หมอมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง
หน้าที่หลักของแพทย์:
- ตรวจวินิจฉัยโรค: ประเมินอาการ หาสาเหตุความเจ็บป่วย
- บำบัดรักษา: สั่งยา ผ่าตัด บำบัดฟื้นฟู
- ส่งเสริมสุขภาพ: ป้องกันโรค ให้คำแนะนำสุขภาพ
- ฟื้นฟูสมรรถภาพ: ช่วยฟื้นฟูร่างกาย/จิตใจ กลับสู่ภาวะปกติ
- ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม: ครอบคลุมทั้งกายและใจ
สถานที่ทำงาน:
- โรงพยาบาลรัฐ
- โรงพยาบาลเอกชน
- คลินิก
แพทย์จึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
หน้าที่หมอคืออะไร?
หน้าที่หมอเหรอ? อืม… หมอเนี่ยนะ หลักๆ คือ ช่วยให้คนหายป่วยมั้ง ไม่ใช่แค่รักษาอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการป้องกันไม่ให้ป่วยด้วยนะ คือไม่ได้แค่จ่ายยา แต่ต้องดูว่าอะไรคือต้นเหตุของโรค แล้วก็ให้คำแนะนำอะไรพวกนี้ด้วย
แล้วก็ไม่ใช่แค่ร่างกายนะ จิตใจก็สำคัญ หมอต้องเข้าใจว่าคนเรามันซับซ้อน บางทีร่างกายป่วยเพราะใจไม่ดีด้วยซ้ำ
ที่ทำงานก็มีหลายที่ โรงพยาบาลรัฐ เอกชน คลินิกส่วนตัว เยอะแยะไปหมด แล้วแต่ความถนัดและความชอบของแต่ละคน
ฉันเคยไปหาหมอที่คลินิกแถวบ้าน หมอใจดีมาก คุยเก่ง ถามละเอียด (คลินิกหมอ… จำชื่อไม่ได้ละ อยู่ตรงข้ามเซเว่น ใกล้ๆ ป้ายรถเมล์) คือรู้สึกว่าเค้าใส่ใจเราจริงๆ นะ ไม่ได้รีบร้อนตรวจๆ จ่ายยาแล้วก็จบๆ ไป
แล้วก็… เอ่อ… หมอต้องเรียนเยอะมากกกกกกกกกกกก กว่าจะเป็นหมอได้เนี่ย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ต้องอดทนสุดๆ อ่ะ นับถือจริงๆ
หมอมีหน้าที่ทําอะไรบ้าง
กลางดึกแบบนี้… คิดถึงตอนเรียนหมอจัง เหนื่อยมาก แต่ก็.. ภูมิใจนะ ตอนนั้น
หน้าที่หลักๆ เลยก็คือ รักษาคน ใช่ไหม ตรวจโรค สั่งยา ผ่าตัด แล้วก็ดูแลคนไข้ให้ดีขึ้น นี่แหละ สิ่งที่เราเรียนมาทั้งหมด
แต่…มันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ บางทีก็เครียด เจอเคสหนักๆ ก็รู้สึกท้อ คิดถึงวันนั้น.. เคสเด็กอายุ 7 ขวบ อุบัติเหตุ ช่วยเท่าไหร่ก็ไม่ทัน.. จำได้แม่น
- ตรวจวินิจฉัยโรค
- ให้การรักษา (ยา, ผ่าตัด, บำบัด)
- ดูแลผู้ป่วย
- ป้องกันโรค
- ให้คำแนะนำสุขภาพ
ปีนี้ ผมทำงานที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ส่วนมากเป็นเคสทั่วไป แต่ก็มีเคสหนักๆบ้าง
บางวันรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอ เป็นความรู้สึกแย่ๆ ที่ติดอยู่ในหัว แต่ก็พยายามทำต่อไป เพราะ..ยังมีคนรอความช่วยเหลืออยู่
หมอทำอะไรบ้างในแต่ละวัน
หมอทำอะไรบ้างเหรอ…
มันก็… วนๆ อยู่อย่างนั้นแหละนะ
- เช้ามาก็ต้อง “ราวน์” ก่อนเลย เดินดูคนไข้แต่ละคน อาการเป็นยังไงบ้างเมื่อคืน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
- แล้วก็… ตรวจคนไข้ ที่รออยู่ บางทีก็เจอเคสยากๆ ที่ต้องคิดเยอะๆ บางทีก็เจอคนไข้ที่ทำให้รู้สึกดี ที่เขาดีขึ้น
- เสร็จแล้วก็ต้องมานั่ง เขียนรายงาน เขียนทุกอย่างที่เจอ เขียนสิ่งที่ต้องทำต่อ… บางทีก็รู้สึกว่าเขียนเยอะเกินไป
- ช่วงบ่ายๆ ก็จะมี ประชุม สารพัดประชุม ประชุมเรื่องคนไข้ ประชุมเรื่องแผนงาน ประชุมเรื่องงบประมาณ… บางทีก็เบื่อ
- พอเย็นๆ หน่อยก็ต้องมา เคลียร์งานธุรการ จ่ายยา สั่ง Lab สั่ง X-ray… งานมันไม่เคยหมดจริงๆ
- แล้วก็ต้องมานั่ง เก็บชั่วโมง CME อ่านเปเปอร์ ดูงานวิจัย… เรียนรู้ตลอดเวลา กลัวจะตามโลกไม่ทัน
- บางทีก็ต้อง ตามเรื่องคนไข้ ที่อาการไม่ดี โทรหาญาติ คุยกับพยาบาล… เป็นห่วงเขาจริงๆ นะ
- แล้วก็… ต้อง อัพเดทความรู้ เรื่องโรค เรื่องยา เรื่องการรักษาใหม่ๆ ตลอดเวลา โลกมันเปลี่ยนไปเร็วมาก
แล้วต้องเจออะไรบ้าง… อันนี้สิยาก
- ความเครียด… นี่คือสิ่งที่เจอทุกวัน เครียดเรื่องคนไข้ เครียดเรื่องงาน เครียดเรื่องส่วนตัว
- ความกดดัน… จากคนไข้ จากญาติ จากหัวหน้า จากตัวเอง
- ความเหนื่อยล้า… ทั้งกายและใจ ทำงานเยอะ นอนน้อย พักผ่อนไม่พอ
- ความผิดหวัง… เวลาที่เราช่วยคนไข้ไม่ได้ เวลาที่เราทำผิดพลาด
- ความเสียใจ… เวลาที่เราต้องสูญเสียคนไข้ไป
- ความไม่เข้าใจ… จากคนรอบข้าง ที่ไม่เข้าใจว่าเราต้องเจออะไรบ้าง
- ความโดดเดี่ยว… บางทีก็รู้สึกว่าเราอยู่คนเดียว บนโลกใบนี้
แต่ถึงอย่างนั้น… มันก็ยังมี “ความสุข” เล็กๆ น้อยๆ ซ่อนอยู่
- เวลาที่คนไข้หายดี
- เวลาที่คนไข้ยิ้มให้
- เวลาที่เราได้ช่วยเหลือคนอื่น
- เวลาที่เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- เวลาที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก
…มันก็แค่นั้นแหละมั้ง ชีวิตหมอ
ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม (อิงตามปีปัจจุบัน 2567):
- สถานการณ์ความเครียดและความเหนื่อยล้าของบุคลากรทางการแพทย์ ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
- การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการรักษาพยาบาล มีบทบาทมากขึ้น แต่ก็ยังต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ
- ความคาดหวังของคนไข้และญาติ ยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทายในการทำงานของแพทย์
- ประเด็นเรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ และสิทธิของผู้ป่วย ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ
หมอมีเฉพาะทางอะไรบ้าง
หมอเฉพาะทางนะเหรอ? โอ้โห เยอะมาก! ตอนนั้นที่ฉันปวดท้องหนักตอนตี 3 ที่ รพ.เกษมราษฎร์ บางแค หมอที่ผ่าตัดให้ฉันเป็นศัลยแพทย์แน่ๆ คือเค้าเก่งมาก แผลเล็กนิดเดียว หายไวสุดๆ
แล้วก็น้องที่บ้านอ่ะ เป็นภูมิแพ้หนักมาก ต้องไปหาหมอกุมารเวชทุกเดือนเลย ที่คลินิกหมอเด็กแถวบ้าน ตรงซอยอารีย์นะ หมอใจดีมาก เล่นกับน้องตลอด
ส่วนสูตินรีเวชฯ นี่ เพื่อนสนิทฉันไปฝากท้องที่ รพ.วิชัยเวช หนองแขม เพราะหมอที่นั่นดูแลดีมาก ให้คำปรึกษาละเอียดสุดๆ
เคยมีช่วงนึง เครียดจัดจนนอนไม่หลับ ต้องไปหาจิตแพทย์ที่ รพ.ศรีธัญญา หมอเค้าค่อยๆ คุย ค่อยๆ ถาม จนเราสบายใจขึ้นเยอะเลย
แล้วก็เคยเป็นผื่นแพ้ที่หน้า ไปหาหมอผิวหนังที่คลินิกตรงสยามสแควร์ หมอเค้าบอกว่าแพ้ครีมกันแดด ตัวเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
จักษุฯ นี่สำคัญมาก พ่อฉันไปผ่าตัดต้อกระจกที่ รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) หมอเก่งมาก ตอนนี้มองเห็นชัดแจ๋วเลย
โสต ศอ นาสิกฯ นี่ เคยเป็นหูน้ำหนวกตอนเด็กๆ แม่พาไปหาหมอที่ รพ.จุฬาฯ หมอเค้าส่องหู ทำความสะอาดให้ หายเลย
ประสาทวิทยา นี่ คุณยายฉันเป็นอัลไซเมอร์ ต้องไปหาหมอที่ รพ.รามาธิบดี หมอเค้าให้ยา ช่วยให้ยายความจำดีขึ้นบ้าง
เอาจริงๆ นะ หมอแต่ละสาขาเนี่ย เค้าเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจริงๆ เราควรหาหมอให้ถูกโรคอ่ะ จะได้รักษาได้ตรงจุด
- ศัลยกรรม: ผ่าตัด รักษาโรคด้วยการผ่าตัด (เช่น ผ่าไส้ติ่ง, ผ่าตัดมะเร็ง)
- กุมารเวชศาสตร์: ดูแลสุขภาพเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่น (เช่น ฉีดวัคซีน, รักษาโรคเด็ก)
- สูตินรีเวชวิทยา: ดูแลสุขภาพผู้หญิง เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และระบบสืบพันธุ์ (เช่น ฝากท้อง, ตรวจมะเร็งปากมดลูก)
- จิตเวชศาสตร์: ดูแลสุขภาพจิตและอารมณ์ (เช่น รักษาโรคซึมเศร้า, วิตกกังวล)
- โรคผิวหนัง: ดูแลรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง ผม และเล็บ (เช่น สิว, ผื่นแพ้)
- จักษุวิทยา: ดูแลรักษาสายตาและโรคที่เกี่ยวกับดวงตา (เช่น ต้อกระจก, สายตาสั้น)
- โสตศอนาสิกวิทยา: ดูแลรักษาโรคที่เกี่ยวกับหู คอ จมูก (เช่น หูน้ำหนวก, ไซนัสอักเสบ)
- ประสาทวิทยา: ดูแลรักษาโรคที่เกี่ยวกับสมองและระบบประสาท (เช่น อัลไซเมอร์, พาร์กินสัน)
แพทยศาสตร์ ทํางานอะไร
เรียนจบแพทย์นี่นะ เหมือนได้ใบเบิกทางไปดินแดนแห่งความเหนื่อย…แต่รวย! (บางคนนะ บางคน!) ล้อเล่น 😂 จริงๆ แล้วจบไปทำอะไรได้เยอะมาก ชีวิตมีสีสันกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่จ้องตำราหรือผ่าตัดอย่างเดียว จะบอกให้ว่า…
- ราชการ: เป็นข้าราชการในกระทรวงต่างๆ เช่น สาธารณสุข, กลาโหม, มหาดไทย อะไรพวกนี้ ฟังดูขลังๆ ดี เหมือนได้ช่วยชาติ แต่ paperwork ก็เยอะนะ บอกเลย เพื่อนผมทำอยู่บ่นทุกวันว่าเซ็นจนมือหงิก!
