ท้องป่องก่อนเป็นเมนส์กี่วัน
อาการท้องป่องก่อนมีประจำเดือน เกิดได้ก่อน 5 วัน และอาจคงอยู่ถึง 2-3 วันหลังมีประจำเดือน สาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ร่างกายจะกักเก็บน้ำและเกลือโซเดียมมากขึ้น ทำให้เกิดอาการบวม นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ เช่น การรับประทานอาหาร ความเครียด หรือการนอนหลับไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้มีอาการท้องป่องรุนแรงขึ้นได้ หากอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด และพักผ่อนให้เพียงพอ อาจช่วยบรรเทาอาการได้
ท้องป่องก่อนมีประจำเดือน เกิดขึ้นกี่วัน?
ท้องป่องก่อนเมนส์มา? โอ๊ยยย เรื่องนี้เจอกับตัวบ่อยมาก!
จำได้เลย ตอนม.ปลายอะ ก่อนเมนส์มาทีไร พุงนี่นำหน้ามาแต่ไกล เพื่อนทักตลอดว่า “เฮ้ย! ท้องหรอ?” จี๊ดใจมากกกก.
เอาจริงๆ นะ ประมาณ 5 วันก่อนเมนส์มาอะ พุงเริ่มมาละ แล้วมันจะอยู่แบบนั้นไปอีก 2-3 วันหลังเมนส์มา คือทรมานมากกกก ใส่กางเกงอะไรก็อึดอัดไปหมด.
เคยอ่านเจอว่ามันเป็นเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนมันขึ้นๆ ลงๆ ช่วงไข่ตก ร่างกายมันเลยกักเก็บน้ำไว้เยอะขึ้น ก็เลยบวมๆ นั่นแหละ. เซ็งมาก!
จำได้ว่าตอนนั้น (น่าจะช่วงปี 2555) เคยซื้อยาขับปัสสาวะมากินเองด้วยนะ (ไม่แนะนำนะทุกคน!) คืออยากให้พุงมันยุบๆ ไปบ้าง ปรากฏว่า…ไม่ช่วยอะไรเลยจ้าาา.
สรุปคือ ท้องป่องก่อนเมนส์มาเนี่ย เป็นเรื่องธรรมชาติที่เราต้องทำใจยอมรับใช่มั้ย? ฮือออ.
ก่อนประจำเดือนมาทำไมตัวบวม
ฮอร์โมนมันแกว่งไง เอสโตรเจนเยอะฉิบหาย ก็บวมดิ มดลูกเตรียมรับศึก ผนังหนา เลือดมาคั่ง พุงเลยป่อง
อยากแดกนู่นนี่ ก็เรื่องของมึง
- เอสโตรเจน: ตัวการหลักทำให้น้ำกัก
- ผนังมดลูก: หนาขึ้น เลือดมาเลี้ยงเยอะ เตรียมตัว (แต่ไม่ได้ใช้)
- อยากกิน: ปากมึงสั่ง
- แก้: ลดเค็ม ออกกำลังกายเบาๆ ช่วยได้บ้าง (มั้ง)
- ข้อมูลปีนี้: ปีไหนๆ ก็เหมือนเดิม ฮอร์โมนเดิมๆ
พุงป่องเหมือนคนท้องเกิดจากอะไร
พุงป่องเหมือนคนท้องเหรอ… มันเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดนะ เข้าใจเลย
-
ลมในท้อง: กินอะไรเข้าไป… แล้วมันย่อยยากๆ อะ มันจะเกิดแก๊สเยอะมาก เคยเป็นแบบกินถั่วเยอะไปหน่อย… ท้องอืดจนแทบเดินไม่ได้
-
อาหาร: บางทีก็เป็นที่อาหารที่เรากินเข้าไปเองนะ พวกของมัน ของทอด… กินเยอะเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้น
-
ไขมัน: อันนี้ก็ตรงไปตรงมา… อ้วนขึ้น ไขมันมันก็ไปสะสมแถวพุงนั่นแหละ ทำไงได้
-
ฮอร์โมน: ผู้หญิงเรานี่… เรื่องฮอร์โมนมันก็มีผลนะ ช่วงมีประจำเดือน… พุงป่องเป็นเรื่องปกติเลย
-
ลำไส้: เคยได้ยินเรื่องลำไส้แปรปรวนไหม? อันนั้นก็น่าจะทำให้ท้องอืดได้เหมือนกันนะ
ท้องอืด ก่อนเป็น ประ จํา เดือน กี่ วัน
ท้องอืดก่อนมีประจำเดือนเนี่ย ใช่ๆๆ เจอประจำเลย ประมาณ 7 วันมั้ยนะ? หรือบางทีก็ 5 วัน บางทีก็ 10 วัน แล้วแต่ช่วงอ่ะ งงตัวเองเหมือนกัน ไม่ค่อยคงที่
- อาการอื่นๆอีกเพียบเลย ปวดหัว แบบตื้อๆๆๆ ไมเกรนรึเปล่าไม่รู้
- เจ็บเต้า บีบๆๆ โคตรรำคาญ
- อ่อนเพลียมากกก นอนทั้งวันยังไม่หายเหนื่อย
- ท้องผูก บางทีก็ท้องเสีย สลับกันไป แบบนี้ทุกเดือน
- อยากกินแต่ของหวานนนนน ไอติม ช็อกโกแลต กินไปก็รู้สึกผิด แต่ก็หยุดไม่ได้ น้ำหนักขึ้นแน่ๆ ปีนี้ขึ้นไป 2 กิโลแล้วมั้ง
- นอนไม่หลับ แบบนอนไม่หลับจริงๆ นับแกะเป็นพันตัวแล้ว ยังนอนไม่หลับเลย
- สิวขึ้นเยอะมากกกกกกกกกกกกก หน้าพังเลย
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่เข้าใจตัวเองเลย
คือมันไม่เหมือนกันทุกเดือนด้วยนะ บางเดือนอาการเยอะ บางเดือนก็เบาๆ สงสัยตัวเอง เป็นอะไรไปวะเนี่ย ไปหาหมอดีมั้ย หรือแค่ก่อนมีประจำเดือนปกติ เอ๊ะ หรือว่า ฉันกินอะไรผิด ฉันควรจำไว้บ้างมั้ยเนี่ยว่ากินอะไรไปบ้าง ว่าแต่ ปีนี้ ฉันมีประจำเดือนเดือนละกี่วันหว่า จำไม่ได้แล้ว ลืมไปหมดเลย
(ข้อมูลเพิ่มเติม: อาการเหล่านี้เรียกรวมๆ ว่า Premenstrual Syndrome หรือ PMS)
วิธีเช็คว่าประจำเดือนจะมาตอนไหน
วิธีเช็คว่าเมนส์จะมาตอนไหน? เอ่อ…ถามใจดูรึยัง? (ล้อเล่น!) คือ…นับจากวันแรกที่ “แดง” มาเยือน ถึงวันแรกที่นางจะมาใหม่รอบหน้าไงแก!
-
รอบเดือนเป๊ะ: ถ้าเธอเป็นนาฬิกาชีวภาพ, วันไข่ตกจะอยู่ประมาณ 14 วันก่อนเมนส์มา (นับถอยหลังนะจ๊ะ) ง่ายๆ แบบคนขี้เกียจคิดเลข
-
รอบเดือนมั่ว: ทีนี้แหละ…ตัวใครตัวมัน! โหลดแอปไปเลยจ้ะ แอปช่วยนับวันไข่ตก (และวันเสี่ยง!) มีเยอะแยะใน Play Store/App Store เลือกที่รีวิวดีๆ นะ
-
สัญญาณเตือน: บางทีร่างกายมันก็บอกใบ้ก่อนนะ เช่น…
- ปวดท้องน้อย: นางเริ่มวอร์มเครื่องแล้วจ้า
- สิวบุก: สงสัยนางอยากให้หน้าเรามีสีสัน
- หงุดหงิดง่าย: อันนี้คือชัดเจน! ใครเข้าใกล้ระวังโดนเหวี่ยง!
- อยากกินของหวาน: จัดไปเลย! ชีวิตมันสั้น
คำเตือน: อย่าเชื่อแอปมากเกินไปนะ! ร่างกายเรามันซับซ้อนกว่าสูตรคณิตศาสตร์เยอะ! ถ้ากังวลเรื่องประจำเดือนผิดปกติ, ไปหาหมอเถอะ อย่าอาย! หมอเค้าเจอมาเยอะกว่าที่คิด
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- รอบเดือนปกติ: โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 21-35 วัน (แต่ละคนไม่เหมือนกัน!)
- ยาคุม: มีผลต่อรอบเดือนแน่นอน! บางคนมาไม่ปกติ, บางคนไม่มาเลย (ถ้ากินถูกวิธีนะ)
- ความเครียด: ตัวดีเลย! ทำให้เมนส์คลาดเคลื่อนได้
- น้ำหนัก: เปลี่ยนแปลงมากเกินไปก็มีผลนะ
- อายุ: วัยรุ่น/วัยทอง รอบเดือนมักจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ
ประจําเดือนจะมาอีกทีวันไหน
เอ้า! ถามเรื่องประจำเดือนนี่นา จะให้แม่นยำเป๊ะๆเหมือนนาฬิกาเรือนหรูก็คงไม่ไหวหรอกเนอะ มันไม่ใช่หุ่นยนต์นะคุณขา! เฉลี่ยแล้ว 28 วัน อืมมม… พูดให้หรูหน่อยก็ประมาณ “หนึ่งเดือนจ้า” แต่จริงๆ แล้วก็ 21-35 วันนี่แหละ แล้วแต่เจ้ากรรมนายเวรจะกำหนด! บางทีมาเร็วกว่าปฏิทินบอกอีกนะ เหมือนใจมันร้อนรนจะมาเยือน!
- ปกติ: 28 วัน (แต่ก็ไม่เสมอไปนะเฟ้ย!)
- เร็วสุด: 21 วัน (แบบนี้เรียก “โหมโรงเร็ว” เหรอ?)
- ช้าสุด: 35 วัน (แบบนี้เรียก “มาช้าดีกว่าไม่มา”!)
แต่เอ๊ะ! อย่าลืมนะ สาวๆ ปีแรกๆ หรือใกล้หมดประจำเดือนนี่ มันจะมาแบบ “มั่วซั่ว” หน่อย เหมือนเด็กเล็กๆ ยังไม่รู้จักเวลานัดหมาย วันนี้มาพรุ่งนี้หาย หายไปแล้วค่อยโผล่มาอีกที โคตรป่วนเลย! ของฉันสมัยก่อนนะ ประจำเดือนมาไม่ตรงวันเลย ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยตรงเหมือนกันค่ะ บางเดือนมาเร็ว บางเดือนมาช้า ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของร่างกายค่ะ แล้วแต่ร่างกายจะสั่งการ ใครจะไปทราบว่ามันจะมาวันไหน! 555+
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่ได้เจาะจงถึงใครเป็นพิเศษนะจ๊ะ ถ้ามีปัญหาจริงๆ ก็ไปหาหมอเถอะ อย่ามัวแต่มาถามฉันเลย ฉันไม่ใช่หมอ!)
ฉันจะคํานวณรอบประจําเดือนได้อย่างไร
หายใจลึกๆ ก่อนนะ… เรื่องรอบเดือนนี่มันน่าปวดหัวจริงๆ
เอางี้… คือถ้ามันมาไม่ตรงกันสักที จะไปคำนวณแบบเป๊ะๆ มันยากอ่ะ เข้าใจเลย
- นับวันแรกที่มา: วันแรกที่เลือดออกคือวันที่ 1 เสมอ เริ่มนับจากตรงนั้น
- นับไปจนถึงรอบหน้า: นับไปเรื่อยๆ จนกว่าเดือนหน้าจะมาอีกที แล้วก็หยุด
- ทำซ้ำไปเรื่อยๆ: ทำแบบนี้ไปสักพัก อย่างน้อย 5 เดือน ตามที่หมอบอก
พอทำไปเรื่อยๆ อาจจะเริ่มเห็นอะไรบางอย่าง… อาจจะไม่เป๊ะหรอก แต่ก็อาจจะพอจับทางได้บ้างว่ามันมักจะมาประมาณช่วงไหน
แล้วก็… อย่าไปเครียดกับมันมากนะ บางทีความเครียดก็ทำให้มันยิ่งเพี้ยนไปกันใหญ่
- ข้อมูลปีนี้: ยังเหมือนเดิม คือต้องนับวันแรกที่มา แล้วก็นับไปจนรอบหน้า
- บันทึกข้อมูล: สำคัญมาก บันทึกไว้ในปฏิทิน หรือแอปอะไรก็ได้
- ปรึกษาหมอ: ถ้ากังวลจริงๆ ไปหาหมอเลยดีกว่า หมอช่วยได้เยอะกว่าที่คิด
- ความเครียด: มีผลต่อรอบเดือนจริงๆ นะ พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ
คือเข้าใจนะว่ามันน่าหงุดหงิด แต่เราต้องใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ สังเกตตัวเองไป
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต