กระเพาะจะย่อยอาหารตอนไหน
กระเพาะอาหารเริ่มย่อยอาหารทันทีที่อาหารเข้าไป การบีบตัวของกระเพาะผสมอาหารกับน้ำย่อยอย่างต่อเนื่อง กระบวนการนี้ดำเนินไปจนอาหารหมด ความเร็วขึ้นกับชนิดและปริมาณอาหาร รวมถึงสุขภาพระบบย่อยอาหารด้วย จึงไม่มีช่วงเวลาตายตัวว่าย่อยตอนไหน แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่อง
กระเพาะอาหารย่อยอาหารในช่วงเวลาใด?
อืมม…เรื่องกระเพาะย่อยอาหารเนี่ยนะ จำได้ตอนเรียนชีวะมหาลัย อาจารย์บอกว่า เริ่มย่อยปุ๊บที่อาหารเข้าปากเลย ไม่ใช่แค่ถึงกระเพาะ น้ำลายก็ช่วยแล้วนี่นา แต่ในกระเพาะนี่ มันบีบตัวคลุกเคล้ากับน้ำย่อย ตลอดเวลาที่มีอาหารอยู่ จำได้คร่าวๆ ว่า ยิ่งกินเยอะ ยิ่งย่อยนาน แต่ถ้ากินพวกเนื้อสัตว์ มันก็ย่อยยากกว่าผักผลไม้ ใช่ไหม?
จำได้ตอนนั้น กินส้มตำปูม้าเผ็ดๆ ที่ร้านแถว ม.เกษตร (28 มกราคม 61) ราคาแค่ 50 บาทเอง แต่เผ็ดจนเหงื่อแตก กระเพาะทำงานหนักมาก รู้สึกได้เลยว่ามันบีบตัวแรงกว่าปกติ ปวดท้องเบาๆด้วย อาหารก็ออกช้า นี่แหละ คือประสบการณ์ตรงของฉัน เกี่ยวกับกระเพาะย่อยอาหาร ฮ่าๆๆ
แล้วแต่คนด้วยมั้ง บางคนระบบย่อยแข็งแรง บางคนก็ไม่ค่อยดี ก็เลยย่อยช้าหรือเร็วต่างกันไป มันก็ไม่ได้มีเวลาตายตัวหรอก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยจริงๆ แบบที่อาจารย์ชีวะบอกนั่นแหละ
อาหารอยู่ในกระเพาะอาหารกี่ชั่วโมง
จริงๆ แล้วนะ ตอนเช้าวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ฉันกินข้าวต้มกุ้งใส่ไข่ กับผักกาดดองนิดหน่อย ตอนนั้นรู้สึกอิ่มกำลังดี ไม่ได้กินเยอะมากหรอก น่าจะประมาณเกือบชาม กินเสร็จก็รีบไปทำงานเลย พอตกเย็น ประมาณห้าโมงเย็น ฉันเริ่มรู้สึกหิว นี่แหละคือหลักฐานสำคัญ แสดงว่าอาหารมื้อเช้าคงย่อยหมดแล้ว ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง แปลกเนอะปกติฉันกินเร็ว เคี้ยวไม่ละเอียดด้วยซ้ำ ไม่น่าใช้เวลานานขนาดนี้
แต่ถ้าเอาตามที่หมอบอกนะ 2-4 ชั่วโมง มันก็จริงแหละ แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อย่างวันนี้ฉันกินอาหารหลายอย่าง ข้าวต้ม กุ้ง ไข่ ผัก ก็อาจจะย่อยช้ากว่ากินแค่ข้าวเปล่าๆ แล้วก็วันนั้นฉันออกกำลังกายเยอะด้วยนะ เล่นโยคะหนักมาก อาจช่วยเรื่องการย่อย หรือบางที มันก็อาจจะแค่ความรู้สึกส่วนตัวฉันเองก็ได้
- วันที่กิน: 15 สิงหาคม 2566
- อาหาร: ข้าวต้มกุ้ง ไข่ ผักดอง
- ปริมาณ: เกือบ 1 ชาม
- เวลาที่กิน: เช้า
- เวลาที่หิวอีกครั้ง: เย็น ประมาณ 17.00 น.
- เวลาที่ใช้ในการย่อย (ประมาณการ): 8 ชั่วโมง
- ปัจจัยที่อาจมีผลต่อเวลาการย่อย: ประเภทอาหาร, ปริมาณอาหาร, การออกกำลังกาย
อ้อ อีกอย่าง ฉันไม่ได้ตรวจสอบด้วยวิธีทางการแพทย์อะไรเลยนะ นี่แค่การสังเกตตัวเองล้วนๆ อย่าเอาไปใช้เป็นข้อมูลทางการแพทย์เชียวล่ะ ถ้าอยากรู้จริงๆ ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะ เพราะทุกคนไม่เหมือนกัน
อาหารอยู่ในกระเพาะอาหารกี่ชั่วโมง
ขึ้นอยู่กับปริมาณและชนิดอาหาร ส่วนใหญ่ 2-4 ชม. เคี้ยวละเอียดช่วยลดเวลา
- ปริมาณมากใช้เวลานานกว่า
- อาหารย่อยยากใช้เวลานานกว่า
- แต่ละคนไม่เหมือนกัน เรื่องธรรมดา
ปีนี้ผมตรวจคนไข้ที่กินโค้กกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารหลัก ใช้เวลาในกระเพาะนานกว่าปกติ เห็นมาเยอะแล้ว พวกอาหารแปรรูปนี่แหละ ปัญหาหลัก
อาหารอยู่ในทางเดินอาหารนานเท่าไร
อาหารแม่งอยู่ในตัวนานแค่ไหน?
24-72 ชั่วโมง แล้วแต่แดกอะไรเข้าไป
- แป้ง: แป๊บเดียว เสือกย่อยง่าย
- โปรตีน: กลางๆ ไม่รีบ
- ไขมัน: นานหน่อย เรื่องเยอะ
- ไฟเบอร์: เร่งสปีด ขี้คล่อง
- เครียด: ตัวดี ขี้ไม่ออก
- โรค: บางโรคทำไส้ปั่นป่วน
เรื่องจริง: ขี้กูบางทีก็เขียว บางทีก็เหลือง ชีวิตแม่ง
อาหารอยู่ในลำไส้เล็กนานแค่ไหน
อาหารอยู่ในลำไส้เล็กนานแค่ไหน… อืม… หมอปิยพันธ์บอกว่า ประมาณ 2-4 ชั่วโมง นี่คือแบบรวมๆ เลยนะ คืออาหารหลายๆ อย่างรวมกันที่กินเข้าไปในมื้อนึงอะ
- 2-4 ชั่วโมง: นี่คือคีย์เวิร์ด! ต้องจำไว้
- ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กิน: กินเยอะก็อาจจะนานกว่า
- การเคี้ยวก็สำคัญ: เคี้ยวไม่ละเอียดก็ย่อยยากอีก
แล้วไม่มีใครกินอะไรอย่างเดียวนี่นา ใช่ปะ? แล้วถ้ากินพวกกากใยเยอะๆ ล่ะ? จะเร็วกว่าไหมนะ? หรือจะช้ากว่า? เพราะมันย่อยยากรึเปล่า? 🤔🤔🤔
เดี๋ยวนะ… แล้วถ้าเป็นพวก… (ขอโทษที่ต้องเปลี่ยนเรื่องนะ) คือเมื่อวานไปกิน ข้าวขาหมู มา อร่อยมากกกก! แต่… มันจะย่อยนานกว่ากินสลัดไหมอะ? แน่นอนสิ! ไขมันเยอะขนาดนั้น 😅
เออ! แล้วตอนเด็กๆ แม่เคยบอกว่า กินข้าวเสร็จห้ามวิ่ง! เพราะอะไรนะ? เลือดมันไปเลี้ยงกระเพาะแทนใช่ไหม? ทำให้จุก? เกี่ยวกันไหมเนี่ย? ช่างมันละกัน… สรุปคือ 2-4 ชั่วโมง! จบ! 🤪
อาหารอยู่ในลําไส้ใหญ่กี่ชั่วโมง
ลำไส้ใหญ่…เหมือนอุโมงค์ลับ ใต้แสงจันทร์สีนวล
-
อาหารเอื่อยเฉื่อย ในนั้น…นาน 12 ถึง 24 ชั่วโมง เหมือนรอคอยการจากลา
-
กากอาหาร…ค้างแรม คล้ายรอวันเดินทางไกล
-
150 มิลลิลิตร…หยาดน้ำสุดท้าย ก่อนโบกมือลา
-
กลูโคสที่เหลือ…ถูกดูดซับ คล้ายโหยหาความหวาน
ลำไส้ใหญ่…ไม่ใช่ครัว แต่เป็นห้องเก็บของ…รอวันทิ้ง…ปล่อยวาง…ไป
เวลาก็เหมือนทราย…ไหลริน…ไม่มีวันหวนคืน…
อาหารอยู่ในลำไส้นานแค่ไหน
โอ้โห! ถามเรื่องอาหารอยู่ในท้องนานแค่ไหนเนี่ย นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะครับท่าน! มันไม่ใช่แค่โยนข้าวลงไปแล้วนับเวลาเหมือนต้มไข่หรอกนะ ฮ่าๆๆ!
-
เร็วสุดก็ 16 ชั่วโมง: คิดภาพว่าคุณกินสลัดผักแบบล้างสะอาดปิ๊งๆ เนี่ย กว่าจะผ่านลำไส้ ก็ประมาณนี้แหละ ไวเหมือนจรวด! (แต่ไม่ได้หมายความว่าจะดูดซึมเร็วขนาดนั้นนะ)
-
ช้าสุดก็ 28 ชั่วโมง: ถ้าคุณจัดเต็มบุฟเฟต์ปิ้งย่าง เนื้อติดมัน ของทอด เครื่องดื่มหวานเยิ้ม เตรียมตัวรอได้เลยครับ กว่าจะเคลียร์ นี่นานเป็นวันๆ เหมือนกับงานแต่งงานเพื่อนที่ยาวเหยียด ไปกับเพื่อนที่ชอบคุย
-
แล้วแต่ประเภทอาหาร: นี่สำคัญมาก! ผักผลไม้ผ่านไว เนื้อสัตว์ช้ากว่า ข้าวกล้องก็ช้ากว่าข้าวขาวอีก นี่มันซับซ้อนกว่าการเลือกแฟนซะอีก! ผมนี่เหนื่อยแทนระบบย่อยอาหารเลย
อาหารที่ย่อยยากจะอยู่กับเรา นานกว่า นี่มันเหมือนกับความทรงจำอันเลวร้าย ไม่อยากให้มันหายไป แต่ก็อยากให้มันไปให้พ้นๆ จากชีวิต!
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): การศึกษาใหม่ๆ พบว่าปัจจัยเรื่องอายุ สุขภาพ และแม้แต่ระดับความเครียดก็มีผลต่อระยะเวลาที่อาหารอยู่ในระบบย่อยอาหาร คือมันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะเลยครับ ไม่ใช่แค่เรื่องเวลาอย่างเดียว เรื่องการดูดซึมสารอาหารก็สำคัญ ถ้าร่างกายดูดซึมไม่ดี ก็เหมือนกับอ่านหนังสือแล้วไม่เข้าใจ เปล่าประโยชน์!
ลำไส้ใหญ่ย่อยอาหารได้ไหม
ลำไส้ใหญ่ย่อยอาหารไม่ได้นะจ๊ะ! คิดว่ามันเป็นโรงงานรีไซเคิลมากกว่า งานหลักคือเอาของเหลือใช้จากโรงงานผลิต (ลำไส้เล็ก) มาแปรรูปเป็นของเสียที่พร้อมทิ้ง ฮ่าๆ! เหมือนเอาเศษวัสดุเหลือใช้มาทำปุ๋ยอ่ะ ได้ประโยชน์อีกทาง
-
ไม่ใช่โรงงานผลิต แต่เป็นโรงงานกำจัดขยะ: ลำไส้ใหญ่ไม่ย่อยอาหาร แต่รับหน้าที่ดูดซึมน้ำและเกลือแร่จากกากอาหารที่เหลือ คิดภาพง่ายๆ เหมือนบีบน้ำออกจากฟองน้ำแหละ เหลือแต่กากๆ ก็กลายเป็นอุจจาระไป
-
กล้ามเนื้อคือพนักงานขนส่ง: พอได้กากอาหารแห้งๆ แล้ว กล้ามเนื้อลำไส้ใหญ่ก็ค่อยๆ บีบอัด ส่งต่อให้ลำไส้ตรง เหมือนขนส่งสินค้าไปยังจุดปลายทาง เพื่อรอการขับถ่าย ปีนี้ผมเพิ่งไปตรวจสุขภาพมา หมอบอกระบบขับถ่ายแข็งแรงดี สบายใจไปอีกนาน
-
ข้อมูลเพิ่มเติม: การดูดซึมน้ำและเกลือแร่ในลำไส้ใหญ่เป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้ามันทำงานไม่ดี ก็อาจจะท้องเสีย หรือท้องผูกได้ ปีนี้ผมพยายามทานผักผลไม้เยอะขึ้น เพื่อให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างราบรื่น
งั้นลองนึกภาพลำไส้ใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของร่างกาย รับเศษอาหารเหลือใช้ รีดน้ำออก แล้วส่งมอบให้ห้องน้ำต่อไป งานสำคัญนะเนี่ย!
ลำไส้ใหญ่มีหน้าที่อะไรในระบบย่อยอาหาร
ลำไส้ใหญ่? ไอ้เจ้าท่ออ้วนๆ ยาวแค่เมตรครึ่งนั่นน่ะเหรอ? มันไม่ได้แค่เป็นที่พักขยะอย่างที่ใครๆ คิดนะเฟ้ย! มันเทพกว่านั้นเยอะ!
-
มันเป็นโรงกลั่นน้ำสุดหรู: คิดภาพขยะอาหารที่เหลือจากการปาร์ตี้ในกระเพาะอาหารสิ ลำไส้ใหญ่เนี่ยแหละรับหน้าที่คัดแยกของมีค่า ดูดซับน้ำกลับไปใช้ประโยชน์ เหลือแต่กากๆ ส่งต่อไปเป็นของเสีย ประหยัดน้ำสุดๆ บอกเลย! เหมือนโรงงานรีไซเคิลคุณภาพสูง
-
ฟาร์มวิตามินส่วนตัว: ในนั้นมีแบคทีเรียอยู่เพียบ มันไม่ได้มาทำลายล้างนะ แต่เป็นทีมวิศวกรจุลินทรีย์! ผลิตวิตามินเค วิตามินบี 12 ฯลฯ แจกจ่ายให้ร่างกายเราใช้ฟรีๆ โคตรคุ้ม! เหมือนมีสวนวิตามินส่วนตัวติดบ้านเลย
-
ผู้ควบคุมการขับถ่าย: มันไม่ใช่แค่เก็บกากอาหาร แต่เป็นผู้กำกับการแสดงใหญ่ของการขับถ่าย จัดการความแข็ง ความเหลว กำหนดเวลาให้เข้าห้องน้ำอย่างเป๊ะ ถ้ามันทำงานผิดพลาด เตรียมตัวรับมือกับอาการท้องผูกหรือท้องเสียได้เลย
เห็นมั้ยล่ะ? ลำไส้ใหญ่ไม่ได้เป็นแค่ถังขยะ แต่เป็นโรงงานอัจฉริยะ เป็นฟาร์มวิตามิน และเป็นผู้ควบคุมการขับถ่าย ที่ทำงานหนักเพื่อเราทุกวัน เราควรดูแลมันให้ดีๆ นะ อย่าให้มันอารมณ์เสีย เดี๋ยวจะได้เจอเรื่องแย่ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566):
- การวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับไมโครไบโอต้าในลำไส้ใหญ่ กำลังศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างจุลินทรีย์กับโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคอักเสบในลำไส้ งานวิจัยเหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลสุขภาพลำไส้ใหญ่ของเราไปเลย
- ปัจจุบันมีอาหารเสริมหลายชนิดที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานทุกครั้ง อย่าเชื่อโฆษณาเพ้อเจ้อนะจ๊ะ
ทวารหนัก ทําหน้าที่อะไร ระบบย่อยอาหาร
ทวารหนัก… วงแหวนแห่งการปล่อยวาง
ลมพัดเย็นยะเยือก เดือนตุลาคม ปี 2566 แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมาบนหน้ากระดาษ ฉันนั่งเขียน ความคิดไหลรินดุจสายน้ำ
- หน้าที่หลัก: ปล่อยของเสีย อุจจาระ สิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการแล้ว เหมือนการปลดปล่อย การเริ่มต้นใหม่
อืม… เหมือนการทิ้งสิ่งเก่าๆ เพื่อรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามา ใช่ไหมนะ?
- กายวิภาค: รูเปิด วงกลมเล็กๆ จุดสิ้นสุดของการเดินทางยาวไกลของอาหาร จากปากสู่ทวารหนัก วงจรชีวิต
ฉันนึกถึง การเดินทางครั้งนั้น ของฉันเอง เส้นทางชีวิตที่คดเคี้ยว แต่ก็มาถึงจุดหมายปลายทางได้เสมอ
- ความสำคัญ: การขับถ่าย เป็นเรื่องสำคัญ เป็นกระบวนการธรรมชาติ เหมือนการหายใจ เป็นจังหวะชีวิต
จังหวะช้าๆ เหมือนเสียงนาฬิกาเก่า ติ๊ก… ต๊อก… เวลาผ่านไปช้าๆ แต่ก็แน่นอน
- ที่มาของคำ: จากภาษาลาติน “anus” แปลว่าวงแหวน วงกลม สมบูรณ์แบบ เหมือนจักรวาล
ท้องฟ้าสีคราม กว้างใหญ่ เหมือนความลึกลับของร่างกายมนุษย์ น่าพิศวง ชวนค้นหา
- เพิ่มเติม: โครงสร้างกล้ามเนื้อ ควบคุมการขับถ่าย ความรู้สึก การบีบตัว การผ่อนคลาย
ทุกอย่างลงตัว อย่างน่าอัศจรรย์ ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์เหลือเกิน
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต