อาการสะบักจม (Scapulocostal syndrome) คืออะไร

17 การดู

อาการสะบักจมเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อและข้อต่อบริเวณสะบัก ทำให้ปวดบริเวณหัวไหล่และหลังส่วนบน อาการมักเป็นๆ หายๆ สัมพันธ์กับการใช้งานมากเกินไป การรักษาเน้นการพักผ่อน กายภาพบำบัด และยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สะบักจม: มากกว่าแค่ปวดเมื่อยหลัง… รู้จักภัยเงียบที่คุกคามชีวิตประจำวันของคุณ

หลายคนคงเคยประสบกับอาการปวดเมื่อยบริเวณหัวไหล่และหลังส่วนบน อาการที่มักถูกมองข้ามและคิดว่าเป็นเพียงอาการปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก หรือนอนผิดท่า แต่หากอาการปวดเหล่านี้เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ นั่นอาจเป็นสัญญาณของ “สะบักจม” (Scapulocostal syndrome) ภัยเงียบที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังอาการปวดเมื่อยที่คุณกำลังเผชิญ

สะบักจมคืออะไร? ไม่ใช่แค่กล้ามเนื้ออักเสบ

สะบักจม ไม่ได้เป็นเพียงแค่กล้ามเนื้ออักเสบธรรมดา แต่เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของกล้ามเนื้อและข้อต่อบริเวณสะบัก ซึ่งส่งผลให้เกิดการอักเสบและปวดบริเวณหัวไหล่ หลังส่วนบน และอาจลามไปถึงคอและแขนได้ บริเวณสะบักเป็นบริเวณที่ซับซ้อน ประกอบด้วยกล้ามเนื้อหลายมัดที่ทำงานร่วมกันเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของหัวไหล่และแขน เมื่อกล้ามเนื้อเหล่านี้ทำงานไม่สมดุล หรือถูกใช้งานมากเกินไป ก็จะนำไปสู่ภาวะสะบักจมได้

สาเหตุที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอาการสะบักจม

แม้ว่าการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณสะบักมากเกินไปจะเป็นสาเหตุหลักของอาการสะบักจม แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการนี้ได้ เช่น:

  • ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง: การนั่งทำงานในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน การก้มหน้าดูโทรศัพท์ หรือการสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว สามารถสร้างแรงกดดันให้กับกล้ามเนื้อบริเวณสะบักได้
  • ความเครียด: ความเครียดและความวิตกกังวลสามารถทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียด ซึ่งส่งผลต่อกล้ามเนื้อบริเวณสะบักได้
  • การบาดเจ็บ: การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือการเล่นกีฬา สามารถทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อบริเวณสะบักได้รับความเสียหาย
  • โรคประจำตัว: โรคบางชนิด เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือโรคไฟโบรมัยอัลเจีย อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการสะบักจม

สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

อาการของสะบักจมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยมักมีอาการดังต่อไปนี้:

  • ปวดเมื่อย: ปวดบริเวณหัวไหล่ หลังส่วนบน และอาจลามไปถึงคอและแขน
  • ตึง: รู้สึกตึงและขยับหัวไหล่ได้ไม่สะดวก
  • กดเจ็บ: กดบริเวณสะบักแล้วรู้สึกเจ็บ
  • เสียงดัง: บางครั้งอาจมีเสียงดังกรอบแกรบขณะขยับหัวไหล่
  • ชา: อาจมีอาการชาหรือรู้สึกเหมือนเข็มทิ่มบริเวณแขนและมือ

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อสงสัยว่าเป็นสะบักจม

หากคุณสงสัยว่าตัวเองอาจมีอาการสะบักจม คุณสามารถลองดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ดังนี้:

  • พักผ่อน: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวด
  • ประคบเย็น: ประคบเย็นบริเวณที่ปวดเป็นเวลา 15-20 นาที หลายครั้งต่อวัน
  • ยืดเหยียด: ยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณสะบักและหัวไหล่อย่างสม่ำเสมอ
  • ปรับท่าทาง: ปรับท่าทางการนั่งทำงานให้ถูกต้อง และหลีกเลี่ยงการก้มหน้าดูโทรศัพท์เป็นเวลานาน

เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?

หากอาการปวดไม่ดีขึ้นหลังจากดูแลตัวเองเบื้องต้น หรือมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ปวดมากจนไม่สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ หรือมีอาการชาและอ่อนแรงบริเวณแขนและมือ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

การรักษาทางการแพทย์

แพทย์อาจแนะนำวิธีการรักษาต่างๆ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ เช่น:

  • ยาแก้ปวด: เพื่อบรรเทาอาการปวด
  • ยาคลายกล้ามเนื้อ: เพื่อลดการตึงของกล้ามเนื้อ
  • กายภาพบำบัด: เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
  • การฉีดยา: ในบางกรณี แพทย์อาจฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในบริเวณที่ปวดเพื่อลดการอักเสบ
  • การผ่าตัด: ในกรณีที่อาการรุนแรงมาก และวิธีการรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผล

ป้องกันดีกว่ารักษา: ดูแลสะบักให้ดี ก่อนที่จะสายเกินไป

การป้องกันอาการสะบักจมสามารถทำได้โดยการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ปรับปรุงท่าทางในการทำงาน และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น:

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  • ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ: การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นประจำจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยลดความเครียดและความตึงของกล้ามเนื้อ
  • จัดการความเครียด: การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อตึงเครียด
  • ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน: ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสมกับสรีระร่างกาย

สะบักจม อาจดูเหมือนเป็นเพียงอาการปวดเมื่อยเล็กน้อย แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคุณอย่างมาก ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการสะบักจม การดูแลตัวเองเบื้องต้น และการป้องกันอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณหลีกพ้นจากภัยเงียบนี้ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

#กล้ามเนื้อ #ปวดบ่า #สะบักจม