เสียงปอด Rhonchi คืออะไร

เสียงรอนคี (Rhonchi): เสียงปอดบอกเล่าเรื่องราวของทางเดินหายใจ

เสียงรอนคี (Rhonchi) เป็นเสียงผิดปกติที่ได้ยินจากการฟังปอดด้วยหูฟัง (auscultation) ลักษณะคล้ายกับเสียงการไหลของของเหลวข้นๆ หรือเสียงเหมือนการกรีดขีดในหลอดขนาดใหญ่ เสียงนี้แตกต่างอย่างชัดเจนจากเสียงหวีด (wheezes) ซึ่งเกิดจากการตีบแคบของหลอดลมขนาดเล็ก เสียงรอนคีบ่งชี้ถึงการมีสิ่งกีดขวางในทางเดินหายใจขนาดใหญ่ ซึ่งมักเกิดจากการสะสมของเสมหะหนืด หรือการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลอดลมขนาดใหญ่ (bronchi)

สาเหตุของเสียงรอนคี

เสียงรอนคีไม่ได้เป็นโรค แต่เป็นสัญญาณของภาวะทางการแพทย์อื่นๆ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:

• การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง: เช่น ไข้หวัดใหญ่ หวัดธรรมดา หลอดลมอักเสบ ปอดบวม การติดเชื้อเหล่านี้ทำให้เกิดการอักเสบและการสร้างเสมหะหนืด อุดตันทางเดินหายใจ ส่งผลให้เกิดเสียงรอนคี

• โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD): เช่น โรคถุงลมโป่งพองและโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ในผู้ป่วย COPD ทางเดินหายใจจะอักเสบและแคบลง ทำให้เกิดการสะสมของเสมหะและเสียงรอนคี โดยเสียงรอนคีในผู้ป่วย COPD อาจมีลักษณะคงที่และไม่เปลี่ยนแปลงง่ายหลังจากไอ

• โรคภูมิแพ้: การแพ้สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ อาจทำให้เกิดการอักเสบในทางเดินหายใจและการสร้างเสมหะ ส่งผลให้เกิดเสียงรอนคี

• มะเร็งปอด: ในบางกรณี เสียงรอนคีอาจเป็นสัญญาณของเนื้องอกในทางเดินหายใจ ซึ่งจะกีดขวางการไหลเวียนของอากาศ

• การสำลักของวัตถุแปลกปลอม: การสำลักวัตถุแปลกปลอมเข้าไปในทางเดินหายใจอาจทำให้เกิดเสียงรอนคีได้

ลักษณะของเสียงรอนคี

เสียงรอนคีมีลักษณะเป็นเสียงต่ำ อาจมีเสียงก้อง และมักจะได้ยินในระหว่างการหายใจเข้าและหายใจออก แต่บางครั้งอาจได้ยินเฉพาะช่วงหายใจออก ความดังของเสียงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณและความหนืดของเสมหะ และระดับความรุนแรงของการอักเสบ สิ่งสำคัญคือการสังเกตว่าเสียงรอนคีจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่หลังจากไอหรือกระแอม หากเสียงรอนคีลดลงหรือหายไปหลังจากไอ บ่งชี้ว่าเสมหะที่อุดตันทางเดินหายใจถูกขับออกมา

การวินิจฉัยและการรักษา

แพทย์จะวินิจฉัยสาเหตุของเสียงรอนคีโดยการตรวจร่างกาย การซักประวัติของผู้ป่วย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเอกซเรย์ปอด การตรวจวัดปริมาณการทำงานของปอด หรือการตรวจเลือด การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของเสียงรอนคี อาจรวมถึงการใช้ยา เช่น ยาละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม หรือยาปฏิชีวนะ ในบางกรณีอาจต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การทำกายภาพบำบัดทางเดินหายใจ

เสียงรอนคีเป็นเพียงสัญญาณเตือน ไม่ใช่โรค การพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น อย่าละเลยอาการผิดปกติ การดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องคือกุญแจสำคัญสู่สุขภาพที่ดี

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเสียงรอนคีเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เสมอ