ผลไม้อะไรล้างไขมันในเลือด

1 การดู

ผลไม้ลดไขมัน: ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง เบอร์รี่ เน้นทานสดๆ (น้ำผลไม้ไม่แนะนำ) กากใยสูง ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล

ถั่วลดไขมัน: อัลมอนด์ วอลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดฟักทอง ถั่วลิสง แต่ระวัง! แพ้ถั่ว งด!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผลไม้ลดไขมันในเลือด?

ผลไม้ลดไขมันในเลือดเหรอ? อืม… เคยได้ยินมาเหมือนกันนะ

จำได้ว่าตอนนั้นหมอบอกให้กินผลไม้ที่มีกากใยเยอะๆ อ่ะ เหมือนจะช่วยดักจับพวกไขมันไม่ดี ไม่ให้มันซึมเข้ากระแสเลือดง่ายๆ

ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง นี่คือเบสิกเลยนะ ที่บ้านก็ซื้อประจำ แล้วก็พวกเบอร์รี่ทั้งหลายก็ดี แต่แพงงงง! (แอบบ่น)

แต่ที่สำคัญเลยนะ ต้องกินผลไม้สดๆ อ่ะ อย่าไปกินน้ำผลไม้ปั่น เพราะน้ำตาลมันเยอะเกิน กากใยก็เหลือน้อยนิดเดียว เสียดาย

แล้วก็…เคยอ่านเจอว่าพวกถั่วอบก็ช่วยลดไขมันในเลือดได้เหมือนกันนะ แอลมอนต์ วอลนัท อะไรพวกนั้น แต่ระวังเรื่องแพ้ถั่วด้วยนะเออ!

วิธีลดไขมันในเลือดแบบธรรมชาติ

วิธีลดไขมันในเลือดแบบธรรมชาติ 5 ข้อ เพื่อสุขภาพหัวใจที่ดี

ลดไขมันเลือดได้ด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ยากอย่างที่คิด! หลักๆ คือปรับไลฟ์สไตล์นิดหน่อย ลองดู 5 ข้อนี้ครับ

  • เน้นไขมันดี: เลือกทานอาหารที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA) และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA) เช่น อะโวคาโด อัลมอนด์ ปลาแซลมอน น้ำมันมะกอก ปีนี้ผมเน้นกินอะโวคาโดบ่อยขึ้น รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยครับ

  • ไฟเบอร์สำคัญมาก: เพิ่มการกินผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น ผักใบเขียว ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ต่างๆ ช่วยดูดซับไขมัน ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลได้ดี ผมเองก็พยายามทานเยอะขึ้น รู้สึกท้องไม่ค่อยผูกแล้ว

  • ขยับตัวบ้างเถอะ: ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือแค่เดินเร็วๆ ก็ช่วยได้แล้ว อย่าลืมว่าการออกกำลังกาย ไม่ใช่แค่ลดไขมัน แต่ยังช่วยเรื่องสุขภาพโดยรวมอีกด้วย ชีวิตดีขึ้นจริงๆครับ

  • ลดไขมันเลวและโซเดียม: ลดการกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอด ขนมหวาน และอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง พวกนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของสุขภาพหัวใจเลยนะครับ

  • น้ำหนักตัวต้องพอดี: การควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม สำคัญมาก น้ำหนักเกิน เท่ากับเพิ่มภาระให้กับหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด ปีนี้ผมตั้งใจจะลดน้ำหนักลงอีกสัก 3 กิโล ตั้งเป้าไว้แล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม: การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่ารีบร้อน และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่จะเริ่มต้นโปรแกรมควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย เพื่อให้ได้แผนที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่ใช้ได้ผลกับคนๆหนึ่ง อาจจะไม่เวิร์คกับอีกคน