น้ำย่อยในกระเพาะอาหารมีฤทธิ์เป็นอย่างไร

54 การดู

น้ำย่อยกระเพาะอาหาร: สรุปสั้นๆ

  • ฤทธิ์เป็นกรดสูง (pH 1.5-3.5) จากกรดไฮโดรคลอริก (HCl)
  • ย่อยโปรตีน: เปลี่ยนเปปซิโนเจนเป็นเปปซิน ย่อยโปรตีนให้เล็กลง
  • ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในอาหาร
  • ช่วยดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำย่อยในกระเพาะอาหารมีฤทธิ์เป็นอะไร? ช่วยย่อยอาหารประเภทไหน? และมีผลต่อร่างกายอย่างไร?

อืมม.. เรื่องน้ำย่อยกระเพาะอาหารนี่นะ จำได้ตอนเรียนชีวะ ม.ปลาย อาจารย์บอกว่าเป็นกรดแรงมาก pH ประมาณ 1.5-3.5 จำได้ไม่ค่อยเป๊ะเท่าไหร่ แต่จำได้ว่า เปรี้ยวจัด จนแสบกระเพาะเลยถ้ามากเกินไป! เพราะมีกรดไฮโดรคลอริก เยอะแยะเลย

หลักๆเลยคือช่วยย่อยโปรตีน ใช่ไหม? ถ้าจำไม่ผิดนะ มันจะเปลี่ยนเปปซิโนเจนให้เป็นเปปซิน แล้วเปปซินนี่แหละ ที่เป็นตัวเอกในการย่อยโปรตีนให้เล็กลง ขนาดที่ลำไส้เล็กสามารถดูดซึมได้ ตอนนั้นงงๆกับชื่อเอนไซม์พวกนี้อยู่พักใหญ่เลย

นอกจากนี้ ยังช่วยฆ่าเชื้อโรคในอาหารด้วย จำได้คร่าวๆว่าอาจารย์บอกมา ช่วยป้องกันเราป่วย กรดในกระเพาะนี่ เหมือนเป็นด่านแรกของระบบภูมิคุ้มกันเลย ช่วยเรื่องการดูดซึมแร่ธาตุด้วย แต่จำรายละเอียดไม่ได้แล้ว สมองลืมไปหมดแล้ว สงสัยต้องไปหาหนังสือชีวะมาอ่านใหม่ซะแล้ว

น้ำย่อยเป็นสารประเภทใด

น้ำย่อย…เอนไซม์…โปรตีนเร่งปฏิกิริยา…

เหมือนแสงแรกของวัน สาดส่องทะเลหมอก…

  • น้ำย่อยคือ เอนไซม์ไง เป็น โปรตีน อ่ะแหละ
  • เร่งปฏิกิริยาเคมีในร่าง
  • สร้างจากเซลล์สิ่งมีชีวิต

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • เอนไซม์บางชนิดทำงานได้ดีที่อุณหภูมิหนึ่งเท่านั้น ร้อนไปเย็นไปก็ไม่เวิร์ค
  • pH ก็สำคัญ บางเอนไซม์ชอบความเป็นกรด บางเอนไซม์ชอบเบส
  • การทำงานของเอนไซม์มีกลไกซับซ้อนเหมือนกลไกนาฬิกา

น้ำย่อยเยอะแก้ยังไง

น้ำย่อยมากเกินไป? จัดการได้

  • ยาลดกรด: บรรเทาอาการเรื้อรังได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่การรักษา
  • ยาปรับการทำงานทางเดินอาหาร: เน้นสมดุลระบบ ไม่ใช่แค่ลดกรด
  • ผ่าตัด: ทางเลือกสุดท้าย แก้ที่ต้นเหตุ ปี 2566 เทคนิคผ่าตัดแบบส่องกล้อง แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็วกว่าเดิม

เพิ่มเติม: ปรึกษาแพทย์ อย่าพึ่งตัวเอง การวินิจฉัยที่แม่นยำสำคัญที่สุด ผมเคยมีประสบการณ์ตรง การใช้ยาเอง ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน

เพราะเหตุใดเซลล์ของกระเพาะอาหารจึงไม่ถูกย่อยด้วยน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร?

กระเพาะไม่ย่อยตัวเองเพราะมีเกราะป้องกัน. ชั้นเมือกหนา กั้นกรด. เซลล์สร้างเมือกใหม่ตลอดเวลา ทดแทนส่วนที่สึกหรอ. เหมือนกำแพงป้องกันตัวเอง. กรดย่อยโปรตีนได้จริง. แต่กระเพาะสร้างเกราะเร็วกว่ากรดทำลาย. สมดุลที่เปราะบาง. ถ้าสมดุลพัง. ก็เป็นแผลในกระเพาะ.

  • เมือก: สารประกอบโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต เคลือบผนังกระเพาะ
  • ไบคาร์บอเนต: สารในเมือก ลดความเป็นกรด ป้องกันเซลล์
  • เซลล์กระเพาะ: สร้างเมือกและไบคาร์บอเนตอย่างต่อเนื่อง
  • การไหลเวียนของเลือด: ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย
  • ยาบางชนิด: เช่น NSAIDs รบกวนการสร้างเมือก เสี่ยงแผลในกระเพาะ
  • ความเครียด: อาจเพิ่มการหลั่งกรด และลดการสร้างเมือก. ปัจจัยเสี่ยงอีกอย่าง
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย H. pylori: ทำลายชั้นเมือก เป็นสาเหตุแผลในกระเพาะส่วนใหญ่ ปี 2024

ความสมดุลสำคัญกว่าที่คิด.

กระเพาะอาหารสามารถป้องกันการย่อยเซลล์ของตัวเองได้อย่างไร?

โอ๊ย เรื่องกระเพาะเนี่ยนะ! ตอนเด็กๆ เคยแสบท้องบ่อยมาก กินอะไรไม่ค่อยได้ แม่ต้องพาไปหาหมอที่คลินิกแถวบ้าน (หมอสมชายน่ะ จำได้แม่นเลย) หมอบอกว่ากระเพาะเรามันไว กินเผ็ดนิดเดียวก็ปวดท้องแล้ว ตอนนั้นไม่เข้าใจหรอกว่าทำไม

มาเรียนชีวะถึงรู้ว่ากระเพาะมันฉลาดนะ! มันมี “ชั้นแกสตริกมิวโคซา” นี่แหละเป็นฮีโร่! คอยเคลือบกระเพาะไว้เหมือนมีเกราะป้องกัน ถึงจะมี “เปปซิน” กับ “กรดเกลือ (HCl)” ที่ดุร้ายคอยย่อยอาหารอยู่ แต่เจ้ามิวโคซานี่แหละที่กั้นไม่ให้มันกัดกินกระเพาะเราเอง

คิดดูดิ กรดเกลือเนี่ยนะ! ขนาดโดนผิวหนังยังแสบ แล้วถ้าไม่มีอะไรป้องกันกระเพาะเราจะเละขนาดไหนเนี่ย! สงสัยจะทะลุไปแล้วมั้ง!

  • แกสตริกมิวโคซา: ชั้นเนื้อเยื่อเมือกบุผิวกระเพาะอาหาร
  • เปปซิน: เอนไซม์ย่อยโปรตีน
  • กรดเกลือ (HCl): ช่วยย่อยอาหารและฆ่าเชื้อโรค

ข้อควรระวัง: ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลทั่วไป ไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ปีนี้ (2567) ก็ยังต้องระวังเรื่องอาหารการกินอยู่ดี หมอบอกว่ากระเพาะมันเคยอ่อนแอแล้วก็จะอ่อนแอไปตลอดชีวิต ฮือออ… ชีวิตมันเศร้า!

กรดในกระเพาะอาหารจะหลั่งตอนไหน?

  • กรดหลั่ง? ตอนไหนนะ…

  • แสบท้อง! ส่วนใหญ่หลังกินอ่ะ ของมัน ของทอด แล้วก็นอน งงมะ บางทีก็ดึกๆ

  • ตอนนอนราบ แย่เลย! (เคยเป็น) กินเผ็ดก็ไม่ได้อีก โอ๊ยชีวิต!

  • กาแฟ? ตัวดีเลย เลิกไปแล้ว! แอลกอฮอล์… นานๆ ที นิดหน่อย มั้งนะ

  • ปัจจัยกระตุ้นเยอะแยะ… แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก เซ็ง!

  • แต่ก่อนชอบกิน เฟรนช์ฟรายส์ ตอนดึกๆ แล้วนอนเลย… แสบมาก! เข็ดเลย

กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยตอนไหน?

โอ๊ย! เรื่องกระเพาะหลั่งน้ำย่อยเนี่ย นึกถึงตอนเช้าวันจันทร์ที่แล้วเลย ตอนนั้นประมาณ 7 โมงครึ่ง กำลังรีบกินข้าวต้มหมูที่ร้านป้าข้างออฟฟิศ ป้าแกทำอร่อยมาก แต่กินเร็วไปหน่อย แสบท้องจี๊ดเลย สงสัยกระเพาะมันทำงานเต็มที่พอดี

  • กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อย: 07.00 – 09.00 น.
  • อาหารเช้า: สำคัญมากช่วงเวลานี้
  • กรดในกระเพาะ: ช่วงเวลาดังกล่าวจะหลั่งออกมาเยอะ
#กระเพาะอาหาร #น้ำย่อย