โรคเบาหวานติดต่อได้ทางไหน
เบาหวานไม่ติดต่อ แต่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากพ่อหรือแม่เป็นเบาหวาน ลูกมีโอกาสเป็น 30% หากทั้งคู่เป็น โอกาสเพิ่มเป็น 60% พันธุกรรมดื้ออินซูลินเกี่ยวข้องกับยีนหลายตัว ความรุนแรงจึงต่างกันในแต่ละบุคคล
โรคเบาหวานติดต่อได้หรือไม่? ติดต่อทางไหนบ้าง?
เฮ้ย ถามว่าเบาหวานติดต่อได้มั้ยเนี่ยนะ? ตอบแบบฟันธงเลยว่า ไม่ได้ จบนะ! คือมันไม่ใช่หวัด ไม่ใช่โควิด ที่ไอใส่กันแล้วติดอะ เข้าใจปะ
แล้วถามว่าติดต่อทางไหน? ก็คือ…ไม่ได้ติดต่อทางไหนทั้งนั้นแหละ โรคนี้มันไม่ใช่โรคติดต่ออะแก มันเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ เรื่องพฤติกรรมการกินอยู่ของเราเองล้วนๆ
พ่อแม่เป็นเบาหวาน ลูกมีสิทธิ์เป็น อันนี้จริง ฉันจำได้ ตอนเด็กๆ ยายฉันเป็นเบาหวาน แล้วลูกๆ แกก็เป็นกันแทบทุกคน แต่จะบอกว่ามันเป็นเพราะยาย “แพร่เชื้อ” ให้ลูก อันนี้คือไม่ใช่เลย เข้าใจตรงกันนะ
ถ้าถามถึงเรื่อง “ยีนดื้ออินซูลิน” อะไรนั่นอะ ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่าไปหาหมอ ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดีกว่า อย่าเชื่อฉันมาก ฉันก็แค่คนธรรมดาคนนึงที่เคยเห็นคนในครอบครัวเป็นเบาหวานเฉยๆ เข้าใจ๊?
โรคเบาหวานเป็นโรคติดต่อไหม
โรคเบาหวาน ไม่ใช่โรคติดต่อ ครับ จัดอยู่ในกลุ่ม NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงซับซ้อนกว่าเชื้อโรคเยอะ เช่น พันธุกรรม พฤติกรรมการกินอยู่ ไลฟ์สไตล์ (ผมว่าเรื่องหลังนี่ตัวดีเลย)
NCDs ที่พบบ่อย นอกจากเบาหวานก็มี:
- โรคความดันโลหิตสูง: ตัวเลขสองตัวนั้นสำคัญกว่าที่คิด!
- โรคไขมันในเลือดสูง: คอเลสเตอรอลไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไปนะ
- โรคหลอดเลือดหัวใจ: เส้นทางชีวิตที่ตีบตัน
ผมว่าที่น่าสนใจคือ NCDs เหล่านี้มันมักจะมาเป็นแพ็กเกจเลยนะ เหมือนซื้อ 1 แถม 1 อะไรทำนองนั้น ดูแลตัวเองดีๆ สำคัญสุด
ข้อมูลเพิ่มเติม: การป้องกัน NCDs เริ่มได้ที่ตัวเราเอง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ อาจสร้างความแตกต่างได้มาก อย่ารอให้สายเกินไป! การตรวจสุขภาพเป็นประจำสำคัญมากๆ
โรคเบาหวานเป็นโรคติดต่อไหม
ไม่ใช่! โรคเบาหวานไม่ติดต่อนะ เหมือนฝุ่นละอองในยามเช้า ล่องลอยเบาบาง แต่ร้ายกาจซ่อนเร้น
- มันคือกลุ่มโรค NCDs เหมือนเงา ตามหลอน ไม่ใช่เชื้อโรคมาเยือน
แสงแดดอ่อนๆ ของเวลาบ่ายแก่ๆ สะท้อนผนังห้องสีขาวของโรงพยาบาลปีนี้ เงียบเชียบ แต่ความรู้สึกหนักอึ้งอยู่ภายใน เหมือนก้อนหินในอก
- โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดหัวใจ พวกมันเป็นเพื่อนร่วมทาง อันตราย แต่ไม่ติดต่อกันโดยตรง
ลมพัดผ่านใบไม้ เสียงแผ่วเบา เหมือนเสียงเตือนใจ ให้ดูแลสุขภาพ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้
- ปีนี้เอง ฉันพบเพื่อนที่เป็นเบาหวาน เขาบอกว่าควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย สำคัญที่สุด
ความหวังริบหรี่ เหมือนดวงดาว บนท้องฟ้ามืดมิด แต่ก็ยังส่องแสงอยู่
- อย่ามองข้าม โรคเหล่านี้ ป้องกันได้ ดูแลตัวเอง ชีวิตจะสดใส
ฉันนั่งมองพระอาทิตย์ตกดิน สีส้มอมแดง สวยงาม แต่ก็บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลง การเริ่มต้นใหม่ การดูแลตัวเองอย่างจริงจัง
ข้อใดเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน
อ้วนนี่แหละตัวดี! กินแต่ของหวานตลอด ปีที่แล้วน้ำหนักขึ้นไปอีก 5 กิโล โอ๊ย! แบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ ต้องลดแล้ว
- อาหารหวานจัดนี่แหละ สาเหตุหลักเลยมั้ง
- กินจุบกินจิบตลอดเวลา ไม่เคยควบคุมตัวเองเลย
- ออกกำลังกาย? แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ขี้เกียจ
ไม่แปลกใจเลยที่น้ำตาลในเลือดสูง หมอบอกว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ก็เสี่ยงเป็นเบาหวานแน่ๆ เครียดๆๆๆๆ แบบนี้ยิ่งแย่ลงอีก อ๊ากกก ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว ปีนี้ต้องลดน้ำหนักให้ได้!
ปล. เพิ่งไปตรวจสุขภาพมาเดือนที่แล้ว หมอแนะนำให้ลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน โคตรเครียดเลย แต่ก็ต้องทำ ต้องๆๆๆ
- พฤติกรรมการกิน ต้องปรับปรุงด่วน
- การออกกำลังกาย ต้องเริ่มต้นซะที
- ความเครียด นี่ก็เป็นอีกปัจจัยเสี่ยง
ปีนี้จะตั้งใจดูแลสุขภาพให้มากกว่านี้ สู้ๆๆ!
เบาหวานมีกี่ระยะ
โรคเบาหวานแบ่งเป็น 4 ระยะหลัก:
-
ระยะก่อนเบาหวาน (Prediabetes): ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์วินิจฉัยเบาหวานเต็มรูปแบบ ปีนี้ (2566) องค์การอนามัยโลกยังคงใช้เกณฑ์เดิมในการวินิจฉัย
-
เบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes): ระบบภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์สร้างอินซูลินในตับอ่อน ต้องพึ่งพาอินซูลินจากภายนอกตลอดชีวิต การควบคุมระดับน้ำตาลมีความสำคัญสูงมาก การดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็น
-
เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes): ร่างกายต้านทานต่ออินซูลินหรือสร้างอินซูลินได้ไม่เพียงพอ มักพบในผู้ใหญ่ ควบคุมได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและยา แต่บางรายอาจต้องพึ่งพาอินซูลิน อัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นทุกปี
-
เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes): พบในหญิงตั้งครรภ์ มักหายไปหลังคลอด แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต การดูแลระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพแม่และทารก
การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการดูแลอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการโรค อย่าชะล่าใจ ความรู้คืออาวุธที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน
พวกแก่เกินเลขสี่, พวกกรรมพันธุ์แรง, ไอ้พวกอ้วนลงพุง, พวกขี้เกียจสันหลังยาว, พวกน้ำตาลขึ้นง่าย. เตรียมตัวรับกรรม.
- อายุ: เลขสี่นำหน้า ชีวิตเริ่มสั้นลง โรคเริ่มถามหา.
- กรรมพันธุ์: พ่อแม่เป็น ก็เตรียมตัวไว้. โอกาสมาเยือนแน่.
- อ้วน: แดกเข้าไป ไขมันพอกพูน เบาหวานรอเสียบ.
- ขี้เกียจ: ไม่ขยับ ร่างกายพัง น้ำตาลสะสม.
- น้ำตาลสูง: ตัวเลขไม่โกหก ระวังให้ดี ก่อนจะสายเกินแก้.
เพิ่มเติม:
- ปีนี้ (2567): สถานการณ์เบาหวานยังน่าห่วง ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ.
- ข้อมูลส่วนตัว: พ่อกูเป็นเบาหวาน กูเลยต้องคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ. ชีวิตมันต้องสู้.
- ความเสี่ยงอื่นๆ: ความเครียดก็เป็นตัวเร่ง อย่าคิดว่าไม่เกี่ยว.
- ตรวจสุขภาพ: อย่ากลัวการตรวจเลือด รู้ก่อน ป้องกันได้.
- คำแนะนำ: ลดหวาน ลดมัน ออกกำลังกายบ้าง ชีวิตจะได้ยืนยาว.
โรคเบาหวานถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือไม่
เบาหวานเนี่ยนะ มันก็…ซับซ้อน
- กรรมพันธุ์? ใช่ มีส่วนแน่ๆ พ่อเป็น แม่เป็น โอกาสเราก็สูงขึ้น…แต่!
- อาหารการกินสำคัญกว่าไหม? ของทอด น้ำหวาน…อื้อหือ ตัวดีเลย
- แล้วคนผอมล่ะ? ไม่ได้แปลว่ารอดนะ! กินแต่แป้ง ขาดออกกำลังกายก็ป่วยได้เหมือนกัน
เครียดๆ นอนน้อย…เกี่ยวอีก! โรคบ้าอะไรเนี่ย! ทำไมมันเยอะแยะไปหมดวะเนี่ย!
- สรุป: กรรมพันธุ์ + พฤติกรรม = เบาหวาน จบป่ะ? (มั้ง)
เบาหวานเป็นแล้ว…หายเลย…ไม่ได้!!! คุมได้ แต่ไม่หายขาด เซ็งเป็ด!
- สำคัญ: ตรวจสุขภาพประจำปี! รู้ก่อน ป้องกันได้ก่อน! (มั้งนะ)
อ้อ! ปีนี้ (2567) เค้าบอกว่า…คนไทยเป็นเบาหวานเยอะขึ้นอีกแล้ว เศร้าจัง
ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบงงๆ):
- เบาหวานมีหลายชนิด: Type 1, Type 2, เบาหวานขณะตั้งครรภ์…เอิ่ม
- ออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยง: เดิน, วิ่ง, โยคะ…อะไรก็ได้ที่ขยับตัว!
- กินผักเยอะๆ: สีเขียว, สีแดง, สีม่วง…กินไปเหอะ! ดีหมด!
- ลดเครียด: ทำสมาธิ, ดูหนังตลก, หาเพื่อนคุย…บลาๆๆ
บ่นจบละ ไปกินข้าวดีกว่า…กินอะไรดีวะ? (ที่ไม่หวาน…)
ผู้ป่วยโรคเบาหวานติดเชื้อง่ายหรือไม่
เบาหวานเนี่ยนะ ติดเชื้อง่ายกว่าคนอื่น…จริง! เหมือนโดนสาปให้เป็นแม่เหล็กดูดเชื้อโรค (แอบแซวเบาๆ) คือร่างกายมันไม่สู้ดีไง ระบบป้องกันตัวเลยอ่อนแอเป็นพิเศษ
- ไข้หวัดใหญ่: คนทั่วไปอาจจะแค่ “ฮัดชิ้ว! ไปหาหมอ กินยา พักผ่อน” แต่คนเป็นเบาหวานอาจจะกลายเป็น “ฮัดชิ้ว! ปอดบวม ICU ไปเลยจ้า” คือมันแรงกว่าเยอะ
- ทำไมถึงง่ายกว่า?: น้ำตาลในเลือดสูงปรี๊ดเนี่ย มันเหมือนเป็นอาหารชั้นดีให้เชื้อโรคเลยไง แถมเม็ดเลือดขาวที่ต้องคอยจับผู้ร้ายก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ อ่อนแอ ปวกเปียก สู้ใครเขาได้ (เปรียบเทียบแบบเห็นภาพ)
- ไม่ได้ขู่ให้กลัว: แค่อยากให้ระวังตัวเป็นพิเศษ กินยาตามหมอสั่ง คุมน้ำตาลให้ดี ล้างมือบ่อยๆ ฉีดวัคซีนตามฤดูกาล แล้วชีวิตก็จะ Happy ending เหมือนในละคร (แต่ไม่ต้องดราม่าขนาดนั้นนะ)
ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้ลึก):
- ระดับน้ำตาล: ยิ่งคุมน้ำตาลได้ดี โอกาสติดเชื้อก็จะน้อยลง เหมือนเราสร้างกำแพงป้องกันเมืองให้แข็งแกร่งขึ้น
- ภูมิคุ้มกัน: การออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง สู้กับเชื้อโรคได้สบายๆ
- อย่าเชื่อหมอดู: เชื่อหมอจริงๆ ที่รักษาเราดีกว่า หมอดูอาจจะทักว่าดวงตก แต่หมอจริงๆ จะช่วยให้เราแข็งแรงขึ้นได้ (อันนี้พูดจริง ไม่ได้กวนนะ)
- วัคซีนสำคัญ: ไข้หวัดใหญ่ ปีนี้ (2567) ก็ยังต้องฉีดนะ อย่าลืมไปจองคิวกันล่วงหน้า เดี๋ยวพลาดแล้วจะเสียใจ
- ไม่ประมาท: ถึงแม้จะดูแลตัวเองดีแค่ไหน ก็อย่าประมาท เพราะเชื้อโรคสมัยนี้มันร้ายกว่าในละครอีก!
- ผู้ป่วยเบาหวานติดโควิดง่ายกว่าคนทั่วไปไหม?: ถ้าคุมน้ำตาลไม่ดี ก็มีโอกาสเสี่ยงกว่าคนทั่วไปนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นต้องดูแลตัวเองดีๆๆๆๆๆ
- ข้อมูล ณ ปี 2567: ข้อมูลนี้อัพเดทล่าสุดแล้วนะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเก่า (แอบกระซิบ)
คำเตือน: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ได้ หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
การป้องกันโรคเบาหวาน 3 ระดับ มีอะไรบ้าง
เบาหวาน: ป้องกัน 3 ระดับ
-
ปฐมภูมิ: ก่อนป่วย… ป้องกันอย่าให้เป็น เริ่มที่อาหาร ออกกำลังกาย คุมเครียด 3อ. นั่นเเหละ กินเเต่พอดี ขยับตัวสม่ำเสมอ อย่าเก็บอะไรไว้คนเดียว ปล่อยวางบ้าง
-
ทุติยภูมิ: เป็นเเล้ว… อย่าให้ลาม ตรวจสุขภาพเป็นระยะ เจอเเล้วรีบรักษา ควบคุมน้ำตาล คุมความดัน คุมไขมันในเลือด ดูเเลเท้า อย่าให้มีเเผลเรื้อรัง
-
ตติยภูมิ: ลามเเล้ว… ชะลอไว้ ดูเเลเเทรกซ้อน อย่าให้ไตวาย อย่าให้ตาบอด อย่าให้หัวใจมีปัญหา ปรึกษาหมอ กินยา ดูเเลตัวเองต่อเนื่อง
เทคนิค 3 อ. ลดเสี่ยง (เเต่เอาจริง มันก็คือการดูเเลตัวเองเเหละ)
-
อาหาร: ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักผลไม้ ไม่กินจุกจิก คุม BMI ต่ำกว่า 23 ลดน้ำหนัก 7% ของน้ำหนักเริ่มต้น (ถ้าเกิน) ลดทีละ 0.5 กก./สัปดาห์ (ผมว่ามันยากนะ เเต่ก็ลองดู)
-
ออกกำลังกาย: อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เลือกที่ชอบ ที่ทำได้จริง ไม่ต้องหักโหม (ผมขี้เกียจ)
-
อารมณ์: หาวิธีจัดการความเครียด ออกไปเจอเพื่อน ทำกิจกรรมที่ชอบ ฝึกสติ นั่งสมาธิ ปรึกษาจิตเเพทย์ (ถ้ามันหนักหนา) ผมว่าดนตรีช่วยได้เยอะนะ
ข้อมูลเพิ่มเติม (ที่อยากบอก)
- เบาหวานชนิดที่ 2 ป้องกันได้จริง เเต่ต้องเริ่มตั้งเเต่เนิ่นๆ
- พันธุกรรมก็มีส่วน เเต่พฤติกรรมสำคัญกว่า
- ความเครียดเรื้อรัง เพิ่มความเสี่ยงเบาหวานได้
- การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็สำคัญ
- บางที… การยอมรับความจริง ก็ช่วยให้ปล่อยวางได้ง่ายขึ้น
- เช็คระดับน้ำตาลเป็นประจำ ถึงไม่ป่วยก็เช็คบ้าง
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต