
จำได้ว่าตอนพาลูกไปหาหมอตอนเด็กๆ นี่วุ่นวายมาก… ร้องไห้กระจองอแงตลอด… แต่ก็ต้องไป… เพื่อสุขภาพลูกเนอะ…
รู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก… แป๊บๆ ลูกก็โตแล้ว…
ทารกครบ 1 เดือนตรวจอะไรบ้าง
ทารกอายุ 1 เดือนควรตรวจอะไรบ้าง? โดยทั่วไปแพทย์จะเน้นตรวจสุขภาพทั่วไป ดูพัฒนาการเบื้องต้น และคัดกรองโรคบางอย่าง เช่น
- การวัดน้ำหนักและส่วนสูง: เพื่อประเมินการเจริญเติบโต เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน เป็นการตรวจพื้นฐานที่สำคัญมาก
- ตรวจวัดความยาวรอบศีรษะ: เพื่อประเมินการเจริญเติบโตของสมอง ถ้ามีอะไรผิดปกติก็สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที
- ตรวจร่างกายทั่วไป: สังเกตสภาพผิวหนัง ดวงตา หู จมูก ลำคอ หัวใจ ปอด เพื่อหาความผิดปกติ
- การตรวจคัดกรองภาวะเหลือง: สำคัญมากสำหรับทารกแรกเกิด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในภายหลัง ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบประสาทได้ ถึงจะดูธรรมดาแต่ผมว่ามันจำเป็นมากเลยนะ
การตรวจสุขภาพเด็กแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกันไป เนื่องจากพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ละช่วงวัยจะมีจุดเน้นที่ต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น
- การตรวจคัดกรองการได้ยิน: ควรทำอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 6 เดือนแรก โดยใช้เครื่องมือเฉพาะทาง และอาจเพิ่มเติมการประเมินโดยการซักถามผู้ปกครองในช่วง 4-6 เดือน เป็นการค้นหาปัญหาแต่เนิ่นๆ
- การตรวจคัดกรองพัฒนาการ: ควรทำที่อายุ 9 เดือน, 18 เดือน และ 3 ปี เพื่อประเมินความก้าวหน้าทางด้านต่างๆ เช่น ด้านการเคลื่อนไหว ด้านภาษา ด้านสังคม และด้านสติปัญญา ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ดีของเด็ก คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่ควรให้ความใส่ใจ
เพิ่มเติม: ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น การตรวจสุขภาพเด็กแต่ละครั้งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะแผนการตรวจอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประวัติสุขภาพของเด็กแต่ละคน และความคิดเห็นของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนตัวผมคิดว่าการปรึกษาแพทย์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะบางทีข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตอาจจะไม่ครอบคลุม
ลูกอายุ 48 ชั่วโมงขึ้นไปจะได้รับการเจาะเลือดตรวจอะไรบ้าง
ลูกอายุ 48 ชั่วโมงขึ้นไป จะเจาะเลือดตรวจอะไรบ้างเหรอ…
ตอนลูกเราเกิดมา หมอก็เจาะเลือดที่ส้นเท้าเค้านะ ตอนนั้นใจไม่ดีเลย เห็นแล้วสงสารลูก
- ตรวจคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์แต่กำเนิด (Congenital Hypothyroidism): อันนี้สำคัญ ถ้าไม่รู้แต่เนิ่นๆ จะมีผลต่อพัฒนาการสมองของลูก
- ตรวจคัดกรองภาวะฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria – PKU): ร่างกายย่อยโปรตีนชนิดนึงไม่ได้ ถ้าไม่รักษามีผลต่อสมองเหมือนกัน
- ตรวจคัดกรองภาวะกาแลคโตซีเมีย (Galactosemia): ย่อยน้ำตาลกาแลคโตสไม่ได้ อันนี้ก็ต้องระวังเรื่องนม
- ตรวจคัดกรองภาวะเมเปิลไซรัป (Maple Syrup Urine Disease – MSUD): ปัญหาเกี่ยวกับการย่อยกรดอะมิโน ลูกเราไม่ได้เป็นนะ แต่ก็ได้ยินว่าอันตราย
- ตรวจคัดกรองภาวะฮีโมโกลบินผิดปกติ (Hemoglobinopathies): พวกธาลัสซีเมีย หรือภาวะซีดต่างๆ
เมื่อก่อนตอนที่ลูกเกิด หมอบอกว่าตรวจแค่นี้ แต่เดี๋ยวนี้ (ปี 2567) อาจจะมีตรวจเพิ่มขึ้นนะ ลองถามคุณหมอดูอีกทีดีกว่า เพื่อความชัวร์
ตอนนั้น…ตอนที่เห็นเค้าเจาะเลือดลูก เราแอบร้องไห้ในใจอ่ะ กลัวลูกเจ็บ แต่ก็รู้ว่ามันจำเป็น… เพื่อลูกของเรา
Newborn screening test มีอะไรบ้าง
แสงแดดอุ่นละมุน แผ่ลงบนใบหน้าเล็กๆ ทารกน้อย… ลมพัดเบาๆ เหมือนกระซิบเรื่องราวลึกลับของชีวิต
-
การตรวจคัดกรองแรกเกิด (Newborn screening test) ปี 2566 ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ลูกชายคนเล็กของฉัน ได้รับการตรวจอะไรบ้างนะ… จำได้เลาๆ… แต่รู้สึกอบอุ่นใจ
-
ตรวจโลหิตจาง กลัวลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมีย เหมือนเพื่อนของพี่สาวฉัน
-
ตรวจสมองเสื่อม หวั่นใจ พ่อกับแม่ สุขภาพไม่ค่อยดี
-
ตรวจฮอร์โมนไทรอยด์ อยากให้ลูกแข็งแรงสมบูรณ์แบบ
-
ทุกครั้งที่นึกถึงวันนั้น น้ำตาคลอเบ้า ความรัก ความห่วงใย ล้นเหลือ
-
ทารกแรกเกิด… เปราะบาง เหมือนดอกไม้บานสะพรั่ง ต้องดูแลอย่างทะนุถนอม
-
ชีวิตเริ่มต้นใหม่… อ่อนโยน อ่อนหวาน หวังว่าลูกจะเติบโตอย่างแข็งแรง สมบูรณ์ มีความสุข
-
ห้องคลอด กลิ่นแอลกอฮอล์เจือจาง เสียงร้องไห้เล็กๆ ยังคงก้องอยู่ในหู
-
ความรู้สึกนั้น… ตราตรึง ไม่มีวันลืมเลือน
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): ควรตรวจสอบรายละเอียดการตรวจคัดกรองแรกเกิด กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละพื้นที่ อาจมีรายการตรวจที่แตกต่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับนโยบายและความพร้อมของสถานพยาบาล
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต