การตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ (Leukocytes in urine) หมายถึงอะไร

เม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ: สัญญาณเตือนจากระบบทางเดินปัสสาวะ

การตรวจพบเม็ดเลือดขาว (Leukocytes) ในปัสสาวะ ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ แม้จะไม่ใช่โรคโดยตรง แต่การมีเม็ดเลือดขาวปริมาณมากเกินปกติในปัสสาวะมักเป็นตัวบ่งบอกถึงการตอบสนองต่อการอักเสบหรือการติดเชื้อในส่วนต่างๆ ของระบบนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การติดเชื้อทั่วไป แต่ยังอาจบ่งบอกถึงโรคเรื้อรังที่ร้ายแรงได้หากไม่ได้รับการตรวจสอบและรักษาอย่างทันท่วงที

การปรากฏตัวของเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะเรียกว่า Leukocyturia และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยทั่วไปแล้ว ระบบทางเดินปัสสาวะปกติจะมีเม็ดเลือดขาวอยู่เพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่มีเลย การตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปริมาณที่มากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ปริมาณและลักษณะของเม็ดเลือดขาวที่พบจะช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคได้

สาเหตุที่พบได้บ่อยของ Leukocyturia ได้แก่:

• การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection – UTI): นี่เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด UTI อาจเกิดขึ้นได้ในส่วนต่างๆ ของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาวะ (กระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือ Cystitis) หรือไต (ไตอักเสบหรือ Pyelonephritis) อาการของ UTI อาจรวมถึงปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น และมีกลิ่นเหม็น แต่บางครั้งก็อาจไม่มีอาการใดๆ เลย

• การอักเสบในทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Inflammation): แม้จะไม่มีการติดเชื้อ แต่การอักเสบจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การระคายเคืองจากสารเคมี การบาดเจ็บ หรือการใช้ยาบางชนิด ก็สามารถทำให้เกิด Leukocyturia ได้เช่นกัน

• โรคไต: โรคไตบางชนิด เช่น โรคไตอักเสบ โรคไตเรื้อรัง อาจทำให้เกิดการรั่วไหลของเม็ดเลือดขาวเข้าสู่ปัสสาวะ

• โรคหินในไต: หินในไตอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบในระบบทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้มีเม็ดเลือดขาวปรากฏในปัสสาวะ

• โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก (Prostatitis): ในผู้ชาย โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก เช่น ต่อมลูกหมากอักเสบ ก็สามารถทำให้เกิด Leukocyturia ได้

เมื่อใดควรพบแพทย์?

หากคุณมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นผิดปกติ หรือปวดบริเวณข้างหลังหรือด้านข้าง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ การตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะจะช่วยในการตรวจหา Leukocyturia และแพทย์จะสามารถทำการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้ การรักษาอาจรวมถึงการใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่มีการติดเชื้อ หรือการรักษาอื่นๆ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง

สรุป: การตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลย มันเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญที่บ่งบอกถึงความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ การปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต