ไตรกลีเซอไรด์สูง 200 อันตราย ไหม

21 การดู
อันตรายครับ ไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 200 มก./ดล. เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ, หลอดเลือดสมอง, ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน, และภาวะไขมันพอกตับ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับพฤติกรรม ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย และรับการรักษาที่เหมาะสมหากจำเป็น อย่านิ่งนอนใจถึงแม้จะไม่มีอาการ
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไตรกลีเซอไรด์สูง 200 อันตรายไหม?

ไตรกลีเซอไรด์เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบในกระแสเลือด ไตรกลีเซอไรด์จะถูกผลิตขึ้นจากอาหารที่รับประทานเข้าไป โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน นม เนย เนยแข็ง ไตรกลีเซอไรด์ที่อยู่ในระดับสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) ถือว่าเป็นระดับที่สูง โดยระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงมาก (500 mg/dL ขึ้นไป) อาจเป็นอันตรายต่อตับและหัวใจได้

อันตรายจากไตรกลีเซอไรด์สูง

ไตรกลีเซอไรด์สูงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ดังนี้

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด: ไตรกลีเซอไรด์สูงส่งเสริมการสะสมของคราบไขมันในผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง
  • ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน: ไตรกลีเซอไรด์สูงมาก (มากกว่า 1,000 mg/dL) อาจทำให้เกิดการอักเสบของตับอ่อน
  • ภาวะไขมันพอกตับ: ไตรกลีเซอไรด์ที่สูงอาจสะสมในตับ จนนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับได้

อาการของไตรกลีเซอไรด์สูง

ในระยะแรกๆ มักไม่มีอาการ แต่ในกรณีที่ไตรกลีเซอไรด์สูงมาก อาจมีอาการดังนี้

  • ปวดท้องส่วนบน
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • อ่อนเพลีย
  • ปัสสาวะขุ่น

การรักษาไตรกลีเซอไรด์สูง

หากตรวจพบว่ามีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง แพทย์จะแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดระดับไตรกลีเซอไรด์ เช่น

  • ลดน้ำหนัก: หากมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การลดน้ำหนักสามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้
  • ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและลดระดับไตรกลีเซอไรด์
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: ควรรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ไขมันดีสูง และเส้นใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ปลา และเนื้อไม่ติดมัน
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง: อาหารที่มีน้ำตาลสูงจะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ในร่างกาย
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ได้

ในบางรายอาจจำเป็นต้องได้รับยาเพื่อลดระดับไตรกลีเซอไรด์ เช่น

  • ไฟเบรต (fibrates): ยาไฟเบรตช่วยลดการผลิตไตรกลีเซอไรด์ในตับ
  • ไนอาซิน (niacin): ไนอาซินช่วยลดการหลั่งไตรกลีเซอไรด์จากตับเข้าสู่กระแสเลือด
  • กรดไขมันโอเมก้า-3: กรดไขมันโอเมก้า-3 จากปลาหรืออาหารเสริมสามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้

การป้องกันไตรกลีเซอไรด์สูง

การป้องกันไตรกลีเซอไรด์สูงทำได้โดย

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • รักษาสุขภาพน้ำหนัก
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
  • ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์

สรุป

ไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 200 mg/dL ถือเป็นระดับที่สูงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรับการรักษาที่เหมาะสมเพื่อลดระดับไตรกลีเซอไรด์ลง อย่านิ่งนอนใจถึงแม้จะไม่มีอาการก็ตาม