GFR ต่ําเกิดจากอะไร

27 การดู

สาเหตุของค่า GFR ที่ลดลงอาจเป็นเพราะอายุที่มากขึ้น แต่บทความนี้จะเน้นสาเหตุที่เกิดจากโรคไตเสื่อมจากเบาหวาน หากค่า GFR ต่ำกว่า 60 อาจบ่งชี้ถึงโรคไต ควรตรวจซ้ำห่างกัน 3 เดือน หากยังพบค่า GFR ต่ำกว่า 60 อาจวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตเรื้อรัง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

GFR ต่ำ: เมื่อเบาหวาน “ทำร้าย” ไตของคุณ

อัตราการกรองของไต (Glomerular Filtration Rate หรือ GFR) คือตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของไต หาก GFR ของคุณลดลง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าไตกำลังมีปัญหา แม้ว่าอายุที่มากขึ้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ GFR ลดลงได้ แต่ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกลงไปถึงสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่พบได้บ่อย นั่นคือ โรคไตเสื่อมจากเบาหวาน หรือ Diabetic Kidney Disease (DKD)

ทำไมเบาหวานจึงส่งผลเสียต่อไต?

เบาหวานเป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ เมื่อระดับน้ำตาลสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียต่อหลอดเลือดเล็กๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงหลอดเลือดฝอยในไต ซึ่งมีหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด เมื่อหลอดเลือดฝอยในไตถูกทำลาย ประสิทธิภาพในการกรองของไตก็จะลดลง ทำให้ GFR ต่ำลงในที่สุด

GFR ต่ำกว่า 60: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

หากผลการตรวจเลือดของคุณแสดงค่า GFR ต่ำกว่า 60 มิลลิลิตรต่อนาที/1.73 ตารางเมตร นั่นอาจบ่งชี้ถึงภาวะโรคไต ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจซ้ำภายใน 3 เดือน หากผลการตรวจซ้ำยังคงแสดงค่า GFR ต่ำกว่า 60 อาจได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease หรือ CKD) ซึ่งโรคไตเสื่อมจากเบาหวานเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคไตเรื้อรัง

ความสำคัญของการตรวจติดตาม GFR อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การตรวจติดตามค่า GFR เป็นประจำมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติของไตได้ตั้งแต่เนิ่นๆ การตรวจพบและเริ่มการรักษาตั้งแต่ระยะแรกๆ จะช่วยชะลอการเสื่อมของไตและป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ไตวาย

การป้องกันและชะลอการเสื่อมของไตจากเบาหวาน

ถึงแม้โรคไตเสื่อมจากเบาหวานจะเป็นภาวะที่คุกคามสุขภาพไต แต่ก็สามารถป้องกันและชะลอการเสื่อมได้ด้วยวิธีการดังนี้:

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม: ปฏิบัติตามแผนการรักษาเบาหวานที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
  • ควบคุมความดันโลหิต: ความดันโลหิตสูงจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไต การควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญ
  • ลดน้ำหนัก: หากมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การลดน้ำหนักจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและโรคไต
  • งดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงหลอดเลือดในไต
  • หลีกเลี่ยงยาที่อาจเป็นอันตรายต่อไต: ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยาใดๆ โดยเฉพาะยาแก้ปวดบางชนิดที่อาจส่งผลเสียต่อไต
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ควรตรวจสุขภาพไตเป็นประจำเพื่อตรวจหาความผิดปกติและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ

สรุป

ค่า GFR ที่ลดลงอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาเกี่ยวกับไต โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อย่างเคร่งครัด การตรวจติดตามค่า GFR อย่างสม่ำเสมอ และการปรึกษาแพทย์เมื่อพบความผิดปกติ จะช่วยป้องกันและชะลอการเสื่อมของไตจากเบาหวาน ทำให้คุณสามารถรักษาสุขภาพไตและคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยาวนาน