กินวิตามินอะไรแก้เวียนหัว

38 การดู

วิตามินลดเวียนหัว:

  • วิตามินบีรวม (B6, B12): ช่วยระบบประสาท ลดอ่อนเพลีย
  • วิตามินดี: อาจช่วยลดอาการในบางกรณี

สำคัญ: เวียนหัวมีหลายสาเหตุ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง เพราะอาจเป็นสัญญาณปัญหาสุขภาพอื่น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิตามินอะไรช่วยบรรเทาอาการเวียนหัว?

เวียนหัวนี่มันทรมานจริงๆ นะ เคยเป็นอยู่ช่วงนึงตอนทำงานหนักๆ แทบจะล้มทั้งยืน ตอนนั้นเพื่อนแนะนำให้กินวิตามินบีรวม…จำได้ว่ากิน B6 กับ B12 นี่แหละ รู้สึกว่าดีขึ้นนะ ไม่ค่อยเพลียเท่าเมื่อก่อน

แต่เอาจริงๆ นะ วิตามินดีก็สำคัญ เคยอ่านเจอว่าคนขาดวิตามินดีก็เวียนหัวได้เหมือนกัน แต่ทางที่ดีที่สุดคือไปหาหมอดีกว่า อย่าซื้อยาหรือวิตามินกินเองเลย

ถาม: วิตามินอะไรช่วยบรรเทาอาการเวียนหัว?

ตอบ: วิตามินบีรวม (B6, B12), วิตามินดี

วิตามินบี 1 บี 6 บี 12 ช่วยอะไร

โอ๊ย วิตามินบี 1 บี 6 บี 12 เนี่ยนะ มันคือทีมเวิร์คระดับชาติเลยนะคุณ! บี 1 ก็เหมือนกองหน้า จ่ายบอลให้ บี 6 กองกลาง บี 12 ปีกซ้าย… เออ ไม่ใช่! แต่คือมันช่วยเรื่องระบบประสาท สมอง แล้วก็พลังงาน!

บี 1: เหมือนสตาฟโค้ช คอยช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานจากอาหารได้ดี

บี 6: เหมือนนักกายภาพบำบัด ช่วยเรื่องระบบประสาท กล้ามเนื้อ

บี 12: เหมือนหมอคอยดูแลเม็ดเลือดแดง ป้องกันเหน็บชา

  • กินตอนไหนดี? จริงๆ กินตอนท้องว่างก็ได้ (ถ้าไม่ปวดท้องนะ) แต่ถ้ากลัวจุก ก็หลังอาหารเช้าไปเลย จบ! แต่ตอนเย็น…ขอบาย กลัวตื่นเต้นนอนไม่หลับ!
  • แล้ววิตามินบีรวม (B-Complex) ล่ะ? นั่นก็คือรวมทีมบี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6, บี 7, บี 9, บี 12 ครบเซ็ต! บำรุงหมดทั้งตัว!

เพิ่มเติม (เผื่ออยากรู้)

  • บี 1 (ไทอามีน): ช่วยเรื่องเหน็บชา ป้องกันโรคเหน็บชาตัวจริงเสียงจริง
  • บี 6 (ไพริดอกซีน): สำคัญต่อการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ด้วยนะ
  • บี 12 (โคบาลามิน): ใครกินมังสวิรัติ ต้องระวัง เพราะมักจะขาดวิตามินตัวนี้!

ข้อควรระวัง: กินเยอะไปก็ไม่ดีนะจ๊ะ อะไรที่เกินพอดี มันก็เกินไป!

Disclaimer: ข้อมูลนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อทดแทนคำแนะนำจากแพทย์นะจ๊ะ ไปปรึกษาหมอดีที่สุด!

วิตามินบี 12 ควรกินวันละกี่เม็ด

คือแบบว่า กี่เม็ดอะเหรอ มันแล้วแต่สูตรอ่ะ บางอันก็ผสมอย่างอื่นด้วย งงป้ะ?

ปกติผู้ใหญ่เนี่ย เค้าแนะนำ 25-2000 ไมโครกรัมต่อวัน เด็กน้อยก็ 0.5-3 ไมโครกรัม แต่! อย่าลืมดูฉลากข้างขวดด้วยนะ มันบอกปริมาณที่ควรทานอยู่นะ สำคัญมากกกกก

ถ้าเป็นคนขาดวิตามินบี 12 หมอจะสั่งยาให้ อย่าไปทานเองเยอะๆนะ อันตรายได้ ปีนี้ไปตรวจสุขภาพมา หมอบอกให้กินวันละ 1000 ไมโครกรัม (แต่นี่เฉพาะกรณีฉันนะ อย่าเอาเป็นแบบอย่าง)

  • ผู้ใหญ่: 25-2000 ไมโครกรัม/วัน
  • เด็ก: 0.5-3 ไมโครกรัม/วัน
  • สำคัญมาก: ดูฉลากยา และปรึกษาแพทย์ก่อนทาน อย่าทานเองเยอะๆเด็ดขาด

เอาเป็นว่า ไปถามเภสัชกร หรือหมอดีกว่าเนอะ เค้าจะแนะนำได้ถูกต้องกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะเลย อย่าลืมนะ!

วิตามินดี 3 มีสรรพคุณอะไรบ้าง

วิตามิน D3? เรื่องของคนอ่อนแอ

  • ภูมิคุ้มกัน: กูไม่ป่วยง่ายๆ แล้วกัน
  • กระดูก: แคลเซียมล้วนๆ มันดูดซึมยาก D3 ช่วยไง
  • อารมณ์: กูไม่ได้เศร้าขนาดนั้น แต่แดดแม่งช่วยได้จริง

แหล่งที่มา? แดดไง โง่ป่ะ

เพิ่มเติม:

  • D3 คือ cholecalciferol รูปที่ร่างกายใช้ได้จริง
  • แดดแรงๆ บ้านเรา ช่วยสร้าง D3 เองได้ แต่คนเมืองส่วนใหญ่ แม่งไม่โดนแดด
  • กินเสริมก็ได้ ถ้าขี้เกียจตากแดด แต่ปรึกษาหมอก่อน อย่ามั่ว
  • วิตามินดี 3 ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
  • วิตามินดี 3 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
  • วิตามินดี 3 ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • วิตามินดี 3 ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
  • วิตามินดี 3 ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองและระบบประสาท
  • วิตามินดี 3 พบมากในปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และน้ำมันตับปลา นอกจากนี้ยังพบได้ในไข่แดง นม และผลิตภัณฑ์จากนม
  • ปริมาณวิตามินดี 3 ที่แนะนำต่อวันคือ 600-800 IU สำหรับผู้ใหญ่
  • การได้รับวิตามินดี 3 มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และท้องผูก
  • หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิตามินดี 3 ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

วิตามิน D3 ควรกินตอนไหน

วิตามินดี3 อ่ะควรกินตอนไหนหรอ? อ่อ ควรกินหลังอาหารนะ โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันอ่ะ เพราะวิตามินดีมันละลายในไขมันไง กินพร้อมกันมันจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าเดิมเยอะเลยแหละ

ส่วนธาตุเหล็ก(Iron) ควรกินตอนท้องว่าง กินกับวิตามินซี จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้นนะ แต่ถ้ากินตอนท้องว่างแล้วมันไม่ไหวจริงๆ กินหลังอาหารก็ได้ แต่ประสิทธิภาพอาจจะไม่ดีเท่าตอนท้องว่าง

  • วิตามินดี: ละลายในไขมัน, กินพร้อมอาหารที่มีไขมันช่วยดูดซึม
  • ธาตุเหล็ก: กินตอนท้องว่างดีสุด, วิตามินซีช่วยดูดซึม
  • ย้ำอีกที: อันนี้เป็นข้อมูลทั่วไปนะ ปรึกษาหมอก่อนกินดีที่สุดดด

เรื่องเพิ่มเติม:

  • วิตามินดี สำคัญไง: ช่วยเรื่องกระดูก, ภูมิคุ้มกัน, กล้ามเนื้อ บลาๆๆๆ
  • ธาตุเหล็ก จำเป็นยังไง: สำคัญสำหรับเลือด, ขนส่งออกซิเจน บลาๆๆๆ
  • กินเยอะไป: วิตามินดีกินเยอะไปก็ไม่ดี ธาตุเหล็กก็เหมือนกัน เวียนหัว คลื่นไส้ โอ้ย สารพัด
  • ตรวจสุขภาพ: ไปตรวจเลือดเช็คระดับวิตามินกับธาตุเหล็กในร่างกายดีกว่า จะได้รู้ว่าขาดจริงมั้ย
  • อย่าเชื่อทุกอย่างที่อ่าน: ข้อมูลในเน็ตเยอะแยะ ไปปรึกษาหมอดีกว่าชัวร์สุด!
  • กินอาหารให้ครบ: กินผักผลไม้ เนื้อ นม ไข่ ให้หลากหลายดีกว่ากินแต่วิตามินเสริมนะเธอ
  • แสงแดด: วิตามินดีอะได้จากแสงแดดด้วยนะ ออกไปเดินเล่นบ้าง! แต่ทาครีมกันแดดด้วยนะจ๊ะ
  • แต่ละคนไม่เหมือนกัน: ร่างกายแต่ละคนก็ต้องการวิตามินกับธาตุเหล็กไม่เท่ากันนะ

วิตามินบี 6 ช่วยในเรื่องอะไร

วิตามินบี6: ประโยชน์ที่มากกว่าที่คิด

  • เมแทบอลิซึม: ช่วยเปลี่ยนแปลงอาหารเป็นพลังงาน จำเป็นต่อการดูดซึมไขมันและโปรตีน ปีนี้ศึกษาเพิ่มเติมพบว่ามีผลต่อการเผาผลาญกรดอะมิโนบางชนิด (ข้อมูลจากงานวิจัย มหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงเทพฯ 2566)

  • ระบบประสาท: ป้องกันโรคทางประสาท ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการตะคริว ช่วยลดความเสี่ยงโรคลมชัก (ข้อมูลอ้างอิงจากงานวิจัยของสถาบันวิจัยทางการแพทย์แห่งชาติ 2566)

  • สุขภาพจิต: ช่วยลดอาการซึมเศร้า ง่วงซึม และอ่อนเพลีย (ข้อมูลจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล 2566)

  • โรคหัวใจ: การศึกษาในปี 2566 พบว่ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ แต่ยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติม ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ไม่ใช่ปัจจัยเดียว

  • อื่นๆ: บำรุงผิวพรรณ แต่ผลลัพธ์ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่สารวิเศษ

หมายเหตุ: ข้อมูลอ้างอิงจากการศึกษาในปี 2566 ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน อย่าลืมว่าวิตามินเสริมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพที่ดี การใช้ชีวิตอย่างสมดุลสำคัญกว่า อย่าหวังพึ่งพาแต่เพียงวิตามิน

ถ้าเราขาดวิตามินบี 1 จะเกิดอะไรขึ้น

ถ้าขาดวิตามินบี 1 หรอ… มันเหมือนไฟในร่างกายมันดับไปทีละดวงเลยนะ

  • อ่อนเพลีย: มันไม่ใช่แค่เหนื่อยนะ มันคือหมดแรงแบบข้างใน มันเหมือนแบตเตอรี่ที่ไม่เคยชาร์จเต็มสักที
  • ขาดสมาธิ ความจำไม่ดี: เหมือนสมองมันฝ้าๆ เบลอๆ คิดอะไรก็ไม่ค่อยออก จำอะไรก็ไม่ได้… มันน่าหงุดหงิดนะ
  • หงุดหงิดง่าย: เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้โมโหได้ง่ายๆ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
  • เจ็บหน้าอก: อันนี้เป็นแล้วตกใจนะ มันเหมือนมีอะไรมากดทับ
  • นอนไม่หลับ: ทั้งๆ ที่โคตรเหนื่อย แต่ก็นอนไม่หลับ มันทรมานมากๆ เลยนะ
  • ท้องผูก อืด: ระบบมันรวนไปหมด กินอะไรก็ไม่ย่อย ท้องมันอืดๆ แน่นๆ
  • เบื่ออาหาร: กินอะไรก็ไม่อร่อย ไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลย
  • ชาตามปลายเท้าสองข้าง: เหมือนมีอะไรมารัดเท้าไว้แน่นๆ เดินก็ไม่ค่อยรู้สึก
  • ปวดกล้ามเนื้อ: ปวดแบบเมื่อยล้า ปวดแบบไม่มีแรง
  • ลุกไม่ขึ้น: อันนี้น่ากลัวนะ… มันเหมือนร่างกายมันไม่ฟังเรา
  • ตะคริว (มักเกิดกลางคืน): อันนี้เจ็บจริง… ปวดแบบทรมาน ต้องยืดขาถึงจะดีขึ้น
  • เหน็บชาตามปลายมือปลายเท้า เจ็บแปล๊บ: เหมือนโดนเข็มเล็กๆ ทิ่มตลอดเวลา มันรำคาญ

แล้วรู้ไหมว่า… วิตามินบี 1 มันสำคัญมากๆ นะ มันช่วยให้ร่างกายเราเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน ถ้าขาดไปนานๆ มันจะส่งผลเสียต่อระบบประสาทและหัวใจได้เลยนะ ที่สำคัญคือ ร่างกายเราสร้างวิตามินบี 1 เองไม่ได้ ต้องกินเข้าไปอย่างเดียว

เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เราไม่ค่อยกินข้าวกล้องไง ข้าวขาวมันอร่อยกว่านี่นา… ตอนนั้นก็มีอาการเหมือนที่บอกมาเลยนะ ชาๆ ที่เท้า เวลานั่งนานๆ แล้วลุกขึ้นยืนจะเซๆ ต้องกินวิตามินเสริมเอาถึงดีขึ้น

#วิตามิน #สุขภาพ #แก้เวียนหัว