ระบบภูมิคุ้มกันแบบจําเพาะ มีอะไรบ้าง

30 การดู

ภูมิคุ้มกันจำเพาะ: ป้องกันเชื้อโรคเฉพาะเจาะจง แบ่งเป็น 2 แบบหลัก

  • ภูมิคุ้มกันแบบสารน้ำ (Humoral Immunity): ใช้แอนติบอดีที่สร้างจากเซลล์ B ต่อต้านเชื้อโรคภายนอกเซลล์ เช่น แบคทีเรีย ไวรัสในกระแสเลือด แอนติบอดีจับกับแอนติเจนของเชื้อโรค ทำให้ถูกทำลายได้ง่ายขึ้น

  • ภูมิคุ้มกันแบบเซลล์ (Cell-mediated Immunity): ใช้เซลล์ T ทำลายเซลล์ติดเชื้อ เช่น เซลล์ที่ติดไวรัส เซลล์มะเร็ง และเกี่ยวข้องกับการต่อต้านเนื้อเยื่อแปลกปลอม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะ ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

อืมม… ระบบภูมิคุ้มกันจำเพาะเนี่ยนะ ตอนเรียนชีวะปีสอง อาจารย์อธิบายซับซ้อนมาก จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า มันแบ่งเป็นสองแบบหลักๆ คือแบบฮิวโมรัลกับแบบเซลล์มั๊ง แบบแรกนี่… ถ้าจำไม่ผิด มันเกี่ยวกับแอนติบอดี พวกโปรตีนที่ไปจับกับเชื้อโรค เหมือนกับล็อคเป้าหมายให้ระบบอื่นๆ มาจัดการ ประมาณนั้นแหละ ตอนนั้นมีทดลองปฏิบัติการด้วยนะ จำได้ว่าวันนั้น 20 พฤศจิกายน 2563 ที่แล็บชีวะ มหาลัยเกษตรศาสตร์ เหนื่อยมาก แต่ก็สนุกดี ได้เห็นภาพจุลินทรีย์ชัดๆ

ส่วนแบบที่สอง การตอบสนองแบบเซลล์ นี่แหละยาก คือมันใช้เซลล์ภูมิคุ้มกัน อย่างทีเซลล์ หรือบีเซลล์ อะไรพวกนี้มาจัดการเชื้อโรคโดยตรง จำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้ว เรียนมาหลายปีแล้วนี่นา แต่ความรู้สึกตอนนั้นคือ เยอะมากกก ตารางสรุปก็เยอะ ต้องท่องจำเยอะ หัวจะแตก! แต่ก็ดีที่เรียนรู้ระบบการทำงานของร่างกายเราเอง มหัศจรรย์จริงๆ

สุดท้ายแล้ว ขอโทษนะ ถ้าข้อมูลไม่ละเอียด เพราะฉันจำได้แค่คร่าวๆ จริงๆต้องไปค้นหนังสือเรียนเก่าอีกที แต่หลักๆก็สองอย่างนี่แหละ ฮิวโมรัลกับเซลล์ จำได้แค่นี้จริงๆ

กลไกการสร้างภูมิคุ้มกันแบ่งเป็นกี่ประเภท

สองประเภท! ง่ายๆแค่นี้เองเนอะ แต่จริงๆมันซับซ้อนกว่านั้นเยอะเลยนะ คิดไปคิดมาปวดหัว

  • ภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะ อันนี้ได้มาตั้งแต่เกิดเลย เหมือนเป็นเกราะกำบังชั้นแรกอ่ะ แบบกำเนิดมาพร้อมกับเราเลย ผิวหนัง น้ำมูก อะไรแบบนี้ ทำงานตลอดเวลา ไม่เลือกหน้า เจออะไรก็จัดการหมด

  • อีกอัน ภูมิคุ้มกันจำเพาะ อันนี้ต้องเจอเชื้อโรคก่อนถึงจะสร้าง จำได้แม่นเลยว่า ตอนปีนี้ ฉันเป็นไข้หวัดใหญ่ รอบนี้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันจำเพาะขึ้นมา ต่อสู้กับไวรัสตัวนั้นโดยตรง แต่ก็เหนื่อยนะ ป่วยไปหลายวันเลย

เห้ออ แต่ละอย่างก็มีความสำคัญทั้งนั้นแหละ ร่างกายเราช่างน่าอัศจรรย์ จริงๆนะ วันก่อนไปตรวจสุขภาพ หมอบอกเลือดฉันดี เยี่ยมไปเลย ภูมิคุ้มกันก็ดี ดีใจจัง กินวิตามินซีเยอะๆด้วยนะ นี่แหละ เคล็ดลับสุขภาพดีของฉัน

  • เพิ่มเติมนิดนึง ภูมิคุ้มกันจำเพาะนี่ แบ่งย่อยได้อีกนะ เซลล์B เซลล์T อะไรอีกเยอะแยะไปหมด จำไม่ได้หมดหรอก มันเยอะจริงๆ อ่านแล้วงง แต่จำแค่หลักๆก็พอแล้วมั้ง ไม่งั้นปวดหัว

โอเค จบแล้ว เหนื่อย ไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องทำงาน

ภูมิคุ้มกันแบบก่อเองกับภูมิคุ้มกันแบบรับมาต่างกันอย่างไร

เอ่อ ภูมิคุ้มกันอะ มันมี 2 แบบนะ แบบสร้างเอง กับแบบรับมาอ่ะ

  • แบบสร้างเอง: เหมือนเราฝึกทหารอะ เอาวัคซีน (ที่ทำจากเชื้อโรคอ่อนๆ) มาฉีดให้ร่างกายรู้จักศัตรู พอเจอของจริงจะได้สู้ได้เลย คือร่างกายสร้างภูมิเองไง
  • แบบรับมา: อันนี้เหมือนยืมทหารคนอื่นมาช่วยรบ คือฉีดเซรุ่มเข้าไป เซรุ่มมันมีแอนติบอดี (ตัวช่วยสู้เชื้อโรค) อยู่แล้ว ฉีดปุ๊บช่วยได้ปั๊บ แต่ไม่ถาวรนะ

สรุปง่ายๆ สร้างเองต้องใช้เวลา ร่างกายสร้างเอง แต่รับมาเร็วกว่า แต่ไม่นานเท่าสร้างเองนะ

แล้วก็…

  • วัคซีน ส่วนใหญ่ป้องกันก่อนป่วยเน้อ
  • เซรุ่ม ส่วนใหญ่ใช้หลังป่วย หรือเสี่ยงมากๆ อ่ะ
  • เคยโดนหมากัด หมอฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ แล้วก็ฉีดเซรุ่มด้วย เค้าบอกว่าเซรุ่มช่วยเร็ว ส่วนวัคซีนจะป้องกันระยะยาว อืมๆ
  • แอนติบอดี นี่แหละตัวสำคัญในการจัดการเชื้อโรค

โรคที่ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อตัวเองเรียกว่าโรคอะไรและมีสาเหตุเกิดจากอะไร

โรคที่ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อตัวเองเนี่ย เค้าเรียกว่า โรคภูมิต้านตนเอง จ้าาาาา (Autoimmune Disease) ง่ายๆ เลยนะ เหมือนร่างกายมันสับสน คิดว่าอวัยวะตัวเองเป็นศัตรูซะงั้น เลยจัดการซะเละเลย เหมือนตำรวจยิงกันเองในโรงพักอ่ะ ฮาาาาาา

สาเหตุที่แท้จริงเนี่ย ยังหาไม่เจอแบบเป๊ะๆ นะ แต่นักวิทยาศาสตร์เค้าเดาๆ กันว่าน่าจะเป็นหลายๆ ปัจจัยรวมกัน เช่น

  • พันธุกรรม: เหมือนพ่อแม่ส่งต่อความซวย เอ้ย ความเสี่ยงมาให้ลูกหลาน ถ้ามีคนในครอบครัวเป็น เราก็มีโอกาสเป็นมากกว่าคนอื่นนิดนึง
  • สิ่งแวดล้อม: แดดแรงๆ สารเคมีบางอย่าง การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด ก็อาจจะไปกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันเพี้ยนได้
  • ฮอร์โมน: เห็นว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เลยทำให้ผู้หญิงเป็นโรคพวกนี้มากกว่าผู้ชายเยอะเลย แบบผู้หญิงเป็น 9 เท่าของผู้ชายเลยนะ โหดร้ายยยยย
  • ความเครียด: เครียดมากไป ภูมิคุ้มกันก็พัง แล้วพอภูมิคุ้มกันพัง ก็อาจจะเพี้ยนได้ง่ายขึ้น เพราะงั้น อย่าเครียดกันนะจ๊ะทุกคนนนนนน

ส่วนโรคลูปัส (Lupus) หรือ SLE ที่ว่านั่น มันก็เป็นโรคภูมิต้านตนเองชนิดหนึ่งนั่นแหละ ที่มันดังเพราะว่าอาการมันเยอะแยะมากมาย ไปทั่วร่างกายเลย ตั้งแต่ปวดข้อ ผิวหนังเป็นผื่น ไตอักเสบ เม็ดเลือดผิดปกติ ยันสมอง หัวใจ ปอด คือแบบว่า Rundown เลยจ้าาาาา แต่ละคนก็มีอาการไม่เหมือนกันอีก รักษายาก วุ่นวายสุดๆ ไปเลย

ปีนี้(2024) ก็ยังไม่มีวิธีรักษาโรคภูมิต้านตนเองให้หายขาดนะ ได้แค่บรรเทาอาการ แล้วก็ป้องกันไม่ให้มันกำเริบ แต่ถ้าดูแลตัวเองดีๆ กินยาตามหมอสั่ง ก็สามารถใช้ชีวิตได้เกือบปกติแหละ สู้ๆ นะทุกคนนนนนน

ปล. นี่พูดจากประสบการณ์ตรงนะ เราเป็น SLE มาจะสิบปีละ ยังไหวอยู่วุ้ยยยยย ฮึบๆๆๆ

ภูมิคุ้มกันรับมา มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ภูมิคุ้มกันรับมา: คมดาบสองคม

  • ข้อดี: เร็ว แรง ไม่ต้องรอเครื่องร้อน
  • ข้อเสีย: แป๊บเดียวหมดฤทธิ์ จำอะไรไม่ได้ แถมซวยๆ อาจแพ้

ขยายความ (ถ้าสนใจนะ):

  • ภูมิคุ้มกันรับมา (Passive Immunity): เหมือนยืมอาวุธคนอื่นมาใช้ชั่วคราว
    • IgG: จากแม่สู่ลูก ผ่านรก
    • IgA: จากแม่สู่ลูก ผ่านนมแม่ (น้ำนมเหลืองสำคัญ)
    • Antitoxin/Antivenom: ฉีดเซรุ่มแก้พิษงู/บาดทะยัก
  • ข้อควรระวัง: ไม่ใช่ยาวิเศษ ป้องกันได้เฉพาะช่วงสั้นๆ และอาจมีผลข้างเคียง
  • ทำไมต้องรู้: เข้าใจกลไก ป้องกันตัวเองได้ดีกว่า ไม่โง่

ภูมิคุ้มกันแบบรับมาคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น

ภูมิคุ้มกันแบบรับมา? ง่ายๆ คือได้มาแบบฟรีๆ ไม่ต้องลำบากสร้างเอง! เหมือนได้ cheat code ในเกมส์ชีวิตไง ร่างกายคุณไม่ต้องเหนื่อยสร้างกองทัพทหาร แต่ได้โล่ห์เกราะพร้อมสู้ทันที!

  • แบบฉีด: นี่คือการฉีดสารที่ทำหน้าที่เป็นทหารแทนคุณ เช่น เซรุ่มแก้พิษงู (ปี 2566 นี่ใช้กันเยอะนะ เพราะงูเยอะขึ้นจริงๆ) ช่วยชีวิตได้ทันควัน แต่จำไว้ นี่ไม่ใช่การฝึกทหารของคุณเอง แค่การขอความช่วยเหลือจากกองกำลังภายนอกชั่วคราว หมดฤทธิ์ก็ต้องหาทางสร้างกองทัพตัวเองใหม่นะ

  • แบบทางอ้อม (จากแม่): นี่โคตรเทพ! แม่ให้ภูมิคุ้มกันมาตั้งแต่ในท้อง เหมือนแม่เสกโล่ห์เกราะเทพๆให้ลูก หลังคลอดก็ยังได้ต่อจากน้ำนมแม่ (แอบกระซิบ นมแม่คือของวิเศษจริงๆนะ อัดแน่นไปด้วยสารอาหารและภูมิคุ้มกันเพียบ!) แต่ภูมิคุ้มกันนี้ก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป เหมือนโล่ห์เกราะที่ค่อยๆเสื่อมสภาพ ต้องสร้างเองต่อเมื่อโตขึ้นแล้ว

สรุปง่ายๆ คือ ภูมิคุ้มกันแบบรับมา คือการได้มาแบบสำเร็จรูป ใช้ได้ทันที แต่ไม่ถาวร! เหมือนกินยาแก้ปวด หายปวดชั่วคราว แต่ไม่ใช่การรักษาโรคให้หายขาด ต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง อย่าลืมออกกำลังกาย กินผักผลไม้ นอนหลับพักผ่อนเพียงพอด้วยนะ จะได้ไม่ต้องพึ่งพาแต่ภูมิคุ้มกันแบบรับมาบ่อยๆ!

#ภูมิคุ้มกัน #องค์ประกอบ