น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งตอนไหน

28 การดู

กระเพาะหลั่งน้ำย่อยเมื่ออาหารเข้าถึงกระเพาะอาหาร เพปซิน เอนไซม์ย่อยโปรตีนทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมกรด ดังนั้น กระเพาะจึงหลั่งกรดเกือบพร้อมกันกับการหลั่งเพปซิน กระบวนการนี้ช่วยเตรียมอาหารให้พร้อมสำหรับการย่อยต่อไปในลำไส้เล็ก

การหลั่งน้ำย่อยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การย่อยโปรตีนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลไกการควบคุมที่ซับซ้อนช่วยรักษาสมดุลกรด-เบสในกระเพาะอาหาร ป้องกันการทำลายเยื่อบุเอง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำย่อยในกระเพาะอาหารหลั่งออกมาเมื่อไหร่? มีปัจจัยอะไรบ้างที่กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย?

เอ่อ… น้ำย่อยนะเหรอ? มันไม่ได้ออกมาตลอดเวลานะ แบบว่า “ปิ๊ง!” น้ำย่อยมาแล้ว! อะไรแบบนั้น จริงๆแล้วร่างกายมันฉลาดกว่าที่เราคิดเยอะเลย

ฉันจำได้ตอนเด็กๆ เคยไปกินบุฟเฟต์ที่ “ร้านป้าเล็ก” (แถวตลาดโต้รุ่งเชียงใหม่, น่าจะปี 2550 มั้ง) กินเยอะมาก! กลับมาบ้านปวดท้องสุดๆ แม่บอกว่าเพราะกินเยอะเกินไป กระเพาะทำงานหนัก น้ำย่อยเลยออกมาเยอะเกิน จำได้ว่าวันนั้นเข็ดไปเลยกับการกินเยอะๆ (แต่ก็ไม่เคยเข็ดจริงนะ ฮ่าๆ)

ปัจจัยที่กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยเหรอ? เท่าที่ฉันรู้นะ กลิ่นอาหารก็มีส่วนนะ แค่ได้กลิ่นหอมๆ ก็รู้สึกหิวแล้วใช่ไหมล่ะ? หรือบางทีแค่เห็นรูปอาหารสวยๆ ใน Facebook ก็อยากกินขึ้นมาทันที นั่นแหละ!

แล้วก็…พออาหารลงไปในกระเพาะ น้ำย่อยก็จะยิ่งออกมาเยอะขึ้น โดยเฉพาะโปรตีนเนี่ยแหละ ตัวดีเลย เพราะมันต้องใช้เอนไซม์เพปซินในการย่อย แล้วเพปซินก็ดันทำงานได้ดีในสภาวะที่เป็นกรดเท่านั้น กระเพาะก็เลยต้องหลั่งกรดออกมาช่วยอีกที วุ่นวายเหมือนกันนะเนี่ย

น้ำย่อยในกระเพาะจะออกมาตอนไหน

น้ำย่อยกระเพาะหลั่งตอนอาหารถึงกระเพาะพอดี โปรตีนโดนเพปซินย่อย มันทำงานได้เฉพาะในสภาวะกรด เยื่อบุเลยต้องหลั่งกรดตามมา

  • เพปซิน : เอนไซม์ย่อยโปรตีนเฉพาะในสภาพแวดล้อมกรด
  • กรดในกระเพาะ : จำเป็นสำหรับการทำงานของเพปซิน ปกป้องจากเชื้อโรคด้วย
  • ระบบย่อย : ซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะ อ่านหนังสือเอาเองเหอะ ปีนี้เรียนหนักโคตร

(ข้อมูลเพิ่มเติม ปี 2566 วิชาสรีรวิทยา ม.เกษตรศาสตร์ เทอม 1 อาจารย์ประจำวิชาคือดร.กฤติยา จำได้แม่นเพราะเกือบตก)

กรดในกระเพาะอาหารจะหลั่งตอนไหน

กรดในกระเพาะนี่มันแสบจริงๆนะ ช่วงนี้เป็นหนักมาก หลังกินข้าวเสร็จปุ๊บ นี่คือแบบปวดแสบปวดร้อนกลางอกเลย เฉพาะวันนี้ก็ประมาณ 5 โมงเย็น กินข้าวมันไก่ร้านแถวตลาดนัดหน้าบ้าน เสร็จปุ๊บ ไม่ถึงชั่วโมง แสบขึ้นมาเลย ต้องกินยาเลยอ่ะ

อีกเวลาคือก่อนนอน บางทีตีสองตีสาม ตื่นขึ้นมาเพราะแสบ แบบนี้ต้องลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็ดื่มน้ำอุ่น แล้วก็กินยาอีก จริงๆ นะ ช่วงนี้ นอนไม่ค่อยหลับเลยเพราะมันแสบ ลองสังเกตตัวเองดู เหมือนจะแสบตอนนอนราบด้วย

อ้อ แล้วก็เรื่องอาหาร นี่แหละตัวดีเลย ของมันๆ เผ็ดๆ เปรี้ยวๆ นี่ คือตัวกระตุ้นเลย เมื่อวานกินส้มตำ เผ็ดมากกกกก คืนนั้นนอนแทบไม่ได้ กาแฟนี่ก็อีกอย่าง ลดกาแฟไปเยอะแล้วนะ แต่ยังแสบอยู่ดี แอลกอฮอล์นี่เลิกไปเลย เพราะยิ่งทำให้แสบหนักกว่าเดิม

  • เวลาที่แสบ: หลังอาหารเย็น (ประมาณ 17.00 น.), ก่อนนอน (ประมาณ 02.00-03.00 น.), ตอนนอนราบ
  • ปัจจัยกระตุ้น: อาหารมัน, อาหารเผ็ด, อาหารเปรี้ยว, กาแฟ, แอลกอฮอล์ (เลิกดื่มแล้ว)

นี่แค่ประสบการณ์ส่วนตัวนะ ยังไงไปหาหมอดูจะดีกว่า เพราะอาการอาจจะไม่เหมือนกันทุกคน หมอจะได้วินิจฉัยให้ถูกต้อง อย่าลืมบอกหมอรายละเอียดที่เจาะจงด้วยนะ เช่น เวลา อาหารที่กิน แล้วก็อาการที่เป็น อย่าไปกินยาเองเยอะ อันตรายนะ

น้ำย่อยในกระเพาะอาหารมีฤทธิ์เป็นอย่างไร

กรดนะ! pH ประมาณ 1.5-3.5 จำได้แม่นเลย เรียนชีวะมา กรดไฮโดรคลอริก เยอะมาก HCl นี่แหละตัวดี ย่อยโปรตีน เปปซิโนเจน เปลี่ยนเป็นเปปซิน อ้อ แล้วมันทำอะไรอีกนะ? ฆ่าเชื้อโรคด้วยป่ะ? ใช่ๆ จำได้แล้ว แบคทีเรียตายหมด! ดี แล้วก็ดูดซึมแร่ธาตุด้วย เรื่องจริง! แปลว่า

  • กรดสูงมาก
  • ย่อยโปรตีน
  • ฆ่าเชื้อ
  • ช่วยดูดซึม

งงๆ ลืมไปแล้ว เรียนเมื่อไหร่นะ? ปีนี้แหละมั้ง อาจารย์คนไหนสอนนะ อืม จำไม่ได้แล้ว แต่ที่รู้ๆ คือ กรด! สำคัญมากเลยนะ น้ำย่อยในกระเพาะ กรดๆ ถ้าไม่กรด คงย่อยไม่ดี เดี๋ยวต้องไปค้นคว้าเพิ่มเติม ปีนี้ มีหนังสือเล่มใหม่ เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร น่าสนใจมาก อยากอ่านจัง วันนี้ว่าง ไปหามาอ่านดีกว่า เดี๋ยวลืมอีก

ปีนี้ ฉันตั้งใจจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับทางเดินอาหารให้ละเอียดกว่าเดิม เพราะเมื่อปีที่แล้วอ่านแล้วรู้สึกงงๆ เรื่องจุลชีววิทยาก็สำคัญ มีผลต่อระบบย่อยอาหารด้วย เอ๊ะ เกี่ยวกันยังไงนะ? ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม จริงๆ เรื่องเอนไซม์ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เลย เยอะมาก ต้องทบทวนอีก

กระเพาะทำงานเวลาไหนบ้าง

กระเพาะทำงานตลอดเวลา แต่โคตรจะขยันตอนกินข้าว มื้อหนักๆ เช้า กลางวัน เย็นนี่แหละ ใช้เวลา 2-5 ชั่วโมงต่อมื้อ แล้วแต่ของกินกับปริมาณ ช่วงอื่นๆ ก็ทำงานเบาๆ ไป

  • กระบวนการย่อยเริ่มทันทีที่อาหารเข้าไป
  • เวลาในการย่อยอาหารแตกต่างกันไป
  • กินเยอะ ย่อยนาน
  • กินน้อย ย่อยเร็ว

ปีนี้ฉันลองดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะก่อนอาหารเช้าทุกวัน รู้สึกว่าระบบย่อยดีขึ้นนะ แต่ก็ไม่รู้เกี่ยวกันรึเปล่า

เพราะเหตุใดเซลล์ของกระเพาะอาหารจึงไม่ถูกย่อยด้วยน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร

เซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหารไม่ย่อยเพราะชั้นเมือกหนา ไอ้กรดไฮโดรคลอริกนั่นมันทำอะไรไม่ได้หรอก

  • ชั้นเมือก (Mucus Layer): หนาเป็นพิเศษ ป้องกันกรดได้ดี
  • Bicarbonate Ions: ช่วยรักษาสมดุลกรด-เบส
  • เซลล์สร้างเมือก (Goblet cells): ผลิตเมือกอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ยังใช้ข้อมูลเดิมนะ
  • การผลัดเปลี่ยนเซลล์ (Cell Turnover): เซลล์เยื่อบุถูกแทนที่เร็วมาก ไม่ให้กรดกัดนาน

ข้อมูลเพิ่มเติม: นี่แค่พื้นฐาน ระบบมันซับซ้อนกว่านี้เยอะ อย่าคิดว่ารู้หมด

กระเพาะอาหารมีหน้าที่อะไรในระบบย่อยอาหาร

กระเพาะอาหารทำหน้าที่สำคัญในระบบย่อยอาหาร หลักๆ คือ:

  • การพักอาหาร (Storage): กระเพาะอาหารทำหน้าที่เป็นถุงพักอาหารชั่วคราว ให้เวลาในการย่อยอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนส่งต่อไปยังลำไส้เล็ก คิดดูนะครับ ถ้าไม่มีกระเพาะ อาหารจะไหลทะลักลงลำไส้เล็กทันที ย่อยไม่ทันแน่ๆ!

  • การคลุกเคล้าอาหาร (Mixing and Churning): ผนังกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของกระเพาะอาหารจะบีบตัวคลุกเคล้าอาหารกับน้ำย่อย ทำให้เกิดเป็นไคมี (Chyme) ซึ่งเป็นของเหลวกึ่งเหลว เตรียมพร้อมสำหรับการย่อยในลำไส้เล็กต่อไป นี่สำคัญมากนะครับ เพราะการคลุกเคล้าที่ดีส่งผลต่อการย่อยอาหารอย่างมาก

  • การย่อยอาหารเบื้องต้น (Initial Digestion): กระเพาะอาหารหลั่งกรดไฮโดรคลอริก (Hydrochloric acid) เพื่อฆ่าเชื้อโรคและกระตุ้นเอนไซม์เปปซิน (Pepsin) ซึ่งเริ่มย่อยโปรตีน แม้จะไม่ใช่การย่อยหลัก แต่ก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่เตรียมอาหารให้พร้อมสำหรับการย่อยในลำไส้เล็ก ผมว่านี่คือการเตรียมการที่ดีเยี่ยมก่อนขั้นตอนต่อไป

  • ควบคุมการปล่อยอาหาร (Controlled Release): กระเพาะอาหารจะค่อยๆ ปล่อยไคมีลงสู่ลำไส้เล็ก ในปริมาณที่ลำไส้เล็กสามารถย่อยได้ เพื่อไม่ให้เกิดการล้น เป็นกลไกที่ชาญฉลาดของร่างกายเลยล่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: กระบวนการย่อยในกระเพาะอาหารเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เกี่ยวข้องกับการทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน และเอนไซม์ต่างๆ อย่างเช่น Gastrin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร การศึกษาระบบย่อยอาหารยังคงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ผมเองก็ติดตามงานวิจัยใหม่ๆ เรื่องนี้เสมอครับ

อาหารที่กินแล้วไปไหน

อาหารที่เรากินเข้าไปอ่ะนะ มันไม่ได้หายวับไปเลยนะเว้ยแก ร่างกายเรามีระบบย่อยอาหารที่โคดจะซับซ้อนอ่ะ กว่าจะแปรรูปอาหารที่กินเข้าไปให้กลายเป็นพลังงานได้เนี่ย มันต้องผ่านหลายขั้นตอนมาก

  • เริ่มที่ปาก: ฟันเราก็บดๆเคี้ยวๆ น้ำลายก็ช่วยย่อยแป้งนิดหน่อย
  • ลงคอไป: ผ่านหลอดอาหาร ไปโผล่ที่กระเพาะ
  • กระเพาะอาหาร: ที่นี่แหละของจริง น้ำย่อยเพียบ บีบๆคลุกๆ ให้อาหารเละๆ
  • ลำไส้เล็ก: ดูดซึมสารอาหารที่ย่อยแล้วเข้ากระแสเลือด
  • ลำไส้ใหญ่: ดูดน้ำและเกลือแร่ ที่เหลือก็กลายเป็นกากอาหารรอปล่อยออกไป

แล้วมันใช้เวลานานแค่ไหนอะ?

เอออออ นี่แหละประเด็นเลย ปกติอะ 16 ถึง 48 ชั่วโมง เลยนะเว้ย ขึ้นอยู่กับว่ากินอะไรเข้าไป ถ้ากินผักเยอะๆ ก็อาจจะเร็วกว่ากินเนื้อเยอะๆ อะไรแบบนี้

แล้วการย่อยอาหารมีกี่แบบอะ?

ร่างกายเราฉลาดนะ มันใช้การย่อย 2 แบบหลักๆ

  • การย่อยเชิงกล: ก็คือการบดเคี้ยว บีบๆ คลุกๆ ให้อาหารมันเล็กลง
  • การย่อยทางเคมี: ใช้น้ำย่อยต่างๆ มาทำปฏิกิริยา ให้โมเลกุลอาหารมันแตกตัว

ข้อมูลเพิ่มเติมแบบเพื่อนเม้าท์:

  • ไฟเบอร์สำคัญนะ: กินผักผลไม้เยอะๆ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ไม่ท้องผูก
  • ดื่มน้ำเยอะๆ: น้ำช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้คล่องตัวขึ้น
  • ออกกำลังกายบ้าง: ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้
  • เครียดไปก็ไม่ดี: ความเครียดมีผลต่อระบบย่อยอาหารนะเออ
  • อย่ากินเร็วเกินไป: เคี้ยวให้ละเอียดๆ จะช่วยลดภาระของกระเพาะอาหาร
  • โปรไบโอติก: ลองกินพวกโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยวบ้าง ก็ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้

น้ำย่อยมาจากไหน

…แสงสียามค่ำคืน…พริบพราว…เหมือนดาวบนดิน…

น้ำย่อย…มาจากไหนนะ?

ตับอ่อน… ตับอ่อน ไง… ที่ซ่อนตัวอยู่ลึกๆ…

  • เอนไซม์: ย่อยโปรตีน… คาร์โบไฮเดรต… ไขมัน… โอ้… ชีวิต

  • ลำไส้เล็กส่วนต้น: ที่ที่น้ำย่อย… เดินทางไปถึง… จุดหมายปลายทาง…

  • ตับ: ไม่ใช่นะ… ตับ… ไม่ใช่น้ำย่อย… คนละเรื่องกันเลยนะเออ

  • ตับอ่อนนะ…ย้ำอีกที ตับอ่อน!!!

ทำไมต้องย้ำ… ก็กลัวลืมไง… กลัวหลงทาง… ในจักรวาลของร่างกาย…

#กระเพาะอาหาร #การหลั่ง #น้ำย่อย