- เอกชน: อันนี้แหละ หลายคนใฝ่ฝัน โรงพยาบาล คลินิก สถานประกอบการส่วนตัว รายได้ดี๊ดี (ถ้าเก่งและขยันนะ) แต่แข่งขันสูงมาก ต้องสตรอง! บางทีก็ต้องทำการตลาดตัวเองด้วย เหมือนขายครีมเลย ฮ่าๆ
- อาจารย์: ถ้าชอบสอน ชอบแชร์ความรู้ เป็นอาจารย์แพทย์ก็ได้นะ ได้ปั้นหมอรุ่นใหม่ๆ รู้สึกภูมิใจดี แถมเวลาว่างเยอะกว่า (มั้ง?) ผมเคยคิดจะเป็นนะ แต่ติดตรงขี้เกียจตรวจการบ้านนี่แหละ
- นักวิจัย: ถ้าชอบงานวิจัย ชอบค้นคว้า อันนี้ก็ตอบโจทย์ อาจจะได้คิดค้นยารักษาโรคใหม่ๆ เจ๋งไปเลย! แต่เส้นทางนี้ต้องอดทนสูงนะ กว่าจะสำเร็จแต่ละอย่าง ใช้เวลาเป็นชาติ (เว่อร์ไป)
ส่วนตัวผมนะ (ตอนนี้ยังเรียนอยู่) คิดว่าจบไปอยากเปิดคลินิกเล็กๆ แล้วก็เขียนนิยายไปด้วย 😂 มันเป็นความฝัน อยากมีชีวิตแบบ slow life แต่คงยากหน่อย 555 เอาเป็นว่า เรียนจบแพทย์แล้ว ทางเลือกเยอะ ขึ้นอยู่กับความชอบและความสามารถของแต่ละคน สู้ๆ นะทุกคน! (โดยเฉพาะตัวเอง)
ปี 2024 นี้ เห็นว่ามีเทรนด์ telehealth มาแรงด้วย ใครสนใจก็ลองศึกษาดูนะ อนาคตไกลแน่นอน! อีกอย่าง AI ทางการแพทย์ก็กำลังบูม ถ้าเก่งด้านนี้ด้วย รับรองรุ่ง!
1วันของหมอทำอะไรบ้าง?
อืมมม… วันๆของหมอเนี่ยนะ ก็วุ่นวายพอตัวเลยแหละ อย่างเราเนี่ย เช้าๆก็ต้องไปทํารอบ ตรวจคนไข้ บางทีก็เยอะมากกกกก แบบตรวจจนเมื่อยหลังเลย แล้วก็ต้องมาเขียนรายงานอีก ปวดหัวมากกกก บางวันก็มีประชุม แบบประชุมทีม ประชุมเคส บางทีก็ประชุมเกี่ยวกับยาใหม่ๆ คือแบบ งานเยอะมากกกก จริงๆนะ แล้วพอตกเย็น บางทีก็ยังไม่จบนะ ยังต้องมานั่งเคลียร์งานเอกสาร แบบ งานธุรการอะไรพวกนี้อีก เหนื่อยสุดๆ แล้วก็ต้องอ่านหนังสือ อัพเดทความรู้ใหม่ๆ ตลอด งานวิจัย ยาใหม่ คือ หมอต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิตเลยนะ บางทีก็ต้องจัดการเรื่องคนไข้ที่ admit อยู่ด้วย โทรคุยกับญาติคนไข้ อธิบายนู่นนี่นั่น คือมันเยอะอะ บอกเลย
- ตรวจคนไข้ (อันนี้หลักๆเลย บางวันคนไข้เยอะมากกกกกก)
- เขียนรายงาน (เขียนจนมือหงิกอะ แง)
- ประชุม (มีหลายแบบ ทั้งประชุมทีม ประชุมเคส)
- เอกสาร (อันนี้ก็เยอะ ทำไม่หวาดไม่ไหว)
- อัพเดทความรู้ (ต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิต จริงๆนะ)
- ดูแลคนไข้ที่ admit (อันนี้ก็สำคัญ ต้องติดตามอาการ)
ปีนี้เราก็เปลี่ยนมาดูเคสออนไลน์ด้วยนะ บางทีก็มีคนไข้ต่างจังหวัด คือมันก็สะดวกดี แต่บางทีก็คิดถึงการตรวจแบบเจอตัวจริงมากกว่าอะ รู้สึกว่ามันได้คุย ได้ตรวจละเอียดกว่า แต่แบบนี้ก็ช่วยประหยัดเวลาเดินทางของคนไข้ได้เยอะเลย เราว่ามันก็ดีนะ คือมันก็มีทั้งข้อดี ข้อเสียอะเนอะ
แล้วที่ทำงานเรามีโปรเจคใหม่ด้วย เกี่ยวกับการใช้ AI ช่วยวินิจฉัยโรค น่าสนใจมากๆเลย เราก็พยายามศึกษาอยู่ คือ มันก็เป็นเรื่องใหม่ ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ แต่คิดว่าอนาคตน่าจะช่วยงานหมอได้เยอะเลย
แนวทางการเข้าสู่อาชีพหมอมีอะไรบ้าง?
เฮ้ออออ จะเรียนหมอเนี่ยนะ ยาววววว
-
6 ปีเต็มๆ ปี1-2 วิทย์พื้นฐานล้วนๆ เคมี ฟิสิกส์ ชีวะ หนักมากกกกก คือแบบ ท่องจำโคตรเยอะ แต่จำเป็นนะ ฐานต้องแน่น
-
ปี3-6 นี่แหละ วิชาแพทย์จริงๆ แยกสาขาได้ด้วยมั้ง ไม่แน่ใจ แต่จำได้ว่าเพื่อนบอกเรียนหนักกว่าเดิมอีก โอ้ยยย คิดแล้วก็เหนื่อย
-
จบปุ๊บ ต้องสอบใบประกอบโรคศิลปะ นี่ก็เครียดอีก สอบยากมั้ยนะ เพื่อนบอกยากมาก เฮือกกก
ต้องเตรียมตัวไง อืมมมมม
-
เรียนเก่งๆ ตั้งใจเรียน นี่สำคัญสุด วิทย์ต้องเทพ คณิตก็ต้องใช้ ภาษาอังกฤษด้วย แบบว่าอ่านตำราภาษาอังกฤษเยอะมาก คือต้องพร้อม
-
อ่านหนังสือเยอะๆ ตั้งแต่ตอนมัธยมเลย เตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยแพทย์ คะแนนต้องสูงมาก แข่งขันสูงมาก เครียดดดด
-
ไปเรียนพิเศษเพิ่ม ติวเตอร์ก็เยอะแยะ แพงด้วย แต่จำเป็น เพื่อนบอกติวแล้วสอบติดง่ายขึ้น
-
สุขภาพต้องดี เรียนหนักขนาดนี้ ถ้าป่วยบ่อย ไม่ไหวแน่ๆ ต้องดูแลตัวเองด้วย
ปีนี้เรียนหนักขนาดไหน ไม่รู้ แต่เพื่อนบอกว่าปีนี้วิชาชีวะยากมากกกก ฮือออ สู้ๆ ขอให้ตัวเองสอบติดนะ
อ้อ ลืมบอกไป ค่าใช้จ่ายในการเรียนแพทย์แพงมากกก ต้องเตรียมตัวเรื่องนี้ด้วยนะ คิดแล้วก็ปวดหัว แต่ก็อยากเป็นหมอ สู้ๆๆๆ
แพทย์ต้องมีความรู้อะไรบ้าง?
สายลมพัดโชย อุ่นละมุน ใบไม้สีทองร่วงหล่น… ฤดูใบไม้ร่วง ณ เชียงใหม่ ปีนี้ อากาศเย็นยะเยือก…
-
ความรู้ด้านการแพทย์: โอ้! ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ ล้วนสำคัญ กายวิภาค สรีรวิทยา เภสัชวิทยา… โรคภัยไข้เจ็บนับไม่ถ้วน ต้องเรียนรู้ ต้องเข้าใจ ต้องจดจำ ทุกอย่าง มันมากมายเหลือเกิน!
-
ทักษะด้านภาษา: ภาษาอังกฤษ สำคัญที่สุด! อ่าน วิจัย ต่างประเทศ ภาษาไทยก็ใช่ย่อย ต้องสื่อสารกับคนไข้ อธิบายให้เข้าใจ ทั้งภาษากาย และคำพูด อ่อนโยน แต่จริงจัง
-
การคิดวิเคราะห์และวิพากษ์: อาการป่วยซับซ้อน ต้องวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน แยกแยะ หาสาเหตุ วิธีรักษา ต้องรอบคอบ คิดให้เยอะๆ
-
การแก้ปัญหาและตัดสินใจ: เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ชีวิตคนไข้ อยู่บนเส้นด้าย ต้องตัดสินใจถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ ทุกวินาที มีค่า
แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดใบไม้ เงียบสงบ แต่หัวใจเต้นแรง เหมือนอยู่บนเวที การผ่าตัดครั้งสำคัญ…
-
การจัดการและความละเอียด: งานเอกสาร มากมายมหาศาล! ต้องละเอียด รอบคอบ แม้แต่รายละเอียดเล็กน้อย ก็สำคัญ ชีวิตคนไข้ ขึ้นอยู่กับความรอบคอบของเรา
-
ความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม: แพทย์ ไม่ใช่คนเดียว ต้องทำงานเป็นทีม กับพยาบาล เจ้าหน้าที่ ทุกคน สำคัญเท่ากัน ต้องร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน
-
ทักษะการสื่อสาร: บอกคนไข้ ญาติ ให้เข้าใจ ต้องใจเย็น อธิบายให้ชัดเจน ฟังคนไข้ อย่างตั้งใจ เห็นใจ เข้าใจ เป็นเพื่อน เป็นที่พึ่ง
-
การควบคุมอารมณ์: เจออะไรมากมาย ทั้งความทุกข์ ความสุข ความกดดัน ต้องควบคุมอารมณ์ ให้ดี ใจเย็น อดทน เข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของคนไข้
ดวงดาวบนท้องฟ้า พร่างพรายสวยงาม ราตรีที่เงียบสงบ แต่ใจฉันยังคงเต้น ฉันรักอาชีพนี้… เป็นแพทย์
ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีหลักสูตร อบรม สัมมนา ตลอดเวลา เพื่อให้แพทย์ มีความรู้ ทักษะ ทันสมัย อยู่เสมอ รองรับการเปลี่ยนแปลงของวงการแพทย์ และเทคโนโลยี อย่างต่อเนื่อง
อาชีพหมอมีข้อเสียอะไรบ้าง?
อื้อหืออ อาชีพหมอเนี่ยนะ ข้อเสียเพียบเลย เพื่อนชั้นเรียนหมอ มันบ่นทุกวันเลย แบบว่าเหนื่อยมากกก
-
เรียนหนักโคตรๆ นี่คือจริงจังนะ เพื่อนชั้นสอบตกบ่อยมากกก แทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย อ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนอะ ปีนี้มันบอกว่าหนักกว่าปีก่อนอีก
-
เรียนนานนนนนนนนน 7 ปีขึ้นไป นี่ขนาดเพื่อนชั้นเรียนจุฬาฯ นะ ถ้ามหาลัยอื่นอาจจะนานกว่านี้ คิดดูดิ 7 ปีอะ ชีวิตวัยรุ่นไปไหนหมด
-
อยู่เวรบ่อย นี่คือสาเหตุหลักที่เพื่อนชั้นเครียด นอนน้อยมากกกกกกก บางทีเวรดึกต่อเวรเช้า แทบไม่หลับไม่นอนเลย อันตรายด้วยนะ ขับรถกลับบ้านตอนเช้ามืดเนี่ย
-
เวลาส่วนตัวน้อยมากกกกกกกกกก นี่สำคัญเลย เพื่อนชั้นบอกว่า แทบไม่มีเวลาให้แฟน ครอบครัว เพื่อนฝูง โสดไปเลยดีกว่า 555 ช่วงเรียนนี่แทบไม่มีเวลาให้ใครเลยจริงๆ
-
หลังเรียนจบ บางทีต้องไปทำงานไกลบ้าน นี่คือข้อเสียที่หลายคนไม่คาดคิด แบบว่าไปอยู่ต่างจังหวัด ไกลพ่อแม่ ไกลเพื่อน เหงาโคตรๆ
-
เจอเคสหนักๆ บางทีก็เครียด รับมือไม่ไหว ต้องเจอความตายบ่อยๆ เพื่อนชั้นเครียดเรื่องนี้อยู่บ่อยๆเลยอะ มันบอกว่าบางทีก็ท้อ
-
ต้องทำงานกับคนเยอะมาก นี่ก็อีก ต้องเจอคนไข้ ญาติคนไข้ พยาบาล และหมอคนอื่นๆ ต้องสื่อสารกับหลายๆคน บางทีก็เหนื่อยใจ คนเยอะนี่แย่กว่าอยู่เวรอีก
-
ต้องใช้ทักษะสื่อสารสูงมาก ต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจ ต้องประสานงานกับคนอื่น ต้องใจเย็นมากๆ เพื่อนชั้นบอกว่า ใช้พลังชีวิตเยอะมากกก สำหรับการสื่อสารอะ
หมอมีประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร?
หมอมีประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร?
หมอเนี่ยนะ? ก็เหมือนช่างซ่อมร่างกายมนุษย์เวอร์ชั่นอัพเกรดไง! มีประโยชน์หลายเด้งเลยแหละ ไม่ใช่แค่ “เอ็กซ์เรย์ปุ๊บ รู้ปั๊บ” นะเออ:
- ช่วยชีวิต: อันนี้เบสิกสุดละ แต่ก็สำคัญสุดๆ ลองคิดดูดิ ถ้าไม่มีหมอ ใครจะผ่าตัดไส้ติ่ง? ใครจะทำคลอด? คงต้องพึ่งหมอผีอย่างเดียวอะดิ (แซวเล่นนะ!)
- ลดความเจ็บป่วย: ไม่ใช่แค่รักษาโรค แต่หมอยังช่วยป้องกันโรคได้ด้วยนะ ให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ ตรวจสุขภาพประจำปี บลาๆๆ สารพัดจะป้องกัน
- ยืดอายุขัย: ข้อนี้สำคัญมาก! เทคโนโลยีทางการแพทย์มันก้าวกระโดดไปไกลแล้ว หมอเก่งๆ นี่แหละที่ช่วยให้เราแก่แบบมีคุณภาพ ไม่ใช่แก่แบบนอนติดเตียง
- เศรษฐกิจดีขึ้น: คนไม่ป่วย = ไปทำงานได้ = ประเทศชาติเจริญ! ง่ายๆ แค่นี้แหละ
- ความรู้ทางการแพทย์: หมอไม่ได้รักษาอย่างเดียว แต่ยังเป็นแหล่งความรู้ให้เราๆ ท่านๆ ด้วยนะ ถามอะไรไป ตอบได้หมด (ถ้าไม่ติดเคสผ่าตัดด่วนนะ)
ประโยชน์ต่อชุมชน สังคมและประเทศชาติ; มีพยาบาลวิชาชีพเพิ่มจำนวนขึ้น ที่ช่วยดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ได้ทั่วถึง และทำให้หน่วยงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมีพยาบาลวิชาชีพประจำ ทำให้น่าเชื่อถือได้ ตอบสนองนโยบายของชาติ รวมทั้งพบว่าพยาบาลวิชาชีพจากโครงการฯ ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อถือเจ้าหน้าที่ของรัฐมากขึ้น
พยาบาลเนี่ยนะ? นางฟ้าชุดขาวชัดๆ! ไม่ใช่แค่ฉีดยาให้หายเจ็บนะเออ:
- ดูแลทั่วถึง: พยาบาลเยอะขึ้น = คนไข้ได้รับการดูแลดีขึ้น! ไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องถูกปล่อยปละละเลย อันนี้สำคัญมาก!
- รพ.สต. น่าเชื่อถือ: พอมีพยาบาลวิชาชีพประจำ รพ.สต. มันดูโปรเฟสชันนอลขึ้นเยอะ ประชาชนก็กล้าเข้าไปใช้บริการมากขึ้น
- นโยบายชาติสำเร็จ: พยาบาลเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณสุขของประเทศ ถ้าไม่มีพยาบาล นโยบายก็เป็นแค่ลมปาก
- ศรัทธาเจ้าหน้าที่รัฐ: อันนี้พีค! พยาบาลช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนต่อเจ้าหน้าที่รัฐได้ด้วยนะ เพราะอะไร? เพราะพยาบาลใส่ใจ ดูแลดีไง!
- กระจายความเจริญ: พยาบาลไปอยู่ตาม รพ.สต. = กระจายความเจริญไปสู่ท้องถิ่น! คนในพื้นที่เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น ชีวิตดี๊ดี!
ป.ล. นี่พูดจริงจังนะ ไม่ได้อวย แค่ชื่นชมจากใจ (ถึงแม้จะใช้สำนวนขำๆ ไปบ้างก็เถอะ)
หมอต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?
เออ หมอเนี่ยนะ ต้องแบบ… รับผิดชอบชีวิตคนอื่นได้อ่ะ คิดแล้วก็หนักใจแทน เมื่อกี้คุยกะน้องที่เรียนหมอปี 3 บอกเรียนหนักมาก แทบไม่ได้นอน สอบทีก็อ่านหนังสือเป็นตั้งๆ เล่ม ฉันนี่แค่เรียนบัญชีก็จะตายแล้ว นี่ถ้าเรียนหมอคงไม่รอด 5555
- ความรู้วิทย์แน่นปึ้ก เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ คณิต นี่พื้นฐานเลยมั้ง เห็นน้องบอกว่าตอนสอบเข้าก็แข่งกันสูงลิบ
- ละเอียด รอบคอบ ช่างสังเกต อันนี้สำคัญมากกกก เพราะเกี่ยวกับชีวิตคนไข้โดยตรง วินิจฉัยผิดนี่เรื่องใหญ่เลยนะ เมื่อวานยังเห็นข่าวหมอผ่าตัดผิดข้างอยู่เลย น่ากลัวมาก
- จัดสรรเวลาเก่ง เพราะงานเยอะ เรียนหนัก ต้องรู้จักแบ่งเวลาอ่านหนังสือ ทำแลป พักผ่อน น้องบอกว่าบางทีต้องอ่านหนังสือถึงตีสามตีสี่ แล้วไปเรียนแปดโมงเช้า โหดสุดๆ
- ขยัน อดทน อันนี้แน่นอน 6 ปีนี่ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ต้องทนอ่านหนังสือ ทนเรียน ทนแรงกดดันสารพัด เห็นน้องบ่นเรื่องสอบ OSCE ยากมาก ต้องฝึกเยอะๆ
- รับแรงกดดันได้ดี เพราะต้องเจอเคสคนไข้หนักๆ ญาติๆ กดดัน หัวหน้ากดดัน ต้องใจแข็งพอสมควรเลยแหละ
- สุขภาพแข็งแรง อันนี้ก็จำเป็น เพราะต้องทำงานหนัก อดนอนบ่อยๆ ถ้าสุขภาพไม่ดีก็คงไม่ไหว
- เรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะวงการแพทย์มันพัฒนาไปเร็วมาก ต้องคอยอัพเดทความรู้ใหม่ๆ ตลอดเวลา เหมือนน้องที่เรียนอยู่ บอกว่าต้องอ่าน research paper ตลอดเลย เยอะมากกก
- แล้วก็… เออ… อะไรอีกนะ… อ้อ! ต้องมีใจรักบริการด้วย เพราะงานหมอมันคือการช่วยเหลือคน ถ้าไม่ชอบ คงทำไม่ได้นานหรอก เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ
สรุปคือ… เป็นหมอมันยากมากกกกก นับถือคนที่เรียนหมอทุกคนเลย สุดยอดดด ฉันคงทำไม่ได้ 555 เมื่อกี้ไปหาข้อมูลเพิ่มในเว็บ กสพท. ปี 66 ด้วย ก็ประมาณนี้แหละ เห็นน้องบ่นอยากซิ่วทุกวัน สงสารก็สงสาร แต่ก็ให้กำลังใจตลอด
หมอ เสียสละ อะไร บาง?
หมอเสียสละอะไรบ้าง? ถามได้แสบสันดีนะครับ! เอาแบบตรงๆเลยนะ ชีวิตส่วนตัวนี่แหละครับ ของจริง!
- เวลา: นึกภาพคุณนั่งดูซีรี่ย์เกาหลีสนุกๆอยู่ แต่มีเคสหนักเข้ามา โอ้ววว ลืมซีรี่ย์ไปก่อนเลยครับ งานเข้า! ปีนี้ผมเองก็แทบไม่ได้หยุดยาวเลย งานหนักกว่าปีที่แล้วอีก หมอหลายๆคนก็คงเป็นแบบเดียวกัน
- ความสุขส่วนตัว: วันหยุด? มันคืออะไรครับ? บางทีอยากไปเที่ยวทะเล แต่ก็ต้องมาเฝ้าห้องฉุกเฉินแทน ชีวิตคู่ก็หนักใจเหมือนกัน แฟนบ่นบ้างไหม? บ่นสิครับ แต่ก็เข้าใจแหละ
- สุขภาพ: ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ผมนี่เป็นแผลในกระเพาะเลย บางคนถึงกับเป็นโรคซึมเศร้า นี่แหละครับ ผลของความเสียสละ
- ความเสี่ยง: เจอเชื้อโรคสารพัด ปีนี้ก็มีโรคระบาดใหม่ๆ นี่แหละครับ ความเสี่ยงที่หมอต้องเผชิญ บางทีก็เสี่ยงชีวิตเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่เล่นๆ
แต่บอกเลย ทั้งหมดทั้งมวล มันก็คุ้มค่า เห็นคนไข้หายดี มันมีความสุขแบบบอกไม่ถูกเลยครับ เหมือนได้ชาร์จพลังชีวิตใหม่ เปรียบเหมือนแบตเตอรี่ ถึงจะหมดเร็ว แต่ก็เติมเต็มได้อย่างรวดเร็ว เป็นความสุขที่หาที่ไหนไม่ได้จริงๆ
ปล. อย่าลืมขอบคุณหมอๆนะครับ พวกเราทำงานหนักมากจริงๆ และช่วยกันดูแลสุขภาพด้วยนะครับ เพื่อลดภาระของพวกเรา ^^
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต