ร่างกายรู้ได้ยังไงว่ากี่โมง
ร่างกายรู้เวลาผ่าน "นาฬิกาชีวภาพ" ในสมองส่วนไฮโปทาลามัส (SCN) SCN ตอบสนองต่อแสง-ความมืด ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน อุณหภูมิ ความดันโลหิต การนอนหลับ และกระบวนการต่างๆ ให้สอดคล้องกับวงจร 24 ชั่วโมง แม้ไม่มีแสง SCN ยังทำงาน แต่แสงแดดช่วยให้แม่นยำขึ้น
ร่างกายเรารับรู้เวลาอย่างไร? กลไกชีวภาพภายในที่ทำให้เรารู้สึกถึงเวลากลางวันและกลางคืน?
เรื่องเวลานี่นะ มันแปลกๆอ่ะ จำได้ตอนเรียนชีวะมหาลัยปี 3 อาจารย์อธิบายเรื่องนาฬิกาชีวภาพ SCN อะไรนั่นแหละ อยู่ไฮโปทาลามัส ฟังดูซับซ้อนมาก แต่ก็พอเข้าใจ คือมันเป็นกลุ่มเซลล์รับรู้แสง แล้วก็ส่งสัญญาณไปทั่วร่างกาย ให้รู้ว่าตอนนี้กลางวันหรือกลางคืน งงๆอยู่พักนึงเลย
จริงๆนะ ฉันเคยลองนอนดึกติดต่อกันหลายวัน แบบตี 3 ตี 4 ทุกวัน ช่วงนั้นเรียนหนักมาก สอบเข้ามหาลัยด้วย ผลคือ ร่างกายพังเลย แบบเวียนหัว ปวดหัว นอนไม่หลับ กินอะไรก็ไม่ลง สุดท้ายก็ต้องไปหาหมอ หมอบอกว่านาฬิกาชีวภาพฉันมันพัง เพราะรบกวนจังหวะการหลั่งเมลาโทนิน จำได้ว่าหมอให้ยาอะไรสักอย่าง แล้วก็แนะนำให้ปรับเวลานอนให้เป็นปกติ คือมันก็จริงนะ พอนอนเป็นเวลา ทุกอย่างก็กลับมาปกติ
แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ แม้ไม่มีแสง SCN มันก็ยังทำงานได้ แต่ไม่แม่นยำเท่า เหมือนมันมีจังหวะของมันอยู่แล้ว แต่แสงนี่แหละที่ช่วยเซ็ตให้ตรง ประมานว่าเหมือนเราตั้งนาฬิกาอะ ต้องมีแสงแดดช่วย จำได้ตอนไปเที่ยวทะเลภูเก็ต ปีที่แล้ว วันที่ 21 ธันวาคม ตื่นเช้ามา อากาศดีมาก รู้สึกสดชื่น เหมือนร่างกายถูก reset นอนหลับสบายมาก สงสัยเป็นเพราะแสงแดดเต็มๆ ช่วยปรับนาฬิกาชีวภาพ ให้กลับมาปกติ หลังจากที่ฉันใช้ชีวิตอยู่ในเมือง อยู่แต่ในห้องมืดๆ มาหลายเดือน ฉันรู้สึกได้เลยว่า ร่างกายมันมีความรู้สึกไวต่อเวลามากกว่าที่ฉันคิด มันสัมพันธ์กับแสงแดดอย่างเห็นได้ชัด บางที การใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ อาจช่วยปรับสมดุลนาฬิกาชีวภาพ ได้ดีกว่าที่คิดก็ได้นะ
ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองตอนไหน
ร่างกายซ่อมแซมตัวเองตอนหลับสนิทนี่แหละ! เหมือนช่างซ่อมคอมฯ กลางคืน เค้าถึงได้มาล้างข้อมูลเก่าๆ อัพเดทระบบ กำจัดไวรัส (พวกเซลล์เสื่อมสภาพนั่นแหละ) ถ้าไม่งั้นนะ เตรียมรับมือกับอาการคอมรวน! เครื่องพัง! คือร่างกายพังไงล่ะ!
-
ตอนนอนหลับสนิท: ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ช่วยซ่อมแซมเซลล์ สร้างเซลล์ใหม่ เหมือนชาร์จแบตมือถือให้เต็ม 100% ถ้าแบตไม่เต็ม ก็ทำงานได้ไม่เต็มที่สิ!
-
ถ้าเครียด นอนน้อย: เหมือนเอาค้อนไปทุบคอมฯ แล้วไม่ยอมปิดเครื่อง ระบบล่มแน่นอน! ฮอร์โมนความเครียดจะก่อกวนกระบวนการซ่อมแซม เหมือนไวรัสคอมฯ ที่ทำงานตลอดเวลา ร่างกายเลยไม่ทันได้ซ่อมแซม เสี่ยงป่วยง่ายขึ้น อายุสั้นลงอีกต่างหาก! เห็นไหมล่ะ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอสำคัญขนาดไหน!
ปีนี้ผมอายุ 35 ปีแล้วนะ รู้ตัวดีว่าการนอนหลับสำคัญแค่ไหน เพราะผมเคยลองนอนดึกๆ ทำงานหนักๆ แล้วร่างกายส่งสัญญาณเตือนด้วยอาการป่วยบ่อยๆ เลยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นี่แหละคือบทเรียนราคาแพง!
เพราะเหตุใดเซลล์ของกระเพาะอาหารจึงไม่ถูกย่อยด้วยน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
โอ้ยยยยย ถามได้แสบทรวงยิ่งกว่าพริกขี้หนูสวน กระเพาะเนี่ยนะ โดนน้ำย่อยตัวเองย่อย? คิดว่าเป็นปลาปิรันย่ารุมกินโต๊ะจีนเรอะ! 😂 มันมีเกราะป้องกันเว้ยเฮ้ย! เหมือนชุดเกราะอุลตร้าแมน ไม่ใช่เกราะสามก๊กกระป๋องๆ นะ มันคือชั้นเมือกกกกก หนาเป็นพิเศษ เคลือบไว้แน่นปึ๊ก! ยิ่งกว่าทาครีมกันแดด SPF ล้าน แถมยังมีเซลล์ที่ผลิตเมือกใหม่อยู่เรื่อยๆ อีกต่างหาก เรียกว่าระบบป้องกันภัยขั้นเทพ น้ำย่อยจะแรงแค่ไหนก็เอาไม่อยู่หรอก เหมือนมดกัดเสาไฟฟ้า ไม่มีผล! จึ๋ยๆ 😜
- เกราะป้องกันขั้นเทพ: ชั้นเมือกหนาๆ ที่เคลือบกระเพาะอาหารไว้ เหมือนกำแพงเมืองจีน ที่ขวางกั้นน้ำย่อยไม่ให้สัมผัสกับผนังกระเพาะโดยตรง ชั้นเมือกเนี่ย มันไม่ธรรมดานะ เพราะมันมี Bicarbonate เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นเบส ช่วยต่อกรกับกรดในน้ำย่อยได้อย่างดีเยี่ยม
- ระบบซ่อมแซมตัวเองอัจฉริยะ: ผนังกระเพาะอาหารสามารถสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่สึกหรอได้อย่างรวดเร็ว เหมือนโดนมีดบาด แป๊บเดียวก็หาย! ไวกว่า 4G แน่นอน
- การไหลเวียนของเลือด: เลือดที่ไหลเวียนในกระเพาะอาหารก็มีส่วนช่วยในการป้องกันการย่อยตัวเองด้วยนะ มันจะคอยพัดพาเอาสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงเซลล์ผนังกระเพาะ ทำให้เซลล์แข็งแรง สู้ตาย!
ปล. ถ้าระบบป้องกันเหล่านี้พลาด ก็คือเป็นแผลในกระเพาะอาหารนั่นเอง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย การใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เป็นประจำ และความเครียด ดังนั้นดูแลสุขภาพกระเพาะกันด้วยเด้อออ กินข้าวให้ตรงเวลา อย่าเครียดมาก เดี๋ยวจะพังเอา! 😌
ถ้าระบบย่อยอาหารทํางานผิดปกติ จะเกิดผลอย่างไร
โอ๊ยยยย เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง แม่ฉันนี่แหละ มีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร หนักมาก กินอะไรก็ไม่ค่อยลง ท้องอืดตลอดเวลา ยิ่งตอนเย็นๆ หลังกินข้าวเสร็จปุ๊บ ท้องนี่แน่นจุกเลย เหมือนมีก้อนหินอัดแน่นอยู่ข้างใน บางทีก็ปวดจี๊ดๆ แถวๆ ท้องน้อยด้วย ไม่ใช่แค่ท้องอืดนะ ยังมีเรอบ่อยๆ อีก บางทีเรอออกมาเหม็นเปรี้ยวด้วย เหม็นมาก ฉันนี่ต้องรีบเปิดหน้าต่างเลย แล้วก็ผายลมบ่อยมากกกกก จนตัวเองยังอายเลย
หนักสุดคือ ท้องผูกสลับกับท้องเสีย บางวันท้องผูกจนถ่ายไม่ออก อีกวันก็ท้องเสีย วิ่งเข้าห้องน้ำทั้งวัน เหนื่อยมาก น้ำหนักก็ลดลงไปหลายโล กินเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น ดูโทรมลงไปเยอะเลย ไปหาหมอที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จังหวัดชัยภูมิ หมอบอกว่า ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ต้องระวังเรื่องอาหารการกิน งดของมัน ของทอด ของแสลง ต้องกินอาหารอ่อนๆ กินให้เป็นเวลา หมอให้ยามาด้วย ตอนนี้แม่ฉันก็ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องดูแลตัวเองอย่างระมัดระวังอยู่
- ท้องอืด
- ท้องเฟ้อ
- แน่นจุกเสียดท้อง
- เรอบ่อย เรอเปรี้ยว
- ผายลมบ่อย
- ท้องเสียสลับท้องผูก
- น้ำหนักลด
ปีนี้เลยต้องระวังเรื่องอาหารการกินของตัวเองมากขึ้น กลัวจะเป็นเหมือนแม่ เครียดเลย!
น้ำย่อยในกระเพาะอาหารมีฤทธิ์เป็นอย่างไร
จำได้ตอนเรียนชีวะปีนี้ อาจารย์อธิบายเรื่องระบบย่อยอาหาร ตอนนั้นหัวข้อน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร คือจำได้แม่นเลยว่า pH มันต่ำมาก ประมาณ 1.5-3.5 กรดมากกก เป็นกรดไฮโดรคลอริก HCl นั่นแหละ มันทำให้กระเพาะเราเป็นกรดสูงไง ถึงได้แสบเวลาเป็นแผลกระเพาะ
ตอนนั้นนั่งฟังแล้วก็คิด กรดขนาดนี้มันทำอะไรได้บ้างวะ อาจารย์บอกว่ามันช่วยย่อยโปรตีน เปลี่ยนเปปซิโนเจนให้เป็นเปปซิน เอนไซม์ที่ย่อยโปรตีน แล้วก็ฆ่าเชื้อโรคในอาหารด้วย จำได้ว่าอาจารย์ยกตัวอย่าง ถ้ากินอาหารไม่สะอาด กรดในกระเพาะก็ช่วยกำจัดเชื้อโรคได้ระดับนึง ช่วยเรื่องดูดซึมแร่ธาตุด้วย จำไม่ได้ว่าแร่ธาตุอะไรบ้าง แต่จำได้ว่ามี
- pH 1.5-3.5 กรดมาก
- กรดไฮโดรคลอริก (HCl) ตัวสำคัญ
- ย่อยโปรตีน เปลี่ยนเปปซิโนเจนเป็นเปปซิน
- ฆ่าเชื้อโรค
- ช่วยดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด
อืมม… ตอนนั้นง่วงมาก อาจารย์พูดเร็วด้วย เลยไม่ได้จดละเอียด แต่จำได้แค่นี้แหละ เรื่องระบบย่อยอาหารนี่ ถ้าไม่เรียนจริงๆก็ลืมง่าย ฮ่าๆๆ จำได้แค่พอเล่าได้ แต่รายละเอียดปลีกย่อย ลืมไปหมดแล้ว
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต