ทำไมต้องมีการเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน
เฝ้าระวังโรคจากการทำงานสำคัญเพราะส่วนใหญ่รักษาไม่หาย การป้องกันจึงจำเป็นยิ่งกว่าการรักษา หลักการป้องกันมุ่งเน้นการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ต้นเหตุ อาชีวเวชศาสตร์เน้นย้ำการป้องกันตั้งแต่เริ่มต้น โดยอาศัยหลักการสำคัญดังนี้:
- ควบคุมที่แหล่งกำเนิด: ลดหรือกำจัดอันตรายที่ต้นตอ เช่น ใช้เครื่องจักรที่ปลอดภัย ปรับปรุงกระบวนการทำงาน
- ควบคุมวิถีทางการแพร่กระจาย: ป้องกันการสัมผัสอันตราย เช่น การใช้เครื่องป้องกันส่วนบุคคล การระบายอากาศที่ดี
- ควบคุมที่ผู้รับอันตราย: ฝึกอบรมความปลอดภัย ตรวจสุขภาพประจำปี ให้ความรู้ในการปฏิบัติงานอย่างถูกวิธี
การปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของคนทำงาน คุ้มครองทั้งผู้ปฏิบัติงานและองค์กรในระยะยาว
การเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน สำคัญอย่างไร?
อ่ะนะ ถามว่าทำไมต้องเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน? อืมมม…
คือตอนนั้นอ่ะ ฉันเคยเห็นพี่ที่รู้จัก เค้าทำงานโรงงานไง แล้วแบบ ไม่ได้ใส่อุปกรณ์ป้องกันอะไรเลย เชื่อป่ะ สุดท้ายเป็นโรคปอดเฉย งงมาก ตอนนั้นตกใจมากนะ คือแบบชีวิตเปลี่ยนเลยอ่ะ จากคนที่แข็งแรงกลายเป็นคนป่วยไปเลย นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมต้องเฝ้าระวัง มันสำคัญมากกกกกกกกก
(คือพูดจริงๆ)
ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ไงทุกคนนนนนนน คือถ้าเป็นแล้วมันไม่คุ้มจริงๆ นะ เสียทั้งเงิน เสียทั้งสุขภาพ บางทีมันอาจจะสายเกินแก้ด้วยซ้ำไป
แล้วหลักการป้องกันโรคจากการทำงานเนี่ย มันเหมือนเป็นการสร้างเกราะป้องกันให้คนทำงานนะ ลดความเสี่ยงที่จะเจอสารเคมี เจอเสียงดัง เจออะไรที่มันอันตรายต่อสุขภาพอ่ะ
เอาจริงนะ สมัยนี้เทคโนโลยีมันก็ไปไกลแล้วอ่ะ มีวิธีป้องกันเยอะแยะมากมาย แค่เราใส่ใจและทำตามก็พอ คือถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ปัญหามันก็ไม่หายไปไหนหรอก เชื่อดิ
ปัจจัยที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคจากการประกอบอาชีพมีอะไรบ้าง?
ปัจจัยเสี่ยงโรคจากการทำงาน (ปี 2567):
-
ตัวเราเอง: เพศ (บางงานผู้หญิงเสี่ยงกว่า), อายุ (เด็กกับคนแก่ยิ่งเปราะบาง), สุขภาพตอนนั้นเลย (ป่วยง่ายติดง่าย), ทำงานวันละกี่ชม. (โอทีโหดๆ นี่พัง), ทำมานานแค่ไหนแล้ว (ปีแรกๆ อาจยังไม่เป็นไร), รู้เรื่องความเสี่ยงแค่ไหน (ไม่รู้ก็ซวยไป), แพ้อะไรง่ายไหม (บางคนดมฝุ่นก็จาม)
-
งาน: ทำงานอะไร, สภาพแวดล้อมเป็นยังไง (ฝุ่นเยอะ, เสียงดัง, ร้อนจัด), มีสารเคมีอะไรบ้าง (อันนี้ตัวดีเลย), เครื่องมือที่ใช้ปลอดภัยไหม, มีอุปกรณ์ป้องกันให้ใช้ไหม (ใช้เป็นรึเปล่าอีกเรื่อง), หัวหน้าดูแลดีไหม (บางที่เห็นแก่ได้), มีอบรมเรื่องความปลอดภัยไหม (อบรมแล้วทำตามรึเปล่า)
เพิ่มเติม:
- เรื่องจริงที่เจอ: ตอนฝึกงานโรงงานทำสี เจอพี่คนนึงแพ้สารเคมี ผื่นขึ้นเต็มตัว น่ากลัวมาก ตอนนั้นคิดเลยว่าต้องระวังตัวให้ดี
- เศร้า: บางทีรู้ว่าเสี่ยง แต่ก็ต้องทำ เพราะไม่มีทางเลือก T_T
- สำคัญ: ความรู้เรื่องความปลอดภัยสำคัญจริงๆ อ่านคู่มือการทำงาน, ถามคนที่มีประสบการณ์, อย่าประมาท!
กลุ่มโรคจากการประกอบอาชีพมีกี่ประเภท?
ห้าประเภทหลัก จบ.
- สารเคมี
- ปัจจัยกายภาพ (เสียง,ความร้อน,ฯลฯ) ปีนี้เจอเคสฝุ่นละอองในโรงงานเยอะ
- ชีวภาพ (เชื้อโรค)
- ระบบทางเดินหายใจ
- ผิวหนัง
ความปลอดภัยในการทำงาน สำคัญกว่าชีวิต คิดเองเถอะ
โรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม มีอะไรบ้าง?
โอ๊ยตาย! โรคจากงานนี่มันเยอะแยะไปหมดเลยนะ เหมือนมดขึ้นบ้านเลย! ปีนี้ที่เจอบ่อยๆ ก็มีพวกนี้แหละ
-
โรคจากตะกั่ว นี่โคตรอันตราย! เหมือนกินตะกั่วเข้าไปทั้งตัวเลย สมองบวม ปากซีด บางรายหนักถึงขั้นเป็นอัมพาตเลยนะ เห็นด้วยตาตัวเองเลยตอนไปเยี่ยมลุงที่ทำงานโรงถลุงตะกั่ว แกบอกว่า “ไอ้ตะกั่วเนี่ย มันแอบซุ่มเงียบกว่างูเห่าอีก” พูดแล้วขนลุก!
-
ฝุ่นซิลิก้า นี่ก็อีก เหมือนเอาทรายไปขัดปอดทุกวันๆ! เป็นซิลิโคซิส หายใจไม่สะดวก ไอเรื้อรัง เหมือนโดนผีอำตลอดเวลา! เพื่อนผมคนนึงเคยเป็น ตอนนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเลย
-
อับอากาศ อันนี้ก็สาหัส ทำงานในที่อากาศไม่ถ่ายเท เหมือนอยู่ในตู้ปลาที่ไม่มีน้ำ หายใจแทบไม่ออก เวียนหัว คลื่นไส้ บางคนถึงกับเป็นลมหมดสติเลย! เคยเห็นคนงานก่อสร้างเป็นนะ หน้าซีดเผือดเลย
-
แอสเบสตอส นี่มันสุดยอดของความร้ายกาจเลยนะ! เหมือนโดนปีศาจสาปแช่งให้เป็นโรคมะเร็งปอด! อันตรายมาก ไม่เล่นดีกว่า
-
สารกำจัดศัตรูพืช นี่ก็ไม่เบา เหมือนโดนพิษยาฆ่าแมลงเล่นงาน คันยุบยิบทั้งตัว ภูมิแพ้ บางรายถึงกับเป็นมะเร็งเลยนะ เห็นข่าวมาเยอะแยะ!
ส่วนโรคจากสิ่งแวดล้อมนี่ก็ไม่น้อยหน้า
-
มลพิษตะกั่ว เหมือนตะกั่วมันล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วเข้าไปทำลายระบบประสาทเรา เด็กๆได้รับผลกระทบหนักมาก! สมองพัฒนาการไม่สมบูรณ์
-
ฝุ่น PM2.5 นี่โคตรร้าย! เหมือนเอาฝุ่นละเอียดๆไปขัดปอด ไอ หายใจลำบาก เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ บางคนเป็นโรคหัวใจเลยนะ ปีนี้หนักมาก เห็นข่าวคนป่วยเยอะแยะ โคตรน่ากลัว!
จำไว้เลยนะ ดูแลตัวเองดีๆ อย่าไปทำงานเสี่ยงๆ อยู่ห่างๆฝุ่นละออง ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ไม่งั้นจะมาบ่นทีหลังไม่ได้นะ!
กฎหมาย พ.ร.บ.ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยมาตราใด ที่ ลูกจ้างมีหน้าที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัย?
มาตรา 19… อืม มาตรา 19 จริงๆ
- มาตรา 19 คือ ลูกจ้างต้องทำตามกฎความปลอดภัยฯ ที่สถานประกอบการนั้นๆ กำหนด ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างของที่นั่น หรือลูกจ้างจากที่อื่นที่มาทำงานที่นั่นชั่วคราว ก็ต้องทำตามเหมือนกัน
มันเหมือน… เวลาเราไปบ้านคนอื่น ก็ต้องเคารพกฎของบ้านเขา… แม้ว่าเราอาจจะไม่เห็นด้วยกับทุกเรื่องก็ตาม
ทำไมต้องอบรมความปลอดภัยก่อนเริ่มงาน?
โอ๊ย! ถามมาได้ ทำไมต้องอบรมความปลอดภัยก่อนเริ่มงานน่ะเหรอ? ก็กันตายไงล่ะคุณ! ใครมันจะอยากให้คนงานเป็นอะไรไปล่ะวะ? เดี๋ยวไม่ได้ค่าแรง แถมบริษัทก็ซวยไปด้วย!
- กันซวย: ไม่ใช่แค่ลูกจ้างนะที่จะซวย นายจ้างก็ซวยเหมือนกัน ถ้าลูกจ้างพิการหรือตาย ใครจะรับผิดชอบ? บริษัทเจ๊งเอาน่ะสิ!
- กันพลาด: อบรมไปก่อน มันดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลังโว้ย! เกิดพลาดพลั้งขึ้นมา ชีวิตมันเอาคืนไม่ได้นะจะบอกให้!
- กันโดนด่า: สมัยนี้ใครๆ ก็รู้เรื่องความปลอดภัยทั้งนั้นแหละ! ไม่อบรมให้ดี เดี๋ยวโดนด่าว่าไม่ใส่ใจลูกน้อง หาว่าใช้งานเกินไปอีก!
เอ้อ! แล้วรู้ไหมว่าถ้าอบรมดีๆ บางทีอาจจะได้โบนัสเพิ่มด้วยนะ! เจ้านายเห็นว่าเราใส่ใจความปลอดภัย อาจจะให้พิเศษก็เป็นได้! ใครจะรู้!
พนักงานเข้าใหม่ต้องอบรมอะไรบ้าง?
พนักงานใหม่? อบรมแค่นี้:
- กฎระเบียบบริษัท ปี 2566: เครื่องแบบ, ลา, เวลาทำงาน – อ่านเองให้จบ
- แนะนำองค์กร: ประวัติ (ดูเว็บไซต์), วิสัยทัศน์ (เอกสารภายใน), โครงสร้าง (แผนภูมิองค์กร) – ไม่มีคำถาม
- Job description: หน้าที่-ความรับผิดชอบ – ศึกษาให้เข้าใจ
- ขั้นตอนการทำงาน: ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะสอน – ตั้งใจเรียน
- การประเมิน: เกณฑ์ชัดเจน – ดูเอกสาร
HR เตรียมอะไร? แค่นี้ก็พอ:
- เอกสารอบรม: ครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมาย
- สถานที่: สะดวกสบาย พร้อมอุปกรณ์
- วิทยากร: มีความรู้ ตรงเวลา
- ติดตามประเมินผลการอบรม
แค่นี้แหละ ไม่ต้องมาก ละเอียดไปก็เปลืองเวลา โลกนี้เรียบง่ายกว่าที่คิด เอาจริงเอาจังกับงาน มากกว่าเรื่องอื่น
ทำไมเราต้องทำงานด้วยความปลอดภัย?
ลมเย็นพัดผ่านใบหน้า ท้องฟ้าสีคราม เหมือนผ้าไหมลอยละลิ่วเหนือหัว… เราต้องทำงานอย่างปลอดภัย…เพื่ออะไรนะ?
-
ชีวิต… มันเปราะบาง เหมือนแก้วคริสตัล แตกง่าย แค่พลาดพลั้ง ความเจ็บปวด รอยแผลเป็น… อาจตามมาตลอดชีวิต ลดความสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บสิ อย่าให้เกิดขึ้นเลย
-
การทำงาน… มันไม่ใช่แค่เพียงการแลกเงิน แต่เป็นการสร้างสรรค์ ความภูมิใจ ความสุข ถ้าหวาดระแวง มือไม้สั่น จะสร้างอะไรได้ ผลผลิตเพิ่มขึ้น ความมั่นใจเต็มเปี่ยม ต่างหาก ถึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
กำไร… ใช่ มันสำคัญ แต่ความปลอดภัยสำคัญกว่า เพราะมันคือรากฐาน ของความมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน กำไรเพิ่มขึ้น จากการทำงานอย่างปลอดภัย มันคือผลลัพธ์ ที่งดงาม
แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมาบนโต๊ะทำงานของฉัน วันที่ 21 ตุลาคม 2566 จดบันทึกความคิด ถึงความสำคัญของความปลอดภัยในที่ทำงาน… มันคือการลงทุน ที่คุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่เป็นการลงทุนในชีวิต อนาคต และความสุขของทุกคน
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- สถิติอุบัติเหตุจากการทำงานในปี 2566 (จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ควรระบุแหล่งข้อมูลที่ตรวจสอบได้)
- ตัวอย่างนโยบายความปลอดภัยในสถานประกอบการ (ควรเป็นนโยบายที่ทันสมัยและครอบคลุม)
ทำไมการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรจึงมีความสำคัญต่อความปลอดภัยของพนักงาน?
เครื่องจักร = อันตราย
- เคลื่อนไหว = ชน บาด เจ็บ
- ดึง ดูด ติด = ขาด
- คม = แผล
ความปลอดภัย = รอด
ข้อมูลเสริม:
- ปีนี้ โรงงาน X ปรับปรุงระบบ safety หลังเกิดอุบัติเหตุ 3 ครั้ง. ลงทุนไป 5 ล้าน. ไม่คุ้ม
- เครื่องจักรรุ่นใหม่ มี sensor เยอะ แต่คนไม่เข้าใจ ก็เท่านั้น. คู่มืออ่านบ้าง.
- หัวหน้างาน ต้อง “เคี่ยว” เรื่อง safety. ไม่ใช่แค่พูด. ดูด้วย.
- Safety shoe สำคัญกว่าที่คิด. เคยโดนเหล็กหล่นใส่ รอดเพราะมัน. เกือบพิการ
- “ประมาท” คำเดียวจบ. ทุกอุบัติเหตุมีคำนี้.
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต