คนเป็นไข้ควรนอนกี่ชั่วโมง
ไข้ควรพักผ่อนอย่างเพียงพอ! นอนหลับ 8 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้ร่างกายสร้างโกรทฮอร์โมนซ่อมแซมตัวเอง เข้านอนเร็วขึ้นเล็กน้อย ไม่เกิน 1 ชั่วโมงจากเวลาปกติ เพื่อรักษาตารางการนอนเดิม ช่วยให้หลับสบายขึ้น การพักผ่อนเพียงพอสำคัญที่สุดในการฟื้นตัวจากอาการไข้ อย่าฝืนตัวเองตื่นเช้ากว่าปกติหากยังไม่รู้สึกดีขึ้น
คนไข้ควรนอนกี่ชั่วโมงเพื่อฟื้นตัว?
เอ้อ…เรื่องนอนเนี่ยนะ เอาจริง ๆ คือมันแล้วแต่คนเลยอ่ะ เคยได้ยินมาว่าต้อง 8 ชั่วโมง บลา ๆๆ แต่สำหรับชั้น บางที 6 ชั่วโมงชั้นก็เฟรชแล้วนะเว้ย คือแบบ…ตื่นมาแล้วรู้สึกว่า “เออ! พร้อม!” แต่บางทีนอน 8 ชั่วโมงเต็ม ๆ ตื่นมาก็ยังแบบ… “หืม? ยังไม่พอหรอเนี่ย?”
เมื่อก่อนตอนทำงานที่ออฟฟิศ (แถวสีลม จำได้ว่าตอนนั้นเงินเดือน 25,000 บาทถ้วน!) คือนอนน้อยมากกกก ประมาณ 5 ชั่วโมงเองมั้ง แล้วคือแบบ…โทรม! หน้าคือไปก่อนเพื่อนเลยอ่ะ แต่พอลาออกมาทำฟรีแลนซ์ นอนเยอะขึ้น ชีวิตดีขึ้นเยอะเลยแก
เอาเป็นว่า…ลองสังเกตตัวเองดูดีกว่ามั้ย ว่านอนเท่าไหร่แล้วร่างกายมันโอเคที่สุด ไม่ต้องไปยึดติดกับตัวเลข 8 ชั่วโมงอะไรขนาดนั้นหรอกมั้ง
ส่วนเรื่องเข้านอนให้เป็นเวลา อันนี้ชั้นว่าจริงนะ ร่างกายมันจะปรับตัวได้เอง เหมือนนาฬิกาชีวภาพอ่ะ ถ้าวันไหนนอนผิดเวลาไปเยอะ ๆ วันต่อมาคือจะเพลีย ๆ หน่อย ๆ นั่นแหละ ประสบการณ์ตรง!
เป็นไข้นอนเยอะๆดีไหม
เอ้อ! เป็นไข้แล้วนอนเยอะๆ เนี่ยนะ… เหมือนเอามีดแทงตัวเองแล้วให้ยาหม่องทาอ่ะ! มันก็ช่วยได้ บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด!
- นอนเยอะ: อันนี้ถูก! ร่างกายมันกำลังรบกับเชื้อโรค ต้องให้มันพักผ่อน ชาร์จแบตเต็มที่ อย่าไปซ่าส์
- ยาแก้ปวดลดไข้: อันนี้ขาดไม่ได้! ไข้มันสูงปรี๊ด ปวดหัวตุ๊บๆ กินเข้าไปหน่อย จะได้สงบสติอารมณ์ได้
- ถ้าไม่มาก: แต่ถ้าไข้มันเล่นใหญ่ ไฟลุกท่วมตัว ปวดหัวจนเหมือนมีใครเอาค้อนทุบ อันนี้ไปหาหมอเถอะ อย่าฝืน! เดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่โต
แถม: อย่าลืมกินน้ำเยอะๆ นะ! ตัวร้อนๆ เหงื่อออกเยอะ เดี๋ยวขาดน้ำตายก่อนไข้จะหาย! แล้วก็… อย่ากินของเย็น! มันไม่ช่วยอะไร นอกจากทำให้แสบคอ!
ไข้ 39.1 อันตรายไหม
ไข้ 39.1 องศาเซลเซียส อันตรายไหม? บอกเลยว่า…ใกล้เคียงเส้นตาย! เหมือนวิ่งมาราธอนแล้วเหลืออีก 100 เมตรสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย อันตรายมั้ย? อันตรายแน่! แต่ยังไม่ถึงขั้นวิ่งชนเสาไฟฟ้าล้มตายคาที่นะ
-
39.1 องศา: นี่คือสัญญาณเตือน! ไม่ใช่แค่ไฟเตือนสีเหลือง แต่เป็นไฟกระพริบสีแดงพร้อมเสียงไซเรนดังลั่นแล้ว! รีบไปหาหมอเถอะครับพี่น้อง! อย่ามัวแต่คิดว่า “เดี๋ยวก็หาย” เพราะอาจจะกลายเป็น “เดี๋ยวก็ป่วยหนัก” ได้ง่ายๆ
-
39.5 องศาขึ้นไป: นี่แหละครับไข้สูง เอาเป็นว่าเริ่มเข้าสู่โหมด “ขอโทษทีนะ ฉันต้องนอนพัก” แล้ว อย่างน้อยๆ ก็ต้องกินยาแล้วนอนพักผ่อนให้เต็มที่
-
40.5 องศาขึ้นไป (Hyperpyrexia): นี่คือระดับ “เอ้า! เข้าโรงพยาบาลด่วน!” อันตรายถึงชีวิตได้เลยนะ อย่าประมาทเด็ดขาด! มักเกิดจากภาวะรุนแรงจริงๆ เช่น ติดเชื้อร้ายแรง หรือเลือดออกในสมอง
เอาล่ะ สรุปง่ายๆ เลยนะ ไข้ 39.1 องศา อย่าชะล่าใจ รีบไปหาหมอ! อย่ารอให้มันเป็น 40 กว่าแล้วค่อยไป เพราะตอนนั้นอาจสายเกินแก้แล้วก็ได้นะ ลองนึกภาพไข้เป็นเสือ ถ้ายังเป็นลูกเสืออยู่ก็ยังพอสู้ได้ แต่ถ้าโตเต็มที่แล้ว…ลาก่อย!
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): สถิติผู้ป่วยไข้สูงในประเทศไทยปีนี้ยังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว (ที่ได้ยินมาจากเพื่อนแพทย์) จำนวนผู้ป่วยไข้สูงจากการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ยังคงมีสูงอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ การป้องกันตัวเองให้ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด อย่างน้อยก็ควรล้างมือบ่อยๆ และใส่หน้ากากอนามัยในที่แออัด
ไข้หลบใน มีอาการอย่างไร
ไข้หลบใน? มึนๆ ไข้ไม่ลง กินยาแล้วก็งั้นๆ
- ไข้ไม่เกิน 40 องศา ตัวร้อนๆ แต่ไม่ใช่ไข้แดดนะ คนละอย่าง
- ปวดหัวเป็นพักๆ บางทีข้างเดียว ไมเกรนก็อาจกำเริบ มึนหัวง่าย
- คอแห้ง ปากแห้ง กินอะไรไม่ลง อ่อนเพลีย แบบว่า ร้อนในนั่นแหละ
ปีนี้เจอหนักกว่าปีก่อนอีก เกือบเข้าโรงบาลแล้ว แต่สุดท้ายก็หายเอง ไปหาหมอดีกว่านะ อย่าประมาท เคยลองสูตรน้ำมะนาวผสมเกลือ พอช่วยได้บ้าง แต่ไม่ใช่ยาวิเศษนะ
ไข้สูงแค่ไหนถึงชัก
ไข้สูงขนาดไหนถึงชัก? ถามได้แสบทรวงจริงๆ! บอกเลยว่าไม่ใช่แค่ไข้ขึ้นนิดๆหน่อยๆนะจ๊ะ ต้องระดับที่แม่คุณต้องวิ่งคว้าพาราเซตามอลแบบไม่คิดชีวิต ประมาณ 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ถึงขั้นไฟลุกโชนในร่างกายเด็กน้อยเลยล่ะ! อย่าคิดว่าแค่ตัวร้อนๆนะ นี่คือระดับที่น้องอาจจะเล่นกายกรรมแบบไม่รู้ตัว!
ชักเพราะไข้สูงนี่มันเป็นยังไงบ้าง? อธิบายง่ายๆเลยนะ น้องจะแข็งทื่อ ตาค้าง ปากกระตุก เหมือนโดนผีเข้าสิง แต่ไม่ใช่ผีนะ เป็นไข้! บางทีอาจจะกระตุกทั้งตัว คล้ายๆกับปลาท่องโก๋ที่ถูกทอดจนกรอบ คือแบบว่า…ดูน่ากลัว แต่ก็ตลกๆนะ ในความน่ากลัวนั่นแหละ
เด็กอายุเท่าไหร่ถึงเสี่ยง? บอกเลยว่าเด็กเล็กๆนี่แหละ ตัวแสบ อายุประมาณ 1-2 ปีนี่คือกลุ่มเสี่ยงสูงสุด! เหมือนหมาจิ้งจอกน้อยที่กำลังซนสุดขีด ง่ายๆเลยคือ เด็กเล็กๆอายุ 6 เดือนถึง 5-6 ปี มีโอกาสเจอเจ้าอาการนี้ได้ แต่ถ้าพ้นช่วงนี้ไปก็โอกาสน้อยลงนะ
- อุณหภูมิร่างกายเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
- อาการชักแบบเกร็งหรือกระตุก
- เด็กอายุ 6 เดือน – 5-6 ปี (เสี่ยงสุดคือ 1-2 ปี)
เพิ่มเติม: อย่าลืมนะ! ถ้าเจออาการแบบนี้ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปลงโซเชียล รีบพาไปหาหมอเลยค่ะ! นี่ไม่ใช่เรื่องตลก ชีวิตลูกคุณมีค่ากว่าไลค์บนเฟซบุ๊กเยอะ จำไว้! ปีนี้ 2566 ข้อมูลจากประสบการณ์ตรงของเพื่อนบ้าน (ขอไม่เอ่ยชื่อ) ลูกเขาเคยเป็น บอกเลยว่าน่ากลัวมาก แต่โชคดีที่หายแล้ว
ทำไมไม่สบายต้องนอนเยอะๆ
ทำไมไม่สบายต้องนอนเยอะๆ… อืม… เคยคิดเหมือนกันนะ
เวลามันไม่สบาย… เหมือนร่างกายมันบอกว่า “พอแล้ว”
- พักผ่อน: ร่างกายมันพยายามซ่อมตัวเอง นอนคือการให้เวลา… ให้โอกาสมันได้ทำ
- ฟื้นฟู: เหมือนชาร์จแบต… พลังงานมันหมดไปกับการสู้กับเชื้อโรค
- ซ่อมแซม: เซลล์ต่างๆ มันพัง… ต้องสร้างใหม่… นอนช่วยให้กระบวนการนี้มันดีขึ้น
- ต่อสู้: พอนอนเยอะๆ ร่างกายมันก็เหมือนมีกองทัพที่แข็งแกร่งขึ้น… พร้อมสู้กับเชื้อโรค
มันเหมือนการปิดเครื่อง… แล้วเปิดใหม่… ให้มันรีเซ็ตทุกอย่าง…
อาบน้ําช่วยลดไข้ไหม
อาบน้ำลดไข้ได้มั้ยนะ 🤔
- ห้ามอาบตอนหนาวสั่นเด็ดขาด! รูขุมขนปิด = ระบายความร้อนไม่ได้ = ซวยเลย ไข้ขึ้นอีก!
- เช็ดตัวไปก่อนดีกว่า… เอาผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ โปะๆ หน้าผาก ซอกคอ รักแร้ ข้อพับ
- ไข้ลด+ไม่หนาวสั่น ถึงอาบได้! แต่… น้ำอุ่นนะ อย่าเย็นเจี๊ยบ!
- อาบน้ำแล้ววัดไข้ซ้ำด้วยนะ ชัวร์สุด!
- สำคัญ: ถ้าไข้สูงจัดๆ กินยาพาราก่อนเลยดีกว่ามั้ง? แล้วปรึกษาหมอด้วยนะ!
เอ๊ะ หรือว่าตอนไข้สูงๆ เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นดีกว่าน้ำเย็น? เคยอ่านเจอที่ไหนนะ… ช่างมัน เดี๋ยวค่อยไปหาข้อมูลเพิ่ม 😅
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต