ค่า T score ของโรคกระดูกพรุนคือเท่าไหร่

ค่า T-score และการวินิจฉัยโรคกระดูกพรุน: มากกว่าแค่ตัวเลข

การตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกด้วยวิธี DEXA scan (Dual-energy X-ray absorptiometry) เป็นวิธีมาตรฐานในการประเมินความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ผลการตรวจจะแสดงค่า T-score ซึ่งเป็นตัวเลขที่สำคัญในการวินิจฉัย แต่การตีความค่า T-score อย่างถูกต้องนั้นจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขเพียงอย่างเดียว เพราะค่า T-score เพียงอย่างเดียวไม่สามารถวินิจฉัยโรคกระดูกพรุนได้อย่างเด็ดขาด

หลายคนเข้าใจผิดว่าค่า T-score ที่ต่ำกว่า -2.5 เท่ากับการวินิจฉัยโรคกระดูกพรุนโดยทันที ความจริงแล้ว ค่า T-score เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวม มันเปรียบเสมือนชิ้นส่วนปริศนาที่ต้องนำมาประกอบกับข้อมูลอื่นๆ เช่น อายุ เพศ ประวัติทางการแพทย์ การใช้ยา และอาการทางคลินิก เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์และการวินิจฉัยที่ถูกต้องแม่นยำ

การตีความค่า T-score อย่างคร่าวๆ:

• ค่า T-score ระหว่าง +1 ถึง -1: ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ความหนาแน่นของมวลกระดูกอยู่ในระดับที่เหมาะสม ความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนต่ำ
• ค่า T-score ระหว่าง -1 ถึง -2.5: บ่งชี้ถึงภาวะกระดูกบาง (Osteopenia) ความหนาแน่นของมวลกระดูกต่ำกว่าปกติ มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนสูงขึ้น จำเป็นต้องเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพกระดูก
• ค่า T-score ต่ำกว่า -2.5: บ่งชี้ถึงโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) ความหนาแน่นของมวลกระดูกต่ำมาก มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดหักกระดูก จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

สิ่งสำคัญที่ต้องระลึก: แม้ว่าค่า T-score จะต่ำกว่า -2.5 แต่แพทย์จะไม่วินิจฉัยโรคกระดูกพรุนเพียงจากค่านี้เท่านั้น การประเมินจะพิจารณาปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ประวัติการหักกระดูก ประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การขาดฮอร์โมน และการใช้ยาบางชนิด ร่วมด้วย เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

ดังนั้น ค่า T-score จึงเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการประเมินความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น อย่าตื่นตระหนกหรือละเลยสุขภาพกระดูกของคุณหากได้รับผลการตรวจ ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องต่อไป

#Tscore #กระดูกพรุน #ค่าปกติ