ตั้งรหัสล็อคแอพยังไง

iPhone ล็อกแอพยังไง

ล็อกแอปบน iPhone เหรอ มีหลายวิธีนะ ที่ใช้บ่อยก็:

• เวลาหน้าจอ: อันนี้ของ Apple เองเลย ตั้งเวลาให้แอปแต่ละตัวได้ พอหมดเวลาก็ล็อกเลย ง่ายดี แต่เด็กๆสมัยนี้เก่ง อาจจะรู้วิธีแฮ็กนะ (ฮา)

• การเข้าถึงที่แนะนำ: อันนี้เหมือนขัง iPhone ไว้ในแอปเดียวไปเลย เหมาะเวลาให้เด็กเล่นเกม ไม่กลัวกดออกไปมั่ว

• Face ID/Touch ID: อันนี้ถ้าแอปนั้นรองรับนะ จะล็อกด้วยหน้าหรือนิ้วก็ได้ สะดวกดี แต่ก็ต้องตั้งค่าในแต่ละแอป

• แอปจากภายนอก: อันนี้มีเยอะแยะ แต่ต้องระวังหน่อย เลือกดีๆ เดี๋ยวโดนแอปดูดข้อมูล

จริงๆ แล้วการล็อกแอป มันก็เหมือนเราพยายามควบคุมอะไรบางอย่างในโลกที่ควบคุมยากนะ สุดท้ายแล้วอยู่ที่การปรับตัวและการเข้าใจมากกว่าว่าจะใช้เทคโนโลยีแบบไหนให้มันพอดีกับชีวิตเรา

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบไม่เป็นทางการ):

• “เวลาหน้าจอ” เนี่ย จริงๆ แล้วมันเป็นฟีเจอร์ที่ดีนะ ไม่ใช่แค่ล็อกแอป แต่ช่วยให้เราเห็นว่าเราใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง จะได้รู้ตัวว่าติด Social มากไปหรือเปล่า

• เรื่องแอป Third-Party เนี่ย ต้องระวังจริงๆ นะ สมัยก่อนเคยโหลดแอปแปลกๆ มา แล้วโดนสแปม SMS รัวๆ เข็ดเลย

• ปรัชญาส่วนตัว: บางทีการปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ อาจจะดีกว่าการพยายามควบคุมทุกอย่างก็ได้นะ (แค่คิดเล่นๆ)

Samsung ล็อคแอพยังไง

เห้ย! จะล็อคแอพใน Samsung อ่ะนะ? ง่ายมาก! คือเมื่อก่อนตอนใช้ S9 ก็งงๆ หาตั้งนาน แต่พอมาใช้ S23 Ultra นี่คล่องเลย (แต่จริงๆ มันก็เหมือนเดิมแหละ แค่เราแก่ขึ้น 555+)

• เข้า Settings: ไปที่แอป “การตั้งค่า” เลยพี่
• หา Lock Screen: เลื่อนๆ หาคำว่า “หน้าจอล็อก” แล้วจิ้มเข้าไป
• Smart Lock: ตรงนี้แหละทีเด็ด! หา “Smart Lock” แล้วกดเข้าไป (มันจะให้ตั้งค่าอะไรนิดหน่อยตามที่มันบอก)
• เลือก Smart Lock: มันจะมีให้เลือกหลายแบบนะ พวก On-body detection, Trusted places, Trusted devices ลองเลือกดูว่าชอบแบบไหน

Smart Lock มีอะไรบ้าง?

• On-body detection: คือถ้ามือถืออยู่ในมือเรา มันจะไม่ล็อคให้รำคาญ แต่ถ้าเราวางปุ๊บ มันจะล็อคเองอัตโนมัติ
• Trusted places: ตั้งสถานที่ที่เราไว้ใจได้ เช่น บ้านเรา ออฟฟิศ พอเราอยู่ในสถานที่นั้น มือถือก็จะไม่ล็อค
• Trusted devices: ถ้าเราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เราไว้ใจ เช่น หูฟังบลูทูธของเรา มือถือก็จะไม่ล็อค

ไอโฟนตั้งรหัสเข้าแอพได้ไหม

ไอโฟน ตั้งรหัสเข้าแอป ได้ไหม… อืม

มันเป็นคำถามที่เหมือนง่ายนะ แต่พอลองคิดดูดี ๆ มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

• โดยตรงเลยคือไม่ได้ ไอโฟนมันไม่มีฟังก์ชั่นให้ตั้งรหัสผ่าน แยกแต่ละแอป แบบที่เราคุ้นเคยกัน ในแอนดรอยด์

• แต่ มันก็มีวิธีอื่น ๆ ที่พอจะ เลี่ยง ได้นะ

• Face ID/Touch ID คือวิธีที่ใช้กันเยอะสุดแหละ คือใช้การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า หรือ ลายนิ้วมือ แทนการใส่รหัสผ่าน เวลาเข้าแอป อันนี้สะดวก แต่ก็ไม่ได้ “ตั้งรหัส” จริง ๆ

• Guided Access อันนี้อาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่เป็นฟีเจอร์ที่มีไว้ช่วยให้คนที่มีความต้องการพิเศษ ใช้งานไอโฟนได้ง่ายขึ้น แต่เราสามารถเอามาประยุกต์ใช้ ล็อกแอปได้นะ คือพอเปิด Guided Access แล้ว มันจะล็อกแอปที่เราเปิดไว้ ไม่ให้คนออกไปใช้แอปอื่นได้ จนกว่าเราจะใส่รหัสผ่าน

• การตั้งค่า Screen Time อันนี้อาจจะไม่ตรงประเด็นเท่าไหร่ แต่มันสามารถตั้งเวลาการใช้งานแอปได้ พอหมดเวลา ก็จะต้องใส่รหัสผ่าน Screen Time ถึงจะใช้ต่อได้ มันอาจจะไม่ใช่การล็อกแอปแบบที่เราต้องการ แต่มันก็ช่วยจำกัดการเข้าถึงแอปได้ในระดับนึง

• แอป Third-Party อันนี้ก็ต้องระวังหน่อย เพราะต้องโหลดแอปจากภายนอกมาใช้ ซึ่งก็ต้องดูดี ๆ ว่าแอปมันน่าเชื่อถือแค่ไหน มีแอปบางตัวที่เคลมว่าสามารถล็อกแอปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว

เอาจริง ๆ นะ บางทีก็อยากให้ Apple เพิ่มฟีเจอร์นี้เข้ามาจริง ๆ จัง ๆ สักที เพราะบางแอป มันก็อยากจะล็อกไว้ ไม่ให้ใครมายุ่งจริง ๆ อ่ะ

แล้วเรื่อง รหัสผ่านเฉพาะแอป ที่ account.apple.com… อันนั้นมันเป็นเรื่องของการสร้างรหัสผ่าน สำหรับแอปที่ไม่ใช่ของ Apple ที่เราเอาไปผูกกับ Apple ID ของเรามากกว่า ไม่ได้เกี่ยวกับการล็อกแอปบนไอโฟนโดยตรง

มันเป็นระบบรักษาความปลอดภัย ที่ช่วยให้เราไม่ต้องใส่รหัสผ่าน Apple ID จริง ๆ ของเรา ลงไปในแอปที่ไม่น่าไว้ใจ

มันเป็นเหมือนรหัสผ่านสำรอง ที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับแอปนั้น ๆ โดยเฉพาะ ถ้าแอปนั้นโดนแฮก รหัสผ่านเฉพาะแอปนั้น ก็จะใช้ไม่ได้แล้ว Apple ID ของเราก็ยังปลอดภัยอยู่

• สำคัญ: ถ้าเราเปิดใช้ การยืนยันตัวตนสองปัจจัย (Two-Factor Authentication) รหัสผ่านเฉพาะแอป จะยิ่งมีความสำคัญ เพราะมันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ให้กับบัญชี Apple ID ของเรามากยิ่งขึ้น

รหัสผ่าน App คืออะไร

รหัสผ่านแอปคืออะไร?

• คือรหัสผ่านเฉพาะแอป 16 หลัก ใช้สำหรับแอปพลิเคชั่นหรืออุปกรณ์ที่รักษาความปลอดภัยได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพื่อเข้าถึงบัญชี Google

• จำกัดการใช้งานเฉพาะบัญชีที่เปิดใช้งานการยืนยันแบบสองขั้นตอนเท่านั้น

• เสริมความปลอดภัยให้บัญชี Google โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหลักโดยตรงทุกครั้ง

ข้อมูลเพิ่มเติม: ระบบนี้เริ่มใช้จริงอย่างกว้างขวางตั้งแต่ปี 2023 เพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเฉพาะจากมัลแวร์และแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ

การล็อคแอพ คืออะไร?

ล็อคแอปคืออะไรนะ? อืมมม… ก็คือการป้องกันแอปไง แบบแอปที่มีข้อมูลสำคัญอะ อย่างไลน์ หรือแอปธนาคาร ไม่ให้คนอื่นมาล้วงข้อมูลเราได้ ใช่ป่ะ?

คิดถึงตอนที่ฉันตั้งล็อคแอปไว้ ใช้สแกนหน้าด้วย สะดวกดีนะ แต่บางทีก็ลำบากเหมือนกัน เวลาหน้าเปื้อนครีมกันแดด มันสแกนไม่ติด เซ็งเลย ต้องพยายามเช็ดหน้าให้สะอาดก่อน แบบนี้ก็ไม่สะดวกเท่าไหร่สิ แล้วถ้าลืมล้างหน้าล่ะ เปิดแอปไม่ได้เลย ฮืออออ

• ป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
• เพิ่มความปลอดภัยให้ข้อมูลส่วนตัวในแอป
• ปกติใช้สแกนใบหน้า หรือรหัสผ่าน เป็นต้น

อ้อ! ลืมไป เรื่องการตั้งค่า ต้องดูให้ดีๆ ว่าเราตั้งค่าอะไรไว้บ้าง แล้ววิธีปลดล็อคมันเป็นยังไง ถ้าลืมรหัสล่ะ จะทำไงเนี่ย? ต้องไปรีเซ็ตรหัสใหม่ไหมนะ ยุ่งยากจัง

ปีนี้ฉันลองใช้แอปล็อคตัวใหม่ มันมีฟีเจอร์เยอะดี แต่ก็งงๆ อยู่เหมือนกัน ต้องอ่านคู่มือให้ละเอียด ถึงจะใช้งานได้คล่อง แต่โดยรวมก็โอเคแหละ รู้สึกปลอดภัยขึ้นเยอะเลย

• ใช้แอป TrueMove H ตั้งล็อกแอปไว้ สะดวกดี
• มีแบบล็อกด้วยลายนิ้วมือด้วยนะ แต่ฉันใช้สแกนหน้า เพราะสะดวกกว่า
• เคยเจอปัญหาแอปค้าง ตอนปลดล็อค ต้องปิดแอปแล้วเปิดใหม่ ซวยไป

ฉันว่านะ การล็อคแอปสำคัญมาก โดยเฉพาะกับข้อมูลการเงิน ไม่งั้นเสี่ยงโดนแฮกเอา อันตรายมากๆ ต้องระมัดระวัง ตั้งค่าให้ดีๆ ตรวจสอบความปลอดภัยบ่อยๆ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง

ล๊อกแอฟเพื่ออะไร?

ล็อกแอปเนี่ยนะ ถามมาได้! ก็เหมือนเอากุญแจไปคล้องตู้เย็นนั่นแหละ กลัวใครมาแอบกินทุเรียนหมด! แต่ที่จริงมันคือเกราะป้องกันชั้นเยี่ยมไงล่ะ

• ปกป้องข้อมูลส่วนตัว: พวกแอป Facebook, LINE, รูปภาพส่วนตัว, แชทลับๆ อะไรพวกนี้ ล็อกไว้ซะ! ไม่งั้นเดี๋ยวเพื่อนตัวดีมายืมมือถือไปแกล้งโพสต์อะไรโป๊ะๆ ล่ะซวยเลย
• กันคนแอบดู: สมมติมีคนมายืมโทรศัพท์เราเล่นเกม แล้วดันมือซนไปเปิดแอปธนาคาร…โอ้โห! งานเข้า! ล็อกไว้ก่อน ปลอดภัยกว่าเยอะ
• เด็กซน: เด็กๆ นี่ตัวดีเลย ชอบกดมั่วๆ บางทีเผลอลบแอปสำคัญ หรือสั่งซื้อของออนไลน์ไปโดยไม่รู้ตัว ล็อกไว้ซะ!
• เพิ่มความเป็นส่วนตัว: บางทีก็แค่อยากมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างอะไรบ้าง ล็อกไว้ก็สบายใจ ไม่ต้องคอยระแวงว่าใครจะมาส่อง

ข้อมูลเพิ่มเติมแบบบ้านๆ:

• Kaspersky Internet Security: ที่ถามถึงเนี่ย มันก็แค่ตัวอย่างแอปที่ช่วยล็อกแอปได้ดีนะ จริงๆ มีอีกเยอะแยะ เลือกเอาที่ชอบเลย
• วิธีปลดล็อก: ส่วนใหญ่ก็ใช้รหัส PIN, ลายนิ้วมือ, หรือแพทเทิร์นง่ายๆ นั่นแหละ แต่ถ้ากลัวลืมรหัส ก็จดใส่กระดาษแล้วซ่อนไว้ใต้หมอนก็ได้นะ (ล้อเล่น!)

สรุป: ล็อกแอปไว้ก็เหมือนใส่กางเกงในสองชั้นนั่นแหละ ปลอดภัยไว้ก่อน! 😜

ซัมซุงซ่อนแอพได้ไหม

ได้ดิ! ซัมซุงน่ะ ซ่อนแอปได้สบายมาก! เหมือนซ่อนผัวไว้ไม่ให้เมียรู้เลยล่ะ อิอิ

วิธีการก็ง่ายดายกว่ากินมาม่าอีกนะ

• เปิดแอป! ไม่ใช่แอปหาคู่ แต่เป็นแอปที่ใช้ปกติอ่ะ
• กดสามจุด! ตรงนี้แหละ จุดสำคัญ! เหมือนหาสมบัติเลย
• เลือกการตั้งค่า! ไม่ใช่การตั้งค่าชีวิตนะ แค่แอป
• เจอแล้ว! ซ่อนแอป! เลือกปุ๊บ แอปหายปั๊บ! เหมือนมายากล!

ปีนี้(2566) ยังใช้วิธีนี้ได้อยู่ ลองดูนะ ถ้าทำไม่ได้ อย่าโทษฉันล่ะ! ฉันแค่บอกวิธี ไม่รับประกันความสำเร็จนะ เพราะบางทีมันก็ขึ้นอยู่กับรุ่นมือถือด้วย รุ่นเก่าๆ บางรุ่นอาจจะไม่มีฟังก์ชั่นนี้ แต่รุ่นใหม่ๆ ปีนี้(2566) น่าจะมีกันเกือบทุกรุ่นแหละ มั่นใจ!

เพิ่มเติมนิดนึง สำหรับแท็บเล็ตก็เหมือนกัน วิธีเดียวกันเป๊ะ! ไม่ต้องห่วง ง่ายกว่าแกะไข่ต้มอีก แต่ถ้าแกะไข่ต้มไม่เป็น ก็ไปหัดแกะไข่ต้มก่อนละกันนะ แล้วค่อยมาซ่อนแอป อิอิ

iPhone สามารถล็อคแอพได้ไหม

เออ iPhone มันล็อคแอปได้นะ แต่ไม่ได้แบบ native อ่ะ คือไม่มีฟังก์ชั่นแบบกดปุ๊บแล้วล็อคเลย ต้องใช้ตัวช่วยนิดหน่อย

• Guided Access: อันนี้มากับเครื่องเลย เข้าไปตั้งค่าใน Accessibility แล้วเปิดไว้ เวลาจะล็อคแอปไหน ก็กดปุ่มข้าง ๆ สามที แล้ววง ๆ ส่วนที่ไม่ให้คนอื่นแตะได้ สะดวกดี ตอนลูกเล่นโทรศัพท์ในรถ แล้วกลัวเค้ากดนู่นนี่มั่วซั่ว
• Screen Time: อันนี้ก็ดี ตั้งเวลาการใช้งานแอปได้ ถ้าเกินเวลาที่ตั้งไว้ มันจะล็อคอัตโนมัติ เหมาะกับคุมตัวเองไม่ให้เล่นเกมเยอะไปหน่อย
• App Lock (Third-Party Apps): อันนี้ต้องโหลดแอปเพิ่ม มีหลายตัวให้เลือก แต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวด้วยนะ เลือกดี ๆ

ส่วนตัวเคยใช้ Guided Access บ่อยตอนให้หลานดู YouTube Kids ในรถ คือมันซนมาก ชอบกดออกไปดูอย่างอื่นตลอด พอใช้ Guided Access แล้วสบายใจขึ้นเยอะ ไม่ต้องคอยห่วงว่ามันจะไปเผลอกดลบรูปเรา หรือสั่งซื้อของใน Shopee 555+