กรนแบบไหนควรหาหมอ

10 การดู

หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าหรือเซื่องซึมในระหว่างวัน แม้ว่าจะนอนหลับเพียงพอแล้ว อาจเป็นสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากคุณกรนร่วมกับอาการนี้ ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจสอบและการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กรน…เรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่? เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?

เสียงกรนเป็นเรื่องธรรมดาที่พบได้ในหลายคน บางคนกรนเบาๆ บางคนกรนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่เสียงกรนที่มากกว่าแค่เสียงรบกวนนั้น อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ดังนั้น การรู้จักสังเกตและแยกแยะว่าเมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

หลายคนมองข้ามเสียงกรน คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่แก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนท่านอนหรือใช้เครื่องช่วยหายใจแบบง่ายๆ แต่ความจริงแล้ว เสียงกรนสามารถบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea – OSA) ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายและส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้

กรนแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์?

ไม่ใช่แค่เสียงกรนที่ดังเท่านั้นที่น่ากังวล ควรไปพบแพทย์ทันทีหากคุณหรือคนใกล้ชิดสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ร่วมกับเสียงกรน:

  • หยุดหายใจขณะหลับ: คนรอบข้างสังเกตเห็นว่าคุณหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ในขณะหลับ หรือคุณรู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวกขณะนอนหลับ นี่เป็นสัญญาณอันตรายของ OSA ที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง
  • ง่วงซึมระหว่างวันอย่างไม่ทราบสาเหตุ: แม้ว่าจะนอนหลับเพียงพอแล้ว แต่ยังรู้สึกเหนื่อยล้า เซื่องซึม ไม่มีสมาธิ หรือหลับง่ายในระหว่างวัน นี่อาจเป็นอาการของการนอนหลับไม่สนิท ซึ่ง OSA เป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ
  • ปวดหัวบ่อยๆ โดยเฉพาะตอนเช้า: การขาดออกซิเจนขณะหลับเนื่องจาก OSA สามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวเรื้อรังได้
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย: การนอนหลับที่ไม่เพียงพอและการขาดออกซิเจนสามารถส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกได้
  • กรนเสียงดังมากและต่อเนื่อง: เสียงกรนที่ดังมากจนรบกวนผู้อื่น และเกิดขึ้นเป็นประจำทุกคืน อาจบ่งบอกถึงปัญหาทางเดินหายใจที่ควรได้รับการตรวจสอบ
  • มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ: ถ้ามีคนในครอบครัวเป็น OSA คุณมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ด้วยเช่นกัน จึงควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
  • น้ำหนักเกินหรืออ้วน: คนอ้วนมีแนวโน้มที่จะเป็น OSA มากกว่าคนผอม

การรักษา

หากแพทย์วินิจฉัยว่าคุณมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การรักษาอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น การลดน้ำหนัก เลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ก่อนนอน การใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) เพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดอยู่ตลอดเวลา หรือการผ่าตัดในบางกรณี

อย่ามองข้ามเสียงกรน หากคุณมีอาการใดๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม การดูแลสุขภาพการนอนหลับอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและมีชีวิตชีวาในแต่ละวัน

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจ ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

#นอนไม่หลับ #ปวดหัวมาก #เวียนหัว