เทคนิคการแพทย์ใช้TGATกี่%

เส้นทางสู่เทคนิคการแพทย์: ทำไม TGAT 20% ถึงสำคัญกว่าที่คุณคิด

สำหรับน้องๆ ที่ใฝ่ฝันอยากสวมเสื้อกาวน์สีขาวในห้องปฏิบัติการ และก้าวสู่เส้นทางนักเทคนิคการแพทย์ การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่ง การเปลี่ยนแปลงในระบบ TCAS ที่เกิดขึ้น อาจทำให้น้องๆ หลายคนสับสนและไม่แน่ใจว่าควรให้ความสำคัญกับส่วนใดในการเตรียมตัวสอบ

ข่าวดีคือ TCAS รอบถัดไป คณะเทคนิคการแพทย์หลายแห่ง ยกเลิกการใช้ TPAT1 และ กสพท. ซึ่งหมายความว่าน้องๆ ไม่จำเป็นต้องกังวลกับการสอบความถนัดแพทย์และความคิดเชื่อมโยง อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งวางใจ! แม้จะไม่มี TPAT1 และ กสพท. สิ่งที่น้องๆ ต้องให้ความสำคัญอย่างมากคือ A-Level 4 วิชาหลัก และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ TGAT ที่มีสัดส่วนถึง 20%

หลายคนอาจมองข้ามสัดส่วน 20% ของ TGAT เพราะคิดว่าน้อยเมื่อเทียบกับวิชาอื่นๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว 20% นี้สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในการแข่งขันที่เข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคะแนน A-Level ของผู้สมัครหลายคนอาจใกล้เคียงกัน TGAT จึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้ที่ถูกเลือก

ทำไม TGAT 20% ถึงสำคัญขนาดนี้?

TGAT เป็นการสอบวัดสมรรถนะทั่วไป ซึ่งมุ่งเน้นไปที่:

• TGAT1 (การสื่อสารภาษาอังกฤษ): วัดทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลทางการแพทย์และงานวิจัยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบภาษาอังกฤษ
• TGAT2 (การคิดอย่างมีเหตุผล): วัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการให้เหตุผล ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการวินิจฉัย การวางแผนการทดลอง และการตีความผลลัพธ์ในงานเทคนิคการแพทย์
• TGAT3 (สมรรถนะการทำงาน): วัดความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การจัดการตนเอง และการเป็นพลเมืองที่ดี ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับนักเทคนิคการแพทย์ที่ต้องทำงานเป็นทีมและมีจริยธรรมในการปฏิบัติงาน

เคล็ดลับพิชิต TGAT 20% สำหรับคณะเทคนิคการแพทย์:

1. ทำความเข้าใจโครงสร้างและเนื้อหา: ศึกษาคู่มือการสอบ TGAT อย่างละเอียด เพื่อทราบรูปแบบข้อสอบ เนื้อหาที่ออกสอบ และเกณฑ์การให้คะแนน
2. ฝึกทำข้อสอบเก่า: การฝึกทำข้อสอบเก่าจะช่วยให้น้องๆ คุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบ จับเวลาในการทำข้อสอบ และประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง
3. เน้นทักษะภาษาอังกฤษ: เนื่องจาก TGAT1 เป็นการวัดทักษะภาษาอังกฤษ น้องๆ ควรฝึกฝนทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูดภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ
4. พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์: TGAT2 เน้นการคิดวิเคราะห์ ดังนั้นน้องๆ ควรฝึกฝนการแก้ปัญหา การให้เหตุผล และการสรุปความจากข้อมูลที่กำหนดให้
5. สร้างเสริมคุณสมบัติ: TGAT3 วัดสมรรถนะการทำงาน น้องๆ ควรเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม การเป็นผู้นำ และความรับผิดชอบต่อสังคม

การเตรียมตัวสอบเข้าคณะเทคนิคการแพทย์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการวางแผนที่ดี การทุ่มเทในการอ่านหนังสือ และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ น้องๆ ทุกคนก็สามารถประสบความสำเร็จได้ อย่าลืมให้ความสำคัญกับ TGAT 20% เพราะมันอาจเป็นกุญแจสำคัญที่ไขประตูสู่คณะในฝันของน้องๆ ก็เป็นได้! ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนนะคะ