ทำไม กระเเอมบ่อย

กระแอมบ่อย… อาการเล็กๆ ที่อาจแฝงไว้ด้วยสาเหตุใหญ่

อาการกระแอมบ่อยๆ เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไป หลายคนอาจมองข้ามไปคิดว่าเป็นเพียงอาการเล็กน้อยที่เกิดจากคอแห้ง หรือคออักเสบธรรมดาๆ แต่แท้จริงแล้ว การกระแอมบ่อยอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ได้หลากหลาย และการปล่อยปละละเลยอาจนำไปสู่ภาวะที่ร้ายแรงกว่าได้ในที่สุด

นอกเหนือจากคออักเสบซึ่งเป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย สาเหตุของการกระแอมบ่อยยังมีอีกมากมายที่เราควรตระหนัก อาทิเช่น:

• สภาพแวดล้อม: อากาศแห้ง ฝุ่นละออง มลภาวะทางอากาศ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เยื่อบุในลำคอแห้งกร้าน กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองและกระแอมบ่อย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวหรือฤดูแล้ง ซึ่งความชื้นในอากาศต่ำ จะยิ่งทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงขึ้น

• การใช้งานเสียงมากเกินไป: ผู้ที่ต้องใช้เสียงพูดหรือร้องเพลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ครู นักร้อง หรือพนักงานโทรศัพท์ มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคืองกล่องเสียง นำไปสู่การกระแอมบ่อย เพราะกล่องเสียงทำงานหนักเกินไป

• การแพ้: การแพ้สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง ขนสัตว์ หรืออาหารบางชนิด อาจทำให้เกิดอาการคันคอ ระคายเคือง และกระแอมบ่อย โดยมักมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น น้ำมูกไหล จาม คัดจมูก

• โรคกรดไหลย้อน: กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร อาจทำให้เยื่อบุหลอดอาหารและลำคออักเสบ เกิดการระคายเคือง และนำไปสู่การกระแอมบ่อย โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร

• การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์: สารพิษจากบุหรี่และแอลกอฮอล์ จะทำลายเยื่อบุในลำคอ ทำให้เกิดการระคายเคือง และกระแอมบ่อย นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจอื่นๆ อีกด้วย

• ผลข้างเคียงจากยา: ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการระคายเคืองในลำคอ และกระแอมบ่อย ควรตรวจสอบข้อมูลยาที่รับประทานอย่างละเอียด

• โรคทางเดินหายใจ: โรคต่างๆ เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ อาจมีอาการกระแอมบ่อยเป็นอาการแสดงร่วมด้วย

หากอาการกระแอมบ่อยไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ไข้ เจ็บคออย่างรุนแรง ไอ เหนื่อยง่าย หรือหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม อย่าละเลยอาการเล็กๆ เพราะมันอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่ตรงจุด จะช่วยให้คุณหายจากอาการกระแอมบ่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต