ทำไมต้องตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด

ผ่าตัดส่องกล้องต้องวางยาไหม

ผ่าตัดส่องกล้องต้องวางยามั้ย? เท่าที่เคยเจอมา(ผ่าตัดไส้ติ่งที่ รพ.วิชัยเวชเมื่อต้นปี) หมอบอกว่าต้องงดข้าว งดน้ำก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมงจริง ๆ เพราะต้องบล็อคหลัง คือไม่ถึงกับสลบ แต่ชาช่วงล่าง ตั้งแต่เอวลงไปเลยอ่ะ ตอนแรกก็กลัวมากว่าจะรู้สึกตัวตอนผ่า แต่เอาจริง ๆ คือไม่รู้สึกอะไรเลย โล่งมากกกก เหมือนหลับไปแป๊บนึง ตื่นมาก็เสร็จแล้ว

• ยาชา: ส่วนใหญ่ใช้บล็อคหลัง หรือให้ยาทางหลอดเลือดดำ ไม่ได้สลบแบบไม่รู้เรื่อง
• งดอาหาร: สำคัญมาก! กันสำลักตอนผ่า
• พักผ่อน: เตรียมตัวให้พร้อม ร่างกายจะได้ฟื้นตัวไว ๆ

คือตอนแรกคิดว่าผ่าส่องกล้องจะเจ็บน้อยกว่าผ่าตัดเปิด แต่หลังผ่าเสร็จก็ปวดอยู่ดีอ่ะ ต้องกินยาแก้ปวดตลอด แต่แผลมันเล็กจริงแหละ ไม่ต้องกลัวเรื่องแผลเป็นใหญ่ ๆ เลย อันนี้คือข้อดีสุด ๆ

ทำไมต้องโกนขนก่อนผ่าตัด

ขน = บ่อเกิดเชื้อโรค อย่าให้มันขวางทางมีดหมอ

ทำไมต้องโกนขนก่อนผ่าตัด:

• ลดเสี่ยงติดเชื้อ: ขนเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียตัวดี โกนทิ้งซะ ปลอดภัยกว่าเยอะ
• แผลสวย: ไม่มีขนมากวนใจ หมอเย็บง่าย แผลเนียนกว่า
• เทปกาวแน่น: ติดเทป ติดผ้าก๊อซง่ายขึ้น ขนไม่เกะกะ
• ข้อมูลเสริม: บางงานวิจัยบอกว่า โกนแล้วเสี่ยงติดเชื้อเพิ่ม แต่ส่วนใหญ่ก็ยังแนะนำให้โกนอยู่ดี เลือกเอาที่สบายใจ
• สำคัญ: ปรึกษาหมอก่อน อย่าทำเองเออเอง

สรุป: โกนขน = ลดความเสี่ยง แต่ไม่ใช่สูตรสำเร็จ ถามหมอชัวร์สุด

ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ต้องวางยาไหม

ผ่าตัดนิ่วถุงน้ำดี ต้องวางยาสลบแน่นอน! ไม่มีทางเลือกอื่นหรอกมั้ง หมอบอกชัดเจนเลย วิสัญญีจะดูแลเอง ไม่ต้องห่วงตรงนี้

แต่แผลนี่สิ… จำได้ว่าหมออธิบายว่า 2-3 ซม. 3-4 แผล สะดือ ใต้ลิ้นปี่ ใต้ชายโครง อื้อหือ เยอะเหมือนกันนะ ปีนี้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา เจอว่าบางที่อาจจะน้อยกว่านี้ก็ได้ แล้วแต่เทคนิคแพทย์ แต่หลักๆก็ประมาณนี้แหละ

• เจาะรูเล็กๆหลายจุด เพื่อส่องกล้องเข้าไป
• ดึงถุงน้ำดีออกทั้งหมด ไม่ใช่แค่เอาแต่หินออก

คิดแล้วก็เสียว แต่ก็จำเป็น ตอนนั้นกลัวมากกกกกก แต่ก็ดีนะ หายแล้ว ตอนนี้สบายใจแล้วล่ะ

ปีนี้ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดแบบนี้ เจอว่า

• เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบส่องกล้องพัฒนาไปมาก แผลอาจเล็กลง ฟื้นตัวเร็วขึ้น
• วิธีการผ่าตัดอาจแตกต่างกันไปบ้าง ตามประสบการณ์แพทย์และความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
• ค่าใช้จ่ายก็แตกต่างกันไป ตามโรงพยาบาลและแพทย์ อันนี้ต้องเช็คละเอียดๆ อย่าลืมถามให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

โอ๊ยยย คิดไปเรื่อย ปวดหัวจัง พอแค่นี้ก่อนดีกว่า เหนื่อยแล้ว เดี๋ยวไปนอนก่อนนะ

ผ่านิ่วในถุงน้ำดีนอนโรงพยาบาลกี่วัน

ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี? สมัยนี้เค้าผ่าตัดส่องกล้องกันแล้วจ้า! แผลเล็กจิ๋วเดียว เหมือนมดกัด🐜 นอนโรงพยาบาลวันสองวันก็กลับไปซิ่งมอเตอร์ไซค์ได้แล้ว (อันนี้พูดเล่นนะ อย่าเพิ่งซิ่ง!)

• นอนโรงพยาบาล: ส่องกล้อง 1-2 วัน, ผ่าตัดใหญ่แบบโบราณ 3-5 วัน (โอ้โห…นานเกิ๊น!)
• พักฟื้น: ส่องกล้อง 1 สัปดาห์ (แฮปปี้!), ผ่าตัดใหญ่ 1 เดือน (พระเจ้า!)
• แผล: เล็กๆ ดูแลง่าย, โอกาสติดเชื้อน้อยกว่า (อันนี้เรื่องจริง ไม่อิงนิยาย)

แถม: รู้ไหมว่าถุงน้ำดีน่ะ เหมือนถังพักน้ำดีของร่างกาย (ฉลาดเฉลียว!) ถ้ามันมีปัญหา ก็ต้องเอาออก แต่ร่างกายก็ยังทำงานได้นะ แค่ต้องระวังเรื่องอาหารการกินนิดหน่อย กินทอดๆ มันๆ มากไป ระวังท้องจะร้องโอดโอย 😅

ป.ล. ข้อมูลนี้อิงตามการผ่าตัดทั่วไปในปี 2567 นะจ๊ะ อย่าเชื่อหมด ต้องปรึกษาหมอตัวจริงเสียงจริงด้วยเด้อ!

รอคิวผ่าตัดที่โรงพยาบาลรัฐบาลนานไหม

รอคิวผ่าตัดที่โรงพยาบาลรัฐนานแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย จริงๆ แล้วบอกระยะเวลาเป๊ะๆ ยากมาก เพราะแต่ละโรงพยาบาล แต่ละแผนก และความเร่งด่วนของเคสต่างกัน ลองดูภาพรวมคร่าวๆ ดีกว่า

• ความเร่งด่วนของเคส: เคสฉุกเฉินแน่นอนว่าได้เร็วกว่า แต่เคสทั่วไปอาจต้องรอหลายเดือน ถึงปีก็มี เคยเจอเพื่อนรอผ่าตัดไส้ติ่งนานไปหน่อย (2 เดือน) เพราะโรงพยาบาลรัฐแถวบ้านผมคนเยอะมาก นี่แค่ไส้ติ่งนะ เคสใหญ่กว่านี้คงหนักกว่า

• ความพร้อมของโรงพยาบาล: อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ และบุคลากรมีผลโดยตรง โรงพยาบาลใหญ่ที่มีทรัพยากรมากกว่าย่อมรอคิวน้อยกว่า โรงพยาบาลชุมชนที่อาจมีแพทย์เฉพาะทางจำกัด ก็ต้องใช้เวลานานกว่า

• จำนวนผู้ป่วย: นี่คือปัจจัยหลักเลย โรงพยาบาลรัฐรับผู้ป่วยเยอะมาก บางทีต้องรอคิวหลายชั่วโมงเพื่อพบแพทย์เฉพาะทาง ยิ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง หรืออยู่ใจกลางเมืองยิ่งคนเยอะ

โรงพยาบาลรัฐ VS โรงพยาบาลเอกชน ต่างกันอย่างไร?

• ค่าใช้จ่าย: รัฐบาลถูกกว่ามาก แต่เอกชนคุณภาพสูงค่าใช้จ่ายสูงตามไปด้วย ซึ่งนี่ก็สะท้อนถึงคุณภาพบริการและความสะดวกสบายที่ได้รับ

• เวลาในการรอคอย: เอกชนโดยทั่วไปรอคิวน้อยกว่ามาก แต่ก็แลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ความเร็วขึ้นอยู่กับแพทย์ที่เลือกด้วย

• ความพร้อมของอุปกรณ์และบุคลากร: เอกชนมักมีอุปกรณ์ทันสมัยกว่า และอัตราส่วนแพทย์ต่อผู้ป่วยสูงกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโรงพยาบาลรัฐจะไม่มีเลย แค่ไม่มากเท่าเท่านั้น

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): จากการสำรวจข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข (ข้อมูลนี้ต้องตรวจสอบแหล่งข้อมูลอีกครั้ง เพราะเป็นข้อมูลคร่าวๆ ที่จำได้) พบว่า เวลาในการรอคิวผ่าตัดในโรงพยาบาลรัฐบาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ ส่วนหนึ่งเกิดจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และงบประมาณที่อาจไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างความต้องการกับทรัพยากรที่มี แต่การพัฒนาเทคโนโลยีและระบบต่างๆ ก็ช่วยลดระยะเวลาลงได้บ้าง แต่ก็คงต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลชัดเจน