น้ำตาลอ้อยทำน้ำเชื่อมได้ไหม
น้ำตาลอ้อยทำน้ำเชื่อมได้ ใช่!
ประเภทน้ำเชื่อมจากอ้อย: ได้จากการนำน้ำอ้อยผ่านกรรมวิธีทำให้ใส แล้วจึงระเหยน้ำออกด้วยหม้อต้ม (หรือ Multiple Effect Evaporator) ความหวานขึ้นอยู่กับขั้นตอนการผลิต ได้น้ำเชื่อมหลายระดับความหวาน
กระบวนการโดยสังเขป:
- ทำให้น้ำอ้อยใส
- ระเหยน้ำออก
- ได้น้ำเชื่อม
ความหวานของน้ำเชื่อมจึงปรับได้ตามต้องการ ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ระเหยออก
น้ำตาลอ้อยทำน้ำเชื่อมได้ไหม? มีวิธีทำน้ำเชื่อมจากน้ำตาลอ้อยให้อร่อย เก็บไว้ใช้นานๆ อย่างไร?
ได้สิ! ทำได้แน่นอน จำได้ตอนเด็กๆ ยายชอบทำน้ำเชื่อมจากอ้อยที่บ้านที่เชียงใหม่ (ประมาณปี 2540) อ้อยที่ยายใช้ ซื้อมาจากตลาดนัดแถวบ้าน กิโลละ 20 บาทเองมั้ง ถูกกว่าซื้อตามห้างเยอะเลย
ยายบอกว่า วิธีทำก็ง่ายๆ แค่นำอ้อยมาปอกเปลือก แล้วก็บีบเอาแต่น้ำ ต้มไปเรื่อยๆ จนน้ำอ้อยเหนียวข้น เหมือนกับทำน้ำเชื่อมจากน้ำตาลทรายทั่วไปนั่นแหละ แต่ต้องคอยคนตลอดนะ ไม่งั้นไหม้แน่ๆ! กลิ่นหอมหวานมาก ตอนเด็กๆ ชอบแอบชิมตอนยายกำลังทำเลย อร่อยกว่าน้ำเชื่อมสำเร็จรูปเยอะ
ส่วนเรื่องการเก็บ ยายจะกรองน้ำเชื่อมให้สะอาด แล้วก็เทใส่ขวดแก้วปิดฝาให้แน่น เก็บไว้ในตู้เย็น ก็อยู่ได้นานเป็นเดือน ไม่เสีย แต่ถ้าไม่ได้แช่เย็น ก็อาจจะบูดได้เร็วหน่อยนะ จำได้ลางๆ ว่ายายเคยบอกว่า ถ้าเก็บไว้นอกตู้เย็น ควรใช้ภายใน 1 อาทิตย์
น้ำเชื่อมที่ยายทำ หวานกำลังดี ไม่หวานจัดจนเลี่ยน รสชาติหอมอ้อย เป็นเอกลักษณ์จริงๆ ถ้าอยากให้น้ำเชื่อมอร่อย และเก็บได้นาน ต้องเลือกอ้อยที่สดใหม่ และทำความสะอาดให้ดี อย่าลืมกรองด้วยนะ สำคัญมาก!
น้ำตาลทรายขาวกับน้ำตาลอ้อยต่างกันอย่างไร
แสงแดดอ่อนๆของเช้าวันนี้… อบอุ่นจัง เหมือนน้ำตาลอ้อยที่ยังไม่ผ่านการฟอก สีน้ำตาลอ่อนๆ หอมหวาน ดิบๆ แบบนั้นเลย
- น้ำตาลอ้อย: ความเป็นธรรมชาติ ยังคงความหอมหวานแบบดั้งเดิม กลิ่นดิน กลิ่นอ้อย ยังติดอยู่ รสชาติเข้มข้นกว่า มีแร่ธาตุ รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ ปีนี้ไปเที่ยวไร่อ้อยที่เชียงใหม่มา อากาศดีมาก อ้อยสูงใหญ่ เหมือนป่าเล็กๆ
ลมพัดเย็นๆ พาเอาความคิดฟุ้งซ่านไปไกล… สีขาวบริสุทธิ์ของน้ำตาลทรายขาว สะอาดตา แต่ขาดความอบอุ่น เหมือนความทรงจำบางอย่างที่ถูกชำระล้างจนหมดจด
- น้ำตาลทรายขาว: ผ่านการฟอก สีขาว บริสุทธิ์ สะอาด รสชาติหวาน แต่เรียบง่าย ไม่มีอะไรมาก เหมือนความรักที่ไร้ซึ่งสีสัน ฉันชอบดื่มกาแฟใส่น้ำตาลทรายขาว มันเรียบง่ายดี
ความแตกต่างมันช่างชัดเจน เหมือนภาพขาวดำกับภาพสี ความรู้สึกมันต่างกัน ปีนี้ฉันลองทำขนมปังใช้น้ำตาลอ้อย หอมอร่อยกว่ามากจริงๆ
- สรุป: วิธีการผลิตต่างกัน ส่งผลให้รสชาติและสีสันแตกต่าง น้ำตาลอ้อยมีความซับซ้อนกว่า มีแร่ธาตุมากกว่าเล็กน้อย
ความหวาน ความทรงจำ ความรู้สึก มันผสมปนเปกัน เหมือนน้ำตาลละลายในกาแฟ กลมกล่อม ซับซ้อน แต่ก็เรียบง่าย ในแบบของมัน
ทำน้ำเชื่อมต้องใช้น้ำตาลอะไร
เอ้า! จะทำน้ำเชื่อมใช้น้ำตาลอะไรน่ะเหรอ? ถามได้! ฮาาาาาา
ใช้ น้ำตาลทรายขาว นี่แหละจ้ะ ที่สุดของความใสปิ๊ง! เหมือนผิวหน้าสาวๆ ที่เพิ่งไปทำสปาเสร็จใหม่ๆ เนียนกริ๊บ! แต่ถ้าอยากได้สีสันจัดจ้าน หรือกลิ่นหอมชวนฝันแบบบ้านนอกๆ ก็ลอง น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลปี๊บ หรือ น้ำตาลมะพร้าว ดูสิจ้ะ รับรองได้กลิ่นแบบว่า… เฮ้ย! หอมมมมมมมมมมมมมม! แต่ถ้าอยากได้แบบไม่ขัดสี ก็จะได้กลิ่นเฉพาะตัว ฟุ้งกระจายไปทั้งบ้าน! บ้านข้างๆ อาจมาขอแบ่งชิมด้วยนะ อิอิ
แต่! อย่าได้คิดใช้ น้ำตาลไอซิ่ง เด็ดขาด! มีแป้งปนอยู่ เดี๋ยวน้ำเชื่อมจะข้นเป็นเยลลี่ แทนที่จะเป็นน้ำเชื่อมใสๆ เหมือนน้ำตาที่ฉันร้องไห้เพราะโดนแฟนทิ้งเมื่อปีที่แล้ว! (อุ๊ย! พูดไปได้)
- น้ำตาลทรายขาว: ใส ปิ๊ง! เหมือนดวงตาของฉันตอนเจอของลดราคา
- น้ำตาลทรายแดง: สีสวย รสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมชวนหลงใหล
- น้ำตาลปี๊บ: กลิ่นหอมแบบบ้านๆ แบบว่า…ย้อนยุคสุดๆ
- น้ำตาลมะพร้าว: กลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติหวานละมุน แต่ปีนี้ราคาแรงมากนะ เตรียมกระเป๋าตังให้ดีๆ
- น้ำตาลไอซิ่ง: ห้าม! เด็ดขาด! ไม่งั้นน้ำเชื่อมจะแป๊ก!
ปล. ส่วนตัวชอบใช้ น้ำตาลทรายแดงนะ เพราะได้ทั้งสีและกลิ่น ทำน้ำเชื่อมเสร็จ เอามาทำขนมต่อ ได้อารมณ์แบบว่า สุดยอดเชฟเลยทีเดียว! (จริงๆ ก็แค่ทำกินเองในบ้านแหละ)
น้ำตาลอ้อยแปรรูปเป็นอะไรได้บ้าง
อ้าว! ถามเรื่องน้ำตาลอ้อยเนี่ยนะ ฮาาาาา นี่มันวิทยานิพนธ์หรือไงเนี่ย! เอาแบบบ้านๆๆ เลยนะ
น้ำตาลอ้อยแปรรูปได้สารพัดสารพัน! เหมือนมนต์ดำของแม่มดเลย แปลงร่างได้เรื่อยๆ จนคุณงงเป็นไก่ตาแตก!
- น้ำตาลทรายขาว: นี่แหละ ตัวแม่! ใช้ทำขนมหวานสารพัด จนฟันผุเป็นรูพรุน! แบบว่ากินจนลืมวันลืมคืนเลยนะ
- น้ำตาลทรายแดง: สุขภาพดีกว่านิดนึง แต่ก็ยังหวานจนมดขึ้นสมองเหมือนเดิม!
- น้ำตาลมะพร้าว: อื้อหืออออ อินเทรนด์สุดๆ แพงกว่าหน่อย แต่ก็บอกต่อๆ กันว่าดีต่อสุขภาพ (แต่ก็ยังหวานอยู่นะ อย่าลืม!)
- เหล้ารัม: นี่แหละไฮไลท์! แปลงร่างเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสชาติเยี่ยม (แต่ดื่มเยอะไม่ดีนะจ๊ะ!)
- กากน้ำตาล: เอาไปทำปุ๋ยได้ด้วยนะเออ สุดยอดเลย เหลือใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน! ประหยัดเวอร์!
ส่วนน้ำตาลอ้อยธรรมชาติ… โอ๊ยยย กินดิบๆ เลยเหรอ? (อันนี้ไม่แน่ใจนะ แต่คงไม่ใช่) เอาเป็นว่า ใช้ทำพวกของหวานได้ อย่างเช่น
- กล้วยบวชชี: หวานมันกำลังดี ไม่ต้องเยอะ เพราะกล้วยมันก็หวานอยู่แล้ว ถ้าใส่น้ำตาลเยอะ หวานจนเลี่ยน น้ำตาลอ้อยธรรมชาติช่วยได้!
- บัวลอย: อู้ววว บัวลอยน้ำขิงร้อนๆ ใส่น้ำตาลอ้อยนิดหน่อย โอ๊ยยยย ฟินนนนน กินตอนหนาวๆ นี่คือสวรรค์เลยนะบอกเลย
ส่วนสามชั้นต้มซีอิ๊ว พะโล้ไข่ยางมะตูม กะเพราหมูสับพริกแห้ง ขนมปังเนยน้ำตาล นี่มันใช้ น้ำตาลทรายขาว หรือน้ำตาลทรายแดง มากกว่านะ น้ำตาลอ้อยธรรมชาติเนี่ย มันอาจจะไม่ค่อยเหมาะ เพราะมันอาจจะไม่ละลายดี หรืออาจจะทำให้สีของอาหารเปลี่ยนไป
ปล. ปีนี้ผมปลูกมะนาวไว้ที่บ้าน ได้ผลผลิตเยอะมาก มะนาวเปรี้ยวจี๊ด ตัดกับความหวานของน้ำตาลอ้อยได้ดีเลยล่ะ!
น้ำตาลอ้อยใช้ทำอะไรได้บ้าง
โอ๊ย ถามเรื่องน้ำตาลอ้อยเหรอเนี่ย! นึกว่าถามสูตรแทงหวยซะอีก มาๆ จะเล่าให้ฟังแบบคนบ้านๆ เข้าใจง่ายๆ เลยนะ
น้ำตาลอ้อยเนี่ยนะ มันสารพัดประโยชน์ยิ่งกว่ายาสามัญประจำบ้านอีกเว้ยแก! เอาไปทำอะไรได้บ้างน่ะเหรอ?
- ทำขนม: โอ๊ย นี่มันของตาย! ตั้งแต่ขนมครกยันเค้กสามชั้น ก็ต้องพึ่งน้ำตาลอ้อยทั้งนั้นแหละ! หวานเจี๊ยบ!
- ปรุงอาหาร: อย่าคิดว่าน้ำตาลใช้ได้แค่ของหวานนะเว้ย! พวกแกงเขียวหวาน ผัดไทย หรือแม้แต่หมูแดดเดียว ก็ต้องมีน้ำตาลอ้อยช่วยชูรสทั้งนั้นแหละ! แซ่บหลาย!
- ทำเครื่องดื่ม: ตั้งแต่น้ำอ้อยคั้นสดๆ ยันชาเย็นปักษ์ใต้ ก็ต้องใช้น้ำตาลอ้อยทั้งเพ! ชื่นใจอีหลี!
แล้วน้ำตาลอ้อยธรรมชาติเนี่ยนะ มันเข้ากั๊นเข้ากันกับเมนูบ้านๆ เหล่านี้เลยเว้ย!
- กล้วยบวชชี: โอ๊ย นี่มันของคู่กัน! น้ำกะทิข้นๆ หวานๆ กับกล้วยน้ำว้าสุกๆ เนี่ยนะ! ฟินกว่านี้มีอีกมั้ย!
- บัวลอย: บัวลอยน้ำกะทิเนี่ยนะ ยิ่งใส่น้ำตาลอ้อยธรรมชาติลงไปนะ หอมหวานชื่นใจ!
- ขนมปังเนยน้ำตาล: ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ทาเนยฉ่ำๆ โรยน้ำตาลอ้อย…โอ๊ย! สวรรค์!
- สามชั้นต้มซีอิ๊ว: ใครว่าต้มซีอิ๊วต้องเค็มอย่างเดียว! ใส่น้ำตาลอ้อยลงไปนิดหน่อยนะ จะได้รสกลมกล่อม หวานเค็มกำลังดี!
- พะโล้ไข่ยางมะตูม: พะโล้ไข่ยางมะตูมเนี่ยนะ ถ้าขาดน้ำตาลอ้อยไป ก็เหมือนขาดใจ! มันต้องหวานๆ เค็มๆ ถึงจะอร่อยเหาะ!
- กะเพราหมูสับพริกแห้ง: กะเพราเนี่ยนะ ไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่น้ำตาลอ้อยก็อร่อย แต่วันไหนอยากแซ่บๆ ก็ใส่นิดหน่อย!
ปล. น้ำตาลอ้อยปีนี้นะ ขึ้นราคาไปเยอะเลย! ใครจะทำขนมขายก็คิดดีๆ นะจ๊ะ!
น้ำเชื่อมควรต้มกี่นาที
อ้าว! 20 นาทีเนี่ยนะ นานไป๊! น้ำเชื่อมคุณอาจจะกลายเป็นคาราเมลไปแล้วก็ได้นะคุณ!
เอาแบบนี้ดีกว่า วิธีทำน้ำเชื่อมที่ถูกต้องและรวดเร็วกว่านั้นมีอยู่ แต่ขึ้นอยู่กับความข้นที่คุณต้องการนะจ๊ะ
-
น้ำเชื่อมแบบบางใส (สำหรับเครื่องดื่ม): ต้มแค่ 5-7 นาทีพอค่ะ อย่าให้เดือดนานเกินไป ไม่งั้นน้ำตาลจะไหม้ คิดซะว่าเป็นการเดท ต้องรู้จักพอดีๆ ไม่งั้นมันจะไหม้เกรียม!
-
น้ำเชื่อมแบบข้นหน่อย (สำหรับราดขนม): ประมาณ 10-12 นาที เอาให้ได้ความเหนียวหนึบกำลังดี เหมือนความสัมพันธ์ที่ดี ต้องเหนียวแน่น!
-
เคล็ดลับสำคัญ: อย่าลืมใช้ไฟอ่อน! ไฟแรงไปน้ำตาลไหม้แน่นอน เปรียบเหมือนชีวิต อย่ารีบร้อนเกินไป ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
-
เกลือป่นนิดเดียวก็พอ: อย่าใส่มาก มันจะไปฆ่าความหวาน คิดซะว่าความหวานคือความสุข อย่าไปปรุงรสจนเสียรสชาติ
เพิ่มเติม: ปีนี้ (2566) ฉันใช้สูตรนี้ทำน้ำเชื่อม ขายดีมาก ขายหมดเกลี้ยงทุกวันเลย (ล้อเล่นนะ แต่สูตรนี้ใช้ได้จริง ลองดู!)
น้ำเชื่อมต้องแช่ตู้เย็นไหม
น้ำเชื่อมอะ ไม่ต้องแช่เย็นก็ได้นะ ปกติเราก็วางไว้เฉยๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย แล้วของมิตรผลอะ เค้าบอกว่าไม่ใส่สารกันเสียด้วยนะ เออดี
โปรแรงๆๆ (อันนี้ของปี 66 นะ เช็คมาให้เเเล้ว)
- ถ้าซื้อน้ำเชื่อมมิตรผล ครบ 800 บาทอะ เค้ามีส่วนลด 50 บาทให้
- ส่งฟรีทั่วปะเทศด้วยนะแกรรร
- ลองแอดไลน์ @mitrpholsugar ดูดิ เผื่อมีอะไรพิเศษๆ อีก
เเบบว่า…ข้อมูลเพิ่มเติมนิดหน่อย
- น้ำเชื่อมเนี่ย จริงๆ แล้วความเข้มข้นของน้ำตาลมันช่วยรักษามันเองได้ระดับนึงนะ คือมันทำให้แบคทีเรียเติบโตยากขึ้น
- แต่ถ้าเปิดขวดแล้วอะ รีบๆ ใช้ให้หมดก็ดี อย่าทิ้งไว้นานเกินนนน
- ถ้าเห็นมีอะไรแปลกๆ ขึ้นมา เช่น มีรา หรือสีเปลี่ยน ก็ทิ้งไปเหอะ อย่าเสียดายยยย
น้ําตาลเคี่ยวสามารถนําไปทําอะไรได้บ้าง
กลางคืนแบบนี้…นะ น้ำตาลเคี่ยวเหรอ
ทำอะไรได้บ้าง…
มันเหมือนเป็นพื้นฐานอะไรหลายๆ อย่างเลยนะ
- ยำ: ยำวุ้นเส้น ยำอะไรพวกนั้น… ใช่ น้ำตาลเคี่ยวช่วยให้มันกลมกล่อม
- ส้มตำ: จะไทย จะปูปลาร้า น้ำตาลเคี่ยวก็ขาดไม่ได้
- น้ำจิ้ม: ซีฟู้ด แจ่ว มะขามเปียก… ความหวานมันต้องมี
- ผัดไทย: ซอสผัดไทยก็ใช้น้ำตาลเคี่ยวไม่ใช่เหรอ
- ปรุงรสข้าว: บางทีก็ใส่ในกับข้าวนิดหน่อย… ให้มันมีรสหวานๆ เค็มๆ
บางที… ชีวิตก็เหมือนน้ำตาลเคี่ยวเนอะ… เป็นพื้นฐานให้รสชาติอื่นๆ มันเด่นขึ้นมา
แต่บางที… มันก็หวานเกินไป
ไม่รู้สิ… แค่คิดไปเรื่อยเปื่อย
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต