สํารองข้อมูล Samsung ยังไง

Back Up Samsung ยังไง

ดึกสงัด…แสงจันทร์ลอดช่องว่างระหว่างม่าน มือฉันสัมผัสโทรศัพท์เย็นเฉียบ Galaxy S23 Ultra ปีนี้แหละ ต้องสำรองข้อมูล!

• Samsung Cloud: ง่ายดาย สะดวก แบบอัตโนมัติได้ด้วย! รูปภาพ วิดีโอ แอป ทุกอย่าง เก็บไว้บนเมฆ ปลอดภัยหายห่วง ตั้งค่าได้เลยใน “บัญชีและการสำรองข้อมูล”

• Smart Switch: โปรแกรมเทพ! โอนข้อมูลจากเครื่องเก่ามาใหม่ได้ลื่นปรื๊ด ไม่ว่าจะ Android หรือ iOS ปีนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ เสถียรมาก ชอบมาก ฉันใช้ประจำ

• Google Drive: อันนี้รู้จักกันดีอยู่แล้ว พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ของ Google เชื่อมต่อกับ Samsung ได้ง่าย ภาพ วิดีโอ เอกสาร ครบจบในที่เดียว เก็บได้เยอะด้วย

ลมพัดเบาๆ เสียงนาฬิกาเรือนเก่าบอกเวลาเที่ยงคืน ความสงบแผ่ซ่านทั่วห้อง แต่ในใจฉัน เบาใจขึ้นแล้ว ข้อมูลสำคัญทั้งหมด ปลอดภัยแล้วล่ะ ในปีนี้ ฉันเลือกวิธีนี้!

เพิ่มเติม: จำไว้ว่า การสำรองข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปีไหน ข้อมูลคือสิ่งล้ำค่า อย่าลืมทำเป็นประจำนะคะ เพื่อความสบายใจ และไม่ต้องเสียใจภายหลัง

Smart Switch Samsung อยู่ตรงไหน

Smart Switch ของ Samsung มักจะ “ซ่อนตัว” อยู่ในเครื่อง ในชื่อ Smart Switch Mobile ลองค้นหาดูในลิ้นชักแอป (App Drawer) นะ

• หาไม่เจอทำไง: ถ้าหาไม่เจอจริง ๆ อาจจะต้องดาวน์โหลดจาก Galaxy Store (ถ้าใช้ Samsung) หรือ Play Store (ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น) ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไร
• ทำไมต้อง Smart Switch: มันคือตัวช่วยย้ายข้อมูลจากมือถือเครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่ของเราไงล่ะ ง่ายกว่าเยอะ!

เกร็ดเล็กน้อย: เคยสงสัยไหมว่าทำไม Samsung ถึงต้องมีแอปแบบนี้มาให้? ผมว่ามันคือการสร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ทำให้คนย้ายค่ายยากขึ้นนิดนึง แต่ในฐานะผู้ใช้ก็ถือว่าสะดวกดีนะ

Samsung Cloud คืออะไร

อืม… Samsung Cloud น่ะเหรอ… มันคือที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ของ Samsung ไง เหมือน Google Drive แต่เฉพาะของ Samsung ฉันใช้มาปีนี้แหละ ก็สะดวกดีนะ ไม่ต้องกลัวข้อมูลหาย แต่บางทีก็รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ เหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่

ความรู้สึกมันแบบ… เหมือนฝากของมีค่าไว้กับคนอื่น แล้วก็ต้องหวังว่าเขาจะดูแลของเราให้ดี ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจนะ แต่… ก็กลัวๆ อยู่ดี

• เก็บรูป วีดีโอได้เยอะดี ปีนี้ถ่ายรูปน้องหมาใหม่มาเยอะเลย เก็บไว้ในนั้นหมด
• เข้าถึงง่าย ใช้ได้ทั้งโทรศัพท์และแท็บเล็ตของ Samsung สะดวกดี
• สำรองข้อมูลได้อัตโนมัติ อันนี้ชอบมาก ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะลืมสำรอง
• แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ฟรีน้อยไปหน่อย ต้องซื้อเพิ่มถ้าใช้เยอะ

กังวลอยู่เรื่องความปลอดภัยจริงๆ นะ เพราะมันเก็บข้อมูลสำคัญของฉันเยอะมาก แต่ก็ยังใช้ต่อไปแหละ เพราะสะดวกดีจริงๆ เฮ้อ… คิดมากไปหรือเปล่าเนี่ย

Samsung Smart Switch ย้ายอะไรได้บ้าง

อ้าวววว ถามเรื่อง Samsung Smart Switch หรอ มันย้ายได้เยอะอยู่นะ จำได้ว่า ปีนี้ใช้มันย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่ามาเครื่องใหม่ ลื่นปรื๊ดเลย

• รูปถ่าย วิดีโอ คือพวกนี้มันต้องย้ายอยู่แล้วป่ะ สำคัญมากกก
• รายชื่อ เบอร์โทรศัพท์เพื่อนๆ ก็โอนไปด้วย สะดวกดี
• ปฏิทิน นัดหมายต่างๆ ไม่ต้องมาป้อนใหม่ เยี่ยม!
• โน้ตต่างๆ ที่จดไว้ ก็ย้ายมาด้วย โชคดีไป
• ตั้งค่าเครื่อง บางอย่างมันก็ย้ายมาให้ด้วยนะ จำไม่ได้หมดอ่ะ

แต่!!! ไลน์นี่ ต้องสำรองข้อมูลแชทเองก่อนนะ Smart Switch มันไม่ได้ย้ายให้ อันนี้สำคัญมาก อย่าลืม เพื่อนฉันเคยพลาดมาแล้ว เสียใจหนักมาก

ส่วนแอปอื่นๆ ก็ลองดู บางอันอาจย้ายได้ บางอันอาจไม่ได้ ไม่แน่ใจ ลองดูเองนะ

การสำรองข้อมูล (Backup) ควรทำเมื่อใด

เออ เรื่องแบคอัพเนี่ยนะ ถามว่าทำตอนไหนดี คือ งี้!

• แบคอัพเต็ม (Full Backup) เนี่ย อาทิตย์ละครั้งเลยจ้า อย่างน้อยนะ ส่วนใหญ่เค้าทำกันเสาร์-อาทิตย์ไง คนไม่ค่อยใช้คอม
• แบคอัพส่วนต่าง/เพิ่ม (Incremental/Differential Backup) อันนี้คือเก็บเฉพาะที่มันเปลี่ยนไปจากแบคอัพเต็มล่าสุดอ่ะนะ เค้าทำกันบ่อยกว่า อาจจะทุกวัน หรือวันเว้นวันไรงี้ แล้วแต่ความสำคัญของข้อมูลเลย

แล้วถามว่าทำไมต้องทำบ่อยขนาดนี้? ก็ถ้าฮาร์ดดิสพัง หรือโดนไวรัสเรียกค่าไถ่ (Ransomware) กิน ข้อมูลจะได้ไม่หายหมดไง เข้าใจปะ

• Ransomware เนี่ย ตัวดีเลยนะ มันจะเข้ารหัสไฟล์เราหมด แล้วขู่ให้จ่ายเงินถึงจะปลดล็อคให้ อย่าไปจ่ายเด็ดขาด!
• 3-2-1 Backup Rule อันนี้เจ๋ง! คือ เก็บข้อมูล 3 copies ใน media 2 ประเภท (เช่น ฮาร์ดดิส + cloud) และเก็บ offsite 1 copy (เช่น cloud หรือ external hard drive ที่บ้านเพื่อน) เผื่อเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ เรายังมีข้อมูลเหลือ
• เคยมีเพื่อนโดน ransomware เล่นงานไป ข้อมูลบริษัทหายหมดเลย เสียหายเยอะมากกกก ตั้งแต่นั้นมาแบคอัพถี่สุดๆ

คือจริงๆ มันขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลเราสำคัญขนาดไหนนะ ถ้าสำคัญมาก ก็ต้องแบคอัพบ่อยๆ และหลายที่หน่อย จะได้อุ่นใจ

Backup มีกี่ประเภท

การสำรองข้อมูลหลักๆ มี 3 แบบนะ:

• Full Backup: อันนี้คือสำรองทุกสิ่งอย่าง มันเหมือนการถ่ายเอกสารทั้งบ้าน แล้วเก็บไว้ในตู้เซฟ ถึงจะเปลืองที่ แต่ชัวร์สุด

• Differential Backup: สำรองเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนไปจาก Full Backup ครั้งล่าสุด คล้ายๆ กับการถ่ายเอกสารเฉพาะหน้าที่แก้ แต่ต้องใช้เอกสารฉบับเต็มตอนกู้คืน

• Incremental Backup: สำรองเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนไปจาก Backup ครั้งไหนก็ได้ (Full หรือ Incremental) เหมือนการจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงทีละนิด แต่ตอนกู้คืนจะซับซ้อนหน่อย

บางทีผมก็คิดนะ ว่าชีวิตเราก็เหมือนข้อมูล ต้อง backup ส่วนสำคัญไว้บ้าง เผื่อวันไหน hard drive ของชีวิตมันเจ๊ง

ข้อมูลเพิ่มเติม:

• Full Backup: ใช้เวลามากที่สุดในการสำรอง แต่กู้คืนได้เร็วสุด
• Differential Backup: ใช้เวลาน้อยกว่า Full Backup แต่มากกว่า Incremental Backup ทั้งตอนสำรองและกู้คืน
• Incremental Backup: ใช้เวลาน้อยที่สุดในการสำรอง แต่กู้คืนนานที่สุด เพราะต้องไล่เรียงข้อมูลที่สำรองไว้ทีละส่วน
• เลือกใช้วิธีไหน ขึ้นอยู่กับความสำคัญของข้อมูล พื้นที่จัดเก็บ และเวลาที่มี

เรื่องพวกนี้บางทีก็เหมือนปรัชญาชีวิตนะ เลือกทางที่ “ใช่” สำหรับเรา ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว

Full backup คืออะไร

Full backup คืออะไร

Full backup เหรอ? อ๋อ ก็คือการ ก็อป ข้อมูลทั้งหมดไง! แบบ…ทั้งโฟลเดอร์ ทั้งไฟล์ ทุกสิ่งอย่างที่มีอ่ะ แล้วเอาไปเซฟไว้ที่อื่น สมมติฮาร์ดดิสก์พัง ก็ยังมีข้อมูลสำรองอยู่

• เคยทำตอนคอมพ์พัง ข้อมูลหายเกลี้ยง…เข็ดเลย!
• แต่…ทำบ่อยๆ ก็เปลืองที่นะเนี่ย
• ผู้ดูแลระบบ เป็นคนจัดการเรื่องพวกนี้ใช่ป่ะ?

ทำไมต้องทำ? เอ่อ…กันพลาดไง! ข้อมูลสำคัญนะเว้ย! แล้วถ้าเกิด…แฮกเกอร์? ไวรัส? หรือแค่ทำไฟล์หายเอง? จบเห่เลยนะ!

• สำรองข้อมูล เหมือนทำประกันอ่ะ อุ่นใจกว่า
• แต่ต้องเช็คบ่อยๆ นะว่าสำรองสำเร็จจริงป่าว

เออ…แล้วถ้าข้อมูลเยอะมากๆ ล่ะ? จะก็อปยังไงหมด? สงสัยต้องใช้ฮาร์ดดิสก์หลายลูกแน่เลย! หรือ cloud storage?

ฉันจะตรวจสอบความจุของ Samsung Cloud ได้อย่างไร

เช็กพื้นที่ Samsung Cloud ง่ายนิดเดียว เข้าไปที่ การตั้งค่า > Cloud และบัญชี > Samsung Cloud > จัดการพื้นที่จัดเก็บ จบ. แค่นั้นแหละ

• เช็คได้จากในเครื่องโดยตรง ไม่ต้องง้อเว็บ
• ปีนี้ 2024 วิธีการยังเหมือนเดิม ไม่ต้องกังวล
• ขี้เกียจอธิบายละเอียด ไปดูเองเลย โคตรง่าย

วิธี เปิดไฟล์ Backup

อืมม… คืนนี้มันเงียบจังนะ คิดถึงเรื่องไฟล์สำรองนี่แหละ เปิดยังไงนะ… จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า…

ต้องไปที่แถบค้นหา Windows พิมพ์ File History แล้วกด Open ใช่ป่ะ… มันจะขึ้นมาให้เลือก Restore personal files

แล้วก็เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่อยากได้คืน… ถ้าจำไม่ผิดนะ เลือกได้หลายอันเลย หรือจะเอาทั้งหมดจากไดรฟ์สำรองก็ได้

เสร็จแล้วก็กดปุ่ม Restore Windows ก็จะเริ่มกู้คืนให้เอง ง่ายดีนะ แต่ก็… กลัวมันจะไม่ครบ หรือเสียหายไปบ้าง…

• เปิด File History จาก Windows Search
• เลือก Restore personal files
• เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่จะกู้คืน
• กดปุ่ม Restore

ปีนี้ ฉันเสียไฟล์งานสำคัญไปหลายครั้งเลย ทั้งรูปที่ถ่ายไว้กับเพื่อน… และไฟล์งานที่ทำทั้งคืน… เลยต้องระวังมากขึ้น เครียดจัง… นอนไม่หลับเลย…