อาการข้างเคียงหลังการเจาะเลือดมีอะไรบ้าง

เจาะเลือด แม้จะเป็นขั้นตอนทางการแพทย์ที่พบบ่อยและมีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็อาจเกิดอาการข้างเคียงได้เช่นกัน แม้ว่าอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่การรู้เท่าทันอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้คุณเตรียมตัวรับมือและดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องหลังการเจาะเลือด บทความนี้จะกล่าวถึงอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการเจาะเลือด และคำแนะนำในการดูแลตนเอง

อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังการเจาะเลือด ได้แก่:

• รอยฟกช้ำ: เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการรั่วซึมของเลือดเล็กน้อยใต้ผิวหนังบริเวณที่เจาะ มักมีลักษณะเป็นสีม่วงคล้ำ และจะจางหายไปเองภายในไม่กี่วัน การประคบเย็นสามารถช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำได้
• ปวดหรือเจ็บเล็กน้อย: บริเวณที่เจาะอาจมีอาการปวดหรือเจ็บเล็กน้อย ซึ่งมักจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน หากปวดมากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
• เลือดออกเล็กน้อย: หลังจากถอดเข็มเจาะเลือด อาจมีเลือดออกซึมเล็กน้อย ซึ่งสามารถห้ามเลือดได้โดยการกดบริเวณที่เจาะด้วยผ้าสะอาด หากเลือดออกนานกว่า 10 นาที หรือมีเลือดออกมากผิดปกติ ควรติดต่อแพทย์ทันที
• รู้สึกวิงเวียนหรือหน้ามืด: บางรายอาจรู้สึกวิงเวียนหรือหน้ามืดหลังการเจาะเลือด โดยเฉพาะผู้ที่มีความวิตกกังวลหรือกลัวเข็ม แนะนำให้นั่งพักสักครู่ ดื่มน้ำเปล่า และหายใจเข้าลึกๆ หากอาการไม่ดีขึ้นควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

นอกจากอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยแล้ว ยังมีอาการข้างเคียงที่พบได้น้อยกว่าแต่รุนแรงกว่า เช่น การติดเชื้อ เส้นประสาทถูกทำลาย หรือเกิดก้อนเลือด หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมแดง ปวดมาก มีหนอง หรือมีไข้ ควรไปพบแพทย์ทันที

การดูแลตนเองหลังการเจาะเลือดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาการข้างเคียงและส่งเสริมการฟื้นตัว ดังนี้:

• กดบริเวณที่เจาะด้วยผ้าสะอาด: เพื่อห้ามเลือด และป้องกันการเกิดรอยฟกช้ำ
• หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกกำลังกายหนัก: ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการเจาะเลือด
• ดื่มน้ำมากๆ: เพื่อช่วยให้ร่างกายขับของเสียและฟื้นตัวเร็วขึ้น
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยในการฟื้นตัว
• สังเกตอาการผิดปกติ: และรีบไปพบแพทย์หากมีอาการที่น่ากังวล

แม้ว่าการเจาะเลือดจะเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่การเตรียมตัวให้พร้อมและรู้จักอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้คุณมั่นใจและรับมือได้อย่างถูกต้อง หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