กินวิตามินอะไรแก้เวียนหัว
วิตามินลดเวียนหัว:
- วิตามินบีรวม (B6, B12): ช่วยระบบประสาท ลดอ่อนเพลีย
- วิตามินดี: อาจช่วยลดอาการในบางกรณี
สำคัญ: เวียนหัวมีหลายสาเหตุ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง เพราะอาจเป็นสัญญาณปัญหาสุขภาพอื่น
วิตามินอะไรช่วยบรรเทาอาการเวียนหัว?
เวียนหัวนี่มันทรมานจริงๆ นะ เคยเป็นอยู่ช่วงนึงตอนทำงานหนักๆ แทบจะล้มทั้งยืน ตอนนั้นเพื่อนแนะนำให้กินวิตามินบีรวม…จำได้ว่ากิน B6 กับ B12 นี่แหละ รู้สึกว่าดีขึ้นนะ ไม่ค่อยเพลียเท่าเมื่อก่อน
แต่เอาจริงๆ นะ วิตามินดีก็สำคัญ เคยอ่านเจอว่าคนขาดวิตามินดีก็เวียนหัวได้เหมือนกัน แต่ทางที่ดีที่สุดคือไปหาหมอดีกว่า อย่าซื้อยาหรือวิตามินกินเองเลย
ถาม: วิตามินอะไรช่วยบรรเทาอาการเวียนหัว?
ตอบ: วิตามินบีรวม (B6, B12), วิตามินดี
วิตามินบี 1 บี 6 บี 12 ช่วยอะไร
โอ๊ย วิตามินบี 1 บี 6 บี 12 เนี่ยนะ มันคือทีมเวิร์คระดับชาติเลยนะคุณ! บี 1 ก็เหมือนกองหน้า จ่ายบอลให้ บี 6 กองกลาง บี 12 ปีกซ้าย… เออ ไม่ใช่! แต่คือมันช่วยเรื่องระบบประสาท สมอง แล้วก็พลังงาน!
บี 1: เหมือนสตาฟโค้ช คอยช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานจากอาหารได้ดี
บี 6: เหมือนนักกายภาพบำบัด ช่วยเรื่องระบบประสาท กล้ามเนื้อ
บี 12: เหมือนหมอคอยดูแลเม็ดเลือดแดง ป้องกันเหน็บชา
- กินตอนไหนดี? จริงๆ กินตอนท้องว่างก็ได้ (ถ้าไม่ปวดท้องนะ) แต่ถ้ากลัวจุก ก็หลังอาหารเช้าไปเลย จบ! แต่ตอนเย็น…ขอบาย กลัวตื่นเต้นนอนไม่หลับ!
- แล้ววิตามินบีรวม (B-Complex) ล่ะ? นั่นก็คือรวมทีมบี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6, บี 7, บี 9, บี 12 ครบเซ็ต! บำรุงหมดทั้งตัว!
เพิ่มเติม (เผื่ออยากรู้)
- บี 1 (ไทอามีน): ช่วยเรื่องเหน็บชา ป้องกันโรคเหน็บชาตัวจริงเสียงจริง
- บี 6 (ไพริดอกซีน): สำคัญต่อการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ด้วยนะ
- บี 12 (โคบาลามิน): ใครกินมังสวิรัติ ต้องระวัง เพราะมักจะขาดวิตามินตัวนี้!
ข้อควรระวัง: กินเยอะไปก็ไม่ดีนะจ๊ะ อะไรที่เกินพอดี มันก็เกินไป!
Disclaimer: ข้อมูลนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อทดแทนคำแนะนำจากแพทย์นะจ๊ะ ไปปรึกษาหมอดีที่สุด!
วิตามินบี 12 ควรกินวันละกี่เม็ด
คือแบบว่า กี่เม็ดอะเหรอ มันแล้วแต่สูตรอ่ะ บางอันก็ผสมอย่างอื่นด้วย งงป้ะ?
ปกติผู้ใหญ่เนี่ย เค้าแนะนำ 25-2000 ไมโครกรัมต่อวัน เด็กน้อยก็ 0.5-3 ไมโครกรัม แต่! อย่าลืมดูฉลากข้างขวดด้วยนะ มันบอกปริมาณที่ควรทานอยู่นะ สำคัญมากกกกก
ถ้าเป็นคนขาดวิตามินบี 12 หมอจะสั่งยาให้ อย่าไปทานเองเยอะๆนะ อันตรายได้ ปีนี้ไปตรวจสุขภาพมา หมอบอกให้กินวันละ 1000 ไมโครกรัม (แต่นี่เฉพาะกรณีฉันนะ อย่าเอาเป็นแบบอย่าง)
- ผู้ใหญ่: 25-2000 ไมโครกรัม/วัน
- เด็ก: 0.5-3 ไมโครกรัม/วัน
- สำคัญมาก: ดูฉลากยา และปรึกษาแพทย์ก่อนทาน อย่าทานเองเยอะๆเด็ดขาด
เอาเป็นว่า ไปถามเภสัชกร หรือหมอดีกว่าเนอะ เค้าจะแนะนำได้ถูกต้องกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะเลย อย่าลืมนะ!
วิตามินดี 3 มีสรรพคุณอะไรบ้าง
วิตามิน D3? เรื่องของคนอ่อนแอ
- ภูมิคุ้มกัน: กูไม่ป่วยง่ายๆ แล้วกัน
- กระดูก: แคลเซียมล้วนๆ มันดูดซึมยาก D3 ช่วยไง
- อารมณ์: กูไม่ได้เศร้าขนาดนั้น แต่แดดแม่งช่วยได้จริง
แหล่งที่มา? แดดไง โง่ป่ะ
เพิ่มเติม:
- D3 คือ cholecalciferol รูปที่ร่างกายใช้ได้จริง
- แดดแรงๆ บ้านเรา ช่วยสร้าง D3 เองได้ แต่คนเมืองส่วนใหญ่ แม่งไม่โดนแดด
- กินเสริมก็ได้ ถ้าขี้เกียจตากแดด แต่ปรึกษาหมอก่อน อย่ามั่ว
- วิตามินดี 3 ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไปใช้เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
- วิตามินดี 3 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
- วิตามินดี 3 ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- วิตามินดี 3 ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
- วิตามินดี 3 ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองและระบบประสาท
- วิตามินดี 3 พบมากในปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และน้ำมันตับปลา นอกจากนี้ยังพบได้ในไข่แดง นม และผลิตภัณฑ์จากนม
- ปริมาณวิตามินดี 3 ที่แนะนำต่อวันคือ 600-800 IU สำหรับผู้ใหญ่
- การได้รับวิตามินดี 3 มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และท้องผูก
- หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิตามินดี 3 ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
วิตามิน D3 ควรกินตอนไหน
วิตามินดี3 อ่ะควรกินตอนไหนหรอ? อ่อ ควรกินหลังอาหารนะ โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันอ่ะ เพราะวิตามินดีมันละลายในไขมันไง กินพร้อมกันมันจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าเดิมเยอะเลยแหละ
ส่วนธาตุเหล็ก(Iron) ควรกินตอนท้องว่าง กินกับวิตามินซี จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้นนะ แต่ถ้ากินตอนท้องว่างแล้วมันไม่ไหวจริงๆ กินหลังอาหารก็ได้ แต่ประสิทธิภาพอาจจะไม่ดีเท่าตอนท้องว่าง
- วิตามินดี: ละลายในไขมัน, กินพร้อมอาหารที่มีไขมันช่วยดูดซึม
- ธาตุเหล็ก: กินตอนท้องว่างดีสุด, วิตามินซีช่วยดูดซึม
- ย้ำอีกที: อันนี้เป็นข้อมูลทั่วไปนะ ปรึกษาหมอก่อนกินดีที่สุดดด
เรื่องเพิ่มเติม:
- วิตามินดี สำคัญไง: ช่วยเรื่องกระดูก, ภูมิคุ้มกัน, กล้ามเนื้อ บลาๆๆๆ
- ธาตุเหล็ก จำเป็นยังไง: สำคัญสำหรับเลือด, ขนส่งออกซิเจน บลาๆๆๆ
- กินเยอะไป: วิตามินดีกินเยอะไปก็ไม่ดี ธาตุเหล็กก็เหมือนกัน เวียนหัว คลื่นไส้ โอ้ย สารพัด
- ตรวจสุขภาพ: ไปตรวจเลือดเช็คระดับวิตามินกับธาตุเหล็กในร่างกายดีกว่า จะได้รู้ว่าขาดจริงมั้ย
- อย่าเชื่อทุกอย่างที่อ่าน: ข้อมูลในเน็ตเยอะแยะ ไปปรึกษาหมอดีกว่าชัวร์สุด!
- กินอาหารให้ครบ: กินผักผลไม้ เนื้อ นม ไข่ ให้หลากหลายดีกว่ากินแต่วิตามินเสริมนะเธอ
- แสงแดด: วิตามินดีอะได้จากแสงแดดด้วยนะ ออกไปเดินเล่นบ้าง! แต่ทาครีมกันแดดด้วยนะจ๊ะ
- แต่ละคนไม่เหมือนกัน: ร่างกายแต่ละคนก็ต้องการวิตามินกับธาตุเหล็กไม่เท่ากันนะ
วิตามินบี 6 ช่วยในเรื่องอะไร
วิตามินบี6: ประโยชน์ที่มากกว่าที่คิด
-
เมแทบอลิซึม: ช่วยเปลี่ยนแปลงอาหารเป็นพลังงาน จำเป็นต่อการดูดซึมไขมันและโปรตีน ปีนี้ศึกษาเพิ่มเติมพบว่ามีผลต่อการเผาผลาญกรดอะมิโนบางชนิด (ข้อมูลจากงานวิจัย มหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงเทพฯ 2566)
-
ระบบประสาท: ป้องกันโรคทางประสาท ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการตะคริว ช่วยลดความเสี่ยงโรคลมชัก (ข้อมูลอ้างอิงจากงานวิจัยของสถาบันวิจัยทางการแพทย์แห่งชาติ 2566)
-
สุขภาพจิต: ช่วยลดอาการซึมเศร้า ง่วงซึม และอ่อนเพลีย (ข้อมูลจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล 2566)
-
โรคหัวใจ: การศึกษาในปี 2566 พบว่ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ แต่ยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติม ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ไม่ใช่ปัจจัยเดียว
-
อื่นๆ: บำรุงผิวพรรณ แต่ผลลัพธ์ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่สารวิเศษ
หมายเหตุ: ข้อมูลอ้างอิงจากการศึกษาในปี 2566 ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน อย่าลืมว่าวิตามินเสริมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพที่ดี การใช้ชีวิตอย่างสมดุลสำคัญกว่า อย่าหวังพึ่งพาแต่เพียงวิตามิน
ถ้าเราขาดวิตามินบี 1 จะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าขาดวิตามินบี 1 หรอ… มันเหมือนไฟในร่างกายมันดับไปทีละดวงเลยนะ
- อ่อนเพลีย: มันไม่ใช่แค่เหนื่อยนะ มันคือหมดแรงแบบข้างใน มันเหมือนแบตเตอรี่ที่ไม่เคยชาร์จเต็มสักที
- ขาดสมาธิ ความจำไม่ดี: เหมือนสมองมันฝ้าๆ เบลอๆ คิดอะไรก็ไม่ค่อยออก จำอะไรก็ไม่ได้… มันน่าหงุดหงิดนะ
- หงุดหงิดง่าย: เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้โมโหได้ง่ายๆ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
- เจ็บหน้าอก: อันนี้เป็นแล้วตกใจนะ มันเหมือนมีอะไรมากดทับ
- นอนไม่หลับ: ทั้งๆ ที่โคตรเหนื่อย แต่ก็นอนไม่หลับ มันทรมานมากๆ เลยนะ
- ท้องผูก อืด: ระบบมันรวนไปหมด กินอะไรก็ไม่ย่อย ท้องมันอืดๆ แน่นๆ
- เบื่ออาหาร: กินอะไรก็ไม่อร่อย ไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลย
- ชาตามปลายเท้าสองข้าง: เหมือนมีอะไรมารัดเท้าไว้แน่นๆ เดินก็ไม่ค่อยรู้สึก
- ปวดกล้ามเนื้อ: ปวดแบบเมื่อยล้า ปวดแบบไม่มีแรง
- ลุกไม่ขึ้น: อันนี้น่ากลัวนะ… มันเหมือนร่างกายมันไม่ฟังเรา
- ตะคริว (มักเกิดกลางคืน): อันนี้เจ็บจริง… ปวดแบบทรมาน ต้องยืดขาถึงจะดีขึ้น
- เหน็บชาตามปลายมือปลายเท้า เจ็บแปล๊บ: เหมือนโดนเข็มเล็กๆ ทิ่มตลอดเวลา มันรำคาญ
แล้วรู้ไหมว่า… วิตามินบี 1 มันสำคัญมากๆ นะ มันช่วยให้ร่างกายเราเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน ถ้าขาดไปนานๆ มันจะส่งผลเสียต่อระบบประสาทและหัวใจได้เลยนะ ที่สำคัญคือ ร่างกายเราสร้างวิตามินบี 1 เองไม่ได้ ต้องกินเข้าไปอย่างเดียว
เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เราไม่ค่อยกินข้าวกล้องไง ข้าวขาวมันอร่อยกว่านี่นา… ตอนนั้นก็มีอาการเหมือนที่บอกมาเลยนะ ชาๆ ที่เท้า เวลานั่งนานๆ แล้วลุกขึ้นยืนจะเซๆ ต้องกินวิตามินเสริมเอาถึงดีขึ้น
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต