ถอดสายฉี่แล้วฉี่ไม่ออกทำไง

21 การดู

หลังถอดสายสวนปัสสาวะ อาจรู้สึกปัสสาวะลำบากหรือไม่ออกได้ชั่วคราว ดื่มน้ำมากๆ และพยายามผ่อนคลายขณะปัสสาวะ หากปัสสาวะไม่ออกเลยภายใน 6-8 ชั่วโมง หรือมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หลังถอดสายฉี่…ทำไมฉี่ไม่ออก? รับมืออย่างไรให้ถูกวิธี

การใส่สายสวนปัสสาวะเป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยระบายปัสสาวะออกจากกระเพาะปัสสาวะในกรณีที่ไม่สามารถขับถ่ายได้เอง อย่างไรก็ตาม เมื่อถอดสายสวนออกไปแล้ว หลายคนอาจพบกับปัญหาปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะลำบาก ซึ่งสร้างความกังวลใจไม่น้อย บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการดังกล่าว และแนวทางการรับมือที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถกลับมาปัสสาวะได้เป็นปกติโดยเร็ว

ทำไมหลังถอดสายฉี่…ถึงฉี่ไม่ออก?

อาการปัสสาวะไม่ออกหลังถอดสายสวนปัสสาวะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และมีสาเหตุหลายประการที่อาจเป็นไปได้:

  • กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะอ่อนแรง: ในขณะที่ใส่สายสวนปัสสาวะ กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะไม่ต้องทำงานเพื่อบีบตัวขับปัสสาวะ เมื่อถอดสายสวนออก กล้ามเนื้ออาจยังไม่พร้อมที่จะทำงานตามปกติ ทำให้ไม่สามารถบีบตัวขับปัสสาวะออกมาได้
  • การระคายเคืองของท่อปัสสาวะ: การใส่สายสวนปัสสาวะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือบวมบริเวณท่อปัสสาวะ ทำให้รู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายเมื่อพยายามปัสสาวะ ซึ่งอาจส่งผลให้ปัสสาวะไม่ออก
  • ความวิตกกังวลและความเครียด: ความกังวลใจเกี่ยวกับอาการหลังถอดสายสวนปัสสาวะอาจทำให้เกิดความเครียด ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการปัสสาวะ ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดปัสสาวะ (Sphincter) หดตัว และขัดขวางการไหลของปัสสาวะ
  • ผลข้างเคียงจากยา: ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้ปัสสาวะลำบากหรือปัสสาวะไม่ออก
  • ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ: ในบางกรณี ปัญหาปัสสาวะไม่ออกอาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือการมีก้อนนิ่วอุดตันทางเดินปัสสาวะ

รับมืออย่างไรเมื่อฉี่ไม่ออกหลังถอดสายฉี่?

สิ่งสำคัญคือต้องใจเย็นและปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้:

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ (ประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน) เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ และทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นน้อยลง ซึ่งอาจช่วยลดอาการระคายเคือง
  2. ผ่อนคลาย: หาที่เงียบสงบและพยายามผ่อนคลายความเครียด ความวิตกกังวลอาจทำให้ปัสสาวะยากขึ้น ลองหายใจเข้าลึกๆ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง
  3. ลองนั่งในท่าที่สบาย: ท่าที่เหมาะสมอาจช่วยให้การปัสสาวะง่ายขึ้น ลองนั่งบนโถส้วมในท่าที่ผ่อนคลาย หรือลองนั่งยองๆ หากทำได้
  4. ประคบอุ่นบริเวณหน้าท้อง: การประคบอุ่นบริเวณหน้าท้องอาจช่วยคลายกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจช่วยให้ปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
  5. เปิดน้ำไหลเบาๆ: การเปิดน้ำไหลเบาๆ อาจช่วยกระตุ้นความรู้สึกอยากปัสสาวะได้
  6. จดบันทึกปริมาณปัสสาวะ: บันทึกปริมาณปัสสาวะที่ขับถ่ายออกมา เพื่อใช้ในการประเมินอาการและแจ้งให้แพทย์ทราบ
  7. หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ: หากรู้สึกปวดปัสสาวะ ให้พยายามเข้าห้องน้ำทันที อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะอาจทำให้กระเพาะปัสสาวะทำงานหนักขึ้น

เมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์?

แม้ว่าอาการปัสสาวะไม่ออกหลังถอดสายสวนปัสสาวะมักจะหายได้เองภายในไม่กี่วัน แต่หากพบอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที:

  • ไม่สามารถปัสสาวะได้เลยภายใน 6-8 ชั่วโมง
  • ปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง
  • มีไข้ หนาวสั่น
  • ปัสสาวะมีเลือดปน
  • มีอาการบวมบริเวณขาหรือข้อเท้า
  • รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน

แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของอาการ และให้การรักษาที่เหมาะสม เช่น การใส่สายสวนปัสสาวะอีกครั้งชั่วคราว การให้ยา หรือการรักษาอื่นๆ ตามความจำเป็น

ข้อควรจำ: ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจเกี่ยวกับอาการหลังถอดสายสวนปัสสาวะ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยคลายความกังวลใจของคุณได้ หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลคุณได้เสมอ